กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นิตยสารบิลล์บอร์ดได้สรุปยอดขายงานเพลงในไตรมาสที่ 3 ของปี ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมา ต้องถือว่า วงการเพลงยังเดินถือเทียนท่ามกลางสายลมที่พัดกระหน่ำกันอยู่ต่อไป เมื่อยังไม่มีแสงสว่างมาทนำทาง หรือมีอะไรมาบดบังสายลมที่ดูเหมือนจะกรรโชกมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเคย
โดยมีเพลงที่สามารถขายดาวน์โหลดได้เกิน 1 ล้านหน่วยเพียงแค่ 60 เพลงเท่านั้น ขณะที่ปีที่ผ่านมามีถึง 83 เพลง แถมหลังจากผ่านมา 9 เดือน ไม่มีิศิลปินคนไหนเลยที่ขายอัลบั้มมากกว่า 1 ล้านหน่วย เพระอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในปีนี้นั้น เป็นงานซาวนด์แทร็คแอนิเมชัน Frozen ที่ขายไปได้ถึง 3.12 ล้านหน่วย
สำหรับปีก่อนนั้น มีอัลบั้มอยู่ 5 ชุด ที่ขายได้เกินล้าน นำมาโดย 20/20 Experience ของจัสติน ทิมเบอร์เลค ซึ่งขายได้ 2.3 ล้านหน่วยเมื่อจบไตรมาสที่สามของปี 2013 ส่วนศิลปินที่อัลบั้มขายดีที่สุดของปีนี้ได้แก่ Beyonce กับอัลบั้มชื่อเดียวกับชื่อเธอ ที่ขายไปแล้ว 776,000 หน่วย ตามด้วย Pure Heroine ของลอร์ด 754,000 หน่วย แต่อัลบั้ม 2 ชุดนี้ ก็เหมือนๆ อัลบั้มซาวนด์แทร็คหนัง Frozen ที่วางจำหน่ายตั้งแต่ปีที่แล้ว นั่นหมายความว่า อัลบั้มขายดี 3 อันดับแรกของปีนี้ เป็นงานค้างปี จนอันดับ 4 ถึงจะเป็นงานที่วางจำหน่ายในปีนี้ ได้แก่อัลบั้มของเอริค เชิร์ช Outsiders ซึ่งขายไปได้ 722,000 หน่วย ชนะอัลบั้ม Ghost Stories ของโคลด์เพลย์อยู่นิดเดียว
ทำให้ถึงตอนนี้ ยังไม่มีอัลบั้มของศิลปินรายไหน ที่ทำยอดขายระดับแผ่นแพลตินัม ซึ่งมอบให้กับอัลบั้มที่ยอดขายเกินล้าน ที่ปีนี้มีแค่อัลบั้มซาวนด์แทร็ค Frozen ชุดเดียวที่ทำได้ แถมออกมาตั้งแต่ปี 2013 เช่นเดียวกับงานของ เอริค เชิร์ช และลอร์ด แต่ 2 ชุดหลังก็ยังขายไม่ถึงล้าน
ในส่วนการขายเพลงดาวน์โหลด Happy ของฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ ขายดีที่สุดของปีนี้ ด้วยยอด 6.2 ล้านโหลด ตามด้วย All of Me ของจอห์น เลเจนด์ 4.4 ล้านโหลด และ Dark Horse ของแคตี เพอร์รีที่ร้องกับจุยซี เจ 4.3 ล้านหน่วย
และก็เหมือนเคย ยูนิเวอร์แซล มิวสิค เป็นค่ายที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด 38.3% จากยอดขายรวมกันของอัลบั้มและเพลงที่มีการออกเป็นอัลบั้ม ซึ่งเท่ากับตอนสิ้นไตรมาสที่สามของปีที่แล้ว ขณะที่โซนี มิวสิค ตกจาก 29.1 เป็น 27.7% ส่วนวอร์เนอร์ มิวสิค ตกลงเล็กน้อยจาก 19.7 เป็น 19.4% นั่นหมายความว่า บรรดาค่ายเพลงอินดีแท้ๆ ที่ไม่มีค่ายใหญ่จัดจำหน่ายงานให้ มีตัวเลขที่เพิ่มขึ้น จาก 12.3% เป็น 13.7% เกือบๆ 1% เลยทีเดียว ซึ่งตัวเลขตรงนี้ยังต้องรอการตรวจสอบจากบริษัทจัดจำหน่ายของพวกเขาอีกที
แม้จะดูไม่มากเพียงแค่ 12.3% แต่ถ้านับรวมบรรดาสังกัดอินดี ที่มีค่ายใหญ่เป็นเจ้าของ ส่วนแบ่งการตลาดของพวกเขาจะขยับไปถึง 35% เพราะยังมีค่ายอินดี ที่อยู่ในค่ายเพลงใหญ่อีกเพียบ เช่น เรเซอร์ แอนด์ ไท, เคิร์บ ก็มีค่ายใหญ่จัดจำหน่ายให้ และสังกัดแบบเอพิทาห์และโบรเคน โบว ก็มีบริษัทอินดี ที่ค่ายใหญ่เป็นเจ้าของแบบ เรด หรืออัลเทอร์เนทีฟ ดิสทริบิวชัน อัลไลแอนซ์ จัดจำหน่ายงาน ที่สามารถรวบมาอยู่ในส่วนแบ่งการตลาดของค่ายอินดีได้
จากเรื่อง ยอดขายเพลงประจำไตรมาสที่สาม ยังเดินหน้าสู่หุบเหว (1) โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2557
ให้กำลังใจด้วยการคลิกไลค์เพจสะเด่าส์ได้ง่ายๆ ที่นี่