PROJECT ALMANAC: อีกหนึ่งความพยายามที่ต้องการพาตัวเองหลุดไปจากกรอบเดิมๆ ของหนังเจอฟุตเตจ ที่มักจะเป็นหนังเขย่าขวัญ หรือสยองขวัญ ในแบบเดียวกับที่ Chronicles เลือกที่จะทำออกมาเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร และกับ Project Almanac ผลงานการสร้างของไมเคิล เบย์ นี่คือหนังไซ-ไฟ ย้อนเวลา ที่ไม่ได้มีศัพท์แสงทางวิชาการมากมาย แล้วยังเป็นหนังวัยรุ่น ที่ว่าด้วยก๊วนเด็กจีเนียสกลุ่มหนึ่ง ที่ไปพบเครื่องเดินทางย้อนเวลา และพิมพ์เขียวในส่วนต่างๆ ของมัน ที่ยังอยู่ในระหว่าการดำเนินการ
และพวกเขาก็ใช้มันเดินทางย้อนเวลาแก้ไขสิ่งต่างๆ ในอดีต เพื่อประโยชน์ของตัวเอง และพวกพ้อง ทั้งที่เป็นเรื่องของเงินทอง และเรื่องความรัก ก่อนที่จะพบว่า การเดินทางของพวกเขา ทำให้เกิดผลกระทบต่างๆ ตามมาในวงกว้าง และทำให้ต้องหาทางแก้ไข ที่หนนี้ไม่ใช่เพื่อตัวเองอีกต่อไปแล้ว
แม้จะเป็นงานในแบบเจอฟุตเตจ แต่หนังก็ไม่พยายามที่จะพูดถึงสิ่งที่ตัวเองเป็น หากเลี่ยงที่จะทำให้คนดูรู้สึกว่าเป็นหนังที่มาจากการถ่ายทำในแบบเกาะติดไปกับตัวละครมากกว่า และนั่นก็ทำให้ปัญหาของหนังทางนี้ ที่พยายามจะให้คนดูเชื่อว่า ที่เห็นคือเรื่องจริง ตกไปด้วย เพราะแค่เปิดมากับเรื่องการสร้างเครื่องเดินทางย้อนเวลาโดยเด็กไฮสคูล มันก็ดูจะเกินจริงในแง่ของวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติที่สามารถผูกเรื่องได้แบบไม่สมเหตุสมผลมากกว่า
หนังเดินไปข้างหน้าได้กระชับ อาจจะไม่ถึงกับลุ้นระทึก แต่ก็ดูสนุก ตื่นเต้นได้ในระดับหนึ่ง มีอารมณ์ขัน แล้วค่อยๆ เผยความโรแมนติคของตัวเองออกมา ในช่วงท้าย ซึ่งทำให้หนังมีมิติ มีอารมณ์ และก่เรื่องราวที่ซับซ้อนขึ้นไปอีกระดับ ก่อนที่จะปิดจบลงในแบบที่ให้ผู้ชมตั้งคำถามกับบทสรุปของหนังอีกครั้งว่าเป็นยังไง
ในแง่ของความพยายามที่จะฉีกตัวเองออกจากกรอบของหนังเจอฟุตเตจ Project Almanac ถือว่าทำได้สำเร็จ แต่กับเทคโนโลยียุคใหม่ ที่ไม่ได้มีแค่กล้องมือถือ หากยังมีกล้องโกโปร หรือกล้องจากโทรศัพท์ และวัสดุอื่นๆ อีก
งานนี้ มีวิ้งๆ กันบ้างเป็นระยะๆ นะครับท่านผู้ชม
โดย นพปฎล พลศิลป์
สามารถกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่