เรื่องราวของการเปิดปูมย้อนหลัง มาดูกันว่ามีหนังเรื่องไหนบ้าง ที่สตีเวน สปีลเบิร์ก ได้แค่ ‘เกือบ’ สร้าง (4)

แม้จะมีหนังออกฉายอย่างต่อเนื่อง แต่บางครั้งกว่าสตีเวน สปีลเบิร์กจะปั่นงานออกมาสักเรื่องหนึ่ง ก็กินเวลานานไม่ใช่เล่น ตัวอย่างที่เห็นๆ กันก็คือ เขาต้องใช้เวลาถึง 11 ปี กว่าจะทำให้นิยายของ ดอริส เคียร์น กูดวิน เรื่อง Team Of Rivals กลายเป็น Lincoln แต่บางทีก็ขึ้นจอได้อย่างรวดเร็วเช่น Bridge Of Spies ที่เพิ่งเข้าฉาย และบางเรื่องก็ไม่เคยกลายเป็นภาพยนตร์เลย ทั้งๆ ที่ตัวงานอยู่ในมือของผู้กำกับระดับเกรด เอ ของฮอลลีวูด ที่ทำงานออกมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษเข้าไปแล้ว

ด้วยความที่เป็นผู้กำกับหัวแถวของวงการ ไม่น่าแปลกใจที่สปีลเบิร์กจะได้งานระดับท็อปๆ มาอยู่ในมือเสมอๆ แต่บางเรื่องก็ถูกสร้าง บางเรื่องก็ไม่ถูกสร้างด้วยเหตุผลบางอย่าง และบางเรื่องก็กลายเป็นงานของผู้กำกับรายอื่น เช่น Harry Potter, Cruising, The Curious Case Of Benjamin Button, Oldboy และ Interstellar

และนี่คือหนังเรื่องเด่นๆ ที่สตีเวน สปีลเบิร์กเลือกที่จะปล่อยวาง ซึ่งคัดสรรมาโดย โอลิเวอร์ ลีทเทิลตัน แห่ง indiewire.com เลือกมา โดยก่อนหน้านี้ ก็มี Reel To Reel, Night Skies/ ET 2: Nocturnal Fears, Flushed With Pride: The Story Of Thomas Crapper, Blackhawk, After School/ Growing Up/I’ll Be Home, The Lost Indiana Jones Movies, Lindbergh, Ghost Soldiers, Spares, The Rivals, The Trial Of The Chicago 7 และ Chocky วันนี้ เราจะมาดูกันต่อว่า มีหนังเรื่องอะไรอีกบ้าง

“Harvey”
หลังโปรเจ็คท์ Chicago 7 จบเห่ สปีลเบิร์กไปทำหนังโม-แค็ป The Adventures Of Tintin ต่อ และช่วงกลางปี 2009 หลังไปปิ๊งนิยายสายลับชุด Matt Helm กับการที่ดรีมเวิร์คส์มีสัญญากับฟ็อกซ์และรีไลแอนซ์ ทำให้เขาเลือกที่จะรีเมค Harvey หนังคลาสสิคจากยุค 1950 ของเจมส์ สจวร์ท หรืออีกนัยหนึ่งคือ เอาบทละครระดับรางวัลพูลิตเซอร์ของ แมรี เชส ที่กลายเป็นหนังเรื่องเดียวกันนี้ มาทำใหม่ เรื่องราวนั้น จะว่าด้วยชายหนุ่มผู้สุภาพ แต่ติดเหล้า ที่เชื่อว่าเพื่อนซี้ของเขาคือกระต่ายล่องหนสูง 6 ฟุต หนังได้โจนาธาน ทร็อปเปอร์ ที่ปัจจุบันเป็นหนึ่งในผู้สร้างสรรค์ซีรีส์ Banshee ทางช่องซีนีแม็กซ์ มาเขียนบท สปีลเบิร์กเข้ามาจับงานในช่วงหน้าร้อนของปี 2009 แล้ววางแผนถ่ายทำในช่วงต้นปี 2010 เพื่อจะได้ออกฉายในช่วงของหนังล่ารางวัล แต่หนังมีปัญหาในเรื่องนักแสดง ทอม แฮงค์ส ได้รับการเสนอบทให้ แต่ปฏิเสธ เพราะไม่อยากถูกนำไปเปรียบเทียบกับเจมส์ สจวร์ท นอกจากนี้ชื่อของ วิลล์ สมิธ, โรเบิร์ท ดาวนีย์ จูเนียร์ ที่กำลังเกิดใหม่จาก Iron Man ก็มีข่าวว่าได้รับการเสนอบท แต่ท้ายที่สุดดาวนีย์ จูเนียร์กับสปีลเบิร์กดูเหมือนจะไม่โอเคกับบทที่เขียนขึ้นใหม่ และพอนักแสดงนำถอนตัวออกไป สปีลเบิร์กก็วางมือ

“Gershwin”
ในช่วงสอง-สามปีที่ผ่านมา สปีลเบิร์กดูเหมือนจะสนุกกับการทำหนังอัตชีวประวัติ เมื่อดูจากงานอย่าง Lincoln และ Bridge Of Spies และอย่าลืมว่า เขาก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของ The Rivals, Chicago 7 หรือกระทั่ง American Sniper ก่อนจะบอกผ่านจนไปถึงมือของปู่คลินท์ อีสท์วูด แล้วก็ยังมีหนังประวัติหนังแข่งรถสูตร 1 – เจมส์ ฮันท์ ที่อเล็กซ์ เพ็ตตีเฟอร์ จาก Magic Mike เข้าชื่อเป็นดารานำ ก่อนที่จะกลายเป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งในงานที่รอน โฮเวิร์ดเอาไปปรับใหม่ Rush แต่ไม่ใช่แค่นี้ เพราะยังมีหนังที่ว่าด้วยตำนานของวงการเพลง ที่เป็นทั้งนักประพันธ์ และนักเปียโน ฝีมือดี จอร์จ เกิร์ชวิน อีกเรื่อง ตัวบทนั้นได้ ดัก ไรท์ จาก Quills เจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์จาก I Am My Own Wife มาเขียนบท ตัวหนังจะเล่าเรื่องเจ้าของงานเพลงชั้นเยียมอย่าง Rhapsody In Blue ที่เชื่อมดนตรีคลาสสิคัล, แจ๊ซซ์ และบรอดเวย์ เข้าด้วยกัน ก่อนที่จะจากไปอย่างน่าเศร้าด้วยวัยเพียงแค่ 38 ปี หนังเรื่องนี้ไปได้ไกลจนถึงขั้นได้ ซาคารี ควินโต จาก Star Trek มารับบทนำ และวางกำหนดถ่ายทำในเดือนเมษายน 2010 แต่เนื่องจากต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมอย่างเต็มที่ สปีลเบิร์กเลยหันไป War Horse ก่อน และหนังเกิร์ชวินก็แท้ง ในปี 2013 ควินโตให้สัมภาษณ์ว่า “ผมไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับบรรดาหนังของสปีลเบิร์ก… เราน่าจะได้คุยกัน แต่เขาได้เงินเป็นพันๆ ล้านจากบริษัทที่บริหาร แล้วก็มีอะไรให้พิจารณาตั้งเยอะ นอกเหนือไปจากงานชิ้นนี้”

“Robopocalypse”
หนังหลายๆ เรื่องที่ว่ามาข้างต้น เป็นหนังที่สปีลเบิร์กเกือบสร้าง แต่ไม่มีเรื่องไหนหรอกที่ใกล้เคียงความจริงเท่าเรื่องนี้ Robopocalypse ซึ่งสร้างจากนิยายในปี 2011 ของ แดเนียล เอช วิลสัน และได้ดรูว์ ก็อดดาร์ด ที่ดัดแปลง Cabin In The Woods กับ The Martian ขึ้นจอได้สำเร็จมาปั้นบท เรื่องราวจะเป็นการมองสงครามระหว่างมนุษยชาติและปัญญาประดิษฐ์ที่มีความรู้สึก ด้วยความสมจริง หลังจากที่เข้ามาจับหนังในปี 2012 สปีลเบิร์กให้สัมภาษณ์กับนิตยสารไทม์ เอาท์ว่า “มันเป็นหนังเกี่ยวกับสงครามที่เกิดขึ้นทั่วโลกระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร ผมมีช่วงเวลาดีๆ ในการสร้างโลกอนาคตจากMinority Report และหนังเรื่องนี้จะเป็นอนาคตที่มาถึงเร็วกว่าที่หลายๆ คนคิด เหตุการณ์ใน Robopocalypse จะเกิดขึ้น 15 – 20 ปีหลังจากนี้ มันจะเป็นอนาคตในอีกแบบที่เราสามารถเชื่อมถึงมันได้ มันเป็นผลสืบเนื่องจากการสร้างเทคโนโลยี ที่มาช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น แล้วจะเกิดอะไร หากมันฉลาดกว่าเรา”

หนังวางกำหนดฉายเอาไว้ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2013 โดยฟ็อกซ์ และจะถ่ายทำฉากบางส่วนด้วยกล้องไอแมกซ์ แต่แล้วการถ่ายทำก็ล่าช้า เพราะผู้กำกับติดงาน Lincoln ทำให้ต้องย้ายวันเปิดตัวไปเป็นเดือนเมษายน 2014 โดยต้องหยุดพักการทำงานที่ใกล้จะเริ่มถ่ายทำกันเต็มที หนังมีคริส เฮมสเวิร์ธ, แอนน์ แฮธาเวย์ และเบน วิชอว์ ที่เซ็นสัญญาแสดงเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนต้นเดือนมกราคม 2013 กำหนดการถ่ายทำก็ต้องเลื่อนไปอีก โดยสปีลเบิร์กให้สัมภาษณ์ว่า “เราพบว่าหนังใช้งบเยอะมาก และผมก็มองว่า มันน่าจะดีกว่าหากเราเล่าเรื่องโดยจำกัดงบลงไป และเน้นไปที่ตัวละครมากกว่าเดิม เพราะฉะนั้นผมเลยบอกให้ทุกคนไปทำงานอื่นกันก่อน ส่วนผมก็จะเริ่มเขียนบทใหม่ แล้วค่อยกลับมาทำหนังเรื่องนี้กันต่อในอีกไม่ช้า” จากที่กะไว้ว่าหนังจะล่าช้าไปสัก 6-8 เดือน ในที่สุดหนังก็หายไปจากสาระบบในการทำงานของสปีลเบิร์กไปแล้ว

นอกจากหนังที่ว่ามาข้างต้น ยังมีหนังอีกหลายเรื่องที่สตีเวน สปีลเบิร์กเข้าชื่อเป็นผู้กำกับ อาทิ White Lightning ของเบิร์ท เรย์โนลด์ส หรือว่า American Sniper แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ไปไหนไกลจากจุดเริ่มต้น กระทั่งหนังตะวันตก Arkansas ของทอม ครูส หรือการดัดแปลงละครเรื่อง A Steady Rain ที่ตอนเปิดแสดงที่บรอดเวย์ ได้แดเนียล เครก กับฮิวจ์ แจ็คแมน เป็นนักแสดงนำ

สปีลเบิร์กยังวางแผนสร้างหนังเกี่ยวกับมาร์ติน ลูเธอร์ คิงเอาไว้นานมาก และมีข่าวว่าเขาได้พูดคุยกับ เดวิด โอเยโลโว ให้มารับบทเดิมที่เล่นไว้ใน Selma แล้วก็ยังมีการเอา West Side Story มาทำใหม่อีกเรื่อง บางทีสปีลเบิร์กอาจจะทำเรื่อง Montezuma ที่ได้ฆาเบียร์ บาร์เด็ม มาเล่น หลังจากเสร็จงานใน Ready Player One ที่กะจะออกฉายในปี 2016 โดยที่ยังมี The Kidnapping Of Edgardo Mortara ซึ่งโทนี คัชเนอร์ เขียนบทเอาไว้ รออยู่อีกเรื่องหนึ่ง

และเป็นไปได้เช่นกันว่า บรรดาหนังที่เป็นข่าวว่า สตีเวน สปีลเบิร์กกำลังจะกำกับเป็นเรื่องต่อไปเหล่านี้ อาจจะหายไปในอากาศ ถึงแม้กระบวนการทำงานจะเริ่มต้นแล้วก็ตามที

จากเรื่อง หนังที่สปีลเบิร์กเกือบจะได้สร้าง และไม่ได้สร้าง โดย ลุงทอย นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1204 ปักษ์หลัง มีนาคม 2559