กว่าจะเป็น The Freewheelin’ อัลบั้มสร้างตัวตนของบ็อบ ดีแลน

ในวันนี้ชื่อของบ็อบ ดีแลน ไม่ใช่ชื่อที่คอเพลงทั้งรุ่นเก่า รุ่นใหม่ไม่รู้จัก นี่คือศิลปินเพลงระดับตำนานอีกคนหนึ่งของวงการเพลง เจ้าของผลงานเพลงระดับคลาสสิคมากมาย ที่ถูกแต่ง ร้องออกมา ไม่ใช่แค่ฟังเพื่อความบันเทิง แต่ยังเปี่ยมไปด้วยสาระมากมาย ทั้งในแง่ความหมายของเพลง ตลอดจนการบ่งบอกเรื่องราวต่างๆ ของสังคม

ซึ่งก็ต้องยอมรับกันว่า อัลบั้ม The Freewheelin’ คืองานที่ส่งให้ผู้ชายคนนี้ ให้กลายเป็นอย่างที่เห็น และแอนดี กรีน แห่งนิตยสารโรลลิง สโตนได้เขียนถึงผู้ชายคนนี้ และอัลบั้มที่เปลี่ยนเขาให้เป็นอย่าง
ที่เป็นให้ได้อ่านกัน

ต่อให้คุณเป็นคนเพียงไม่กี่คนที่ซื้ออัลบั้มชุด Bob Dylan งานชุดแรกของดีแลนที่ออกขายในปี 1962 เชื่อว่าคุณก็คงไม่คิดว่าอัลบั้ม The Freewheelin’ ในปี 1963 ของเขาจะกลายเป็นงานชุดสำคัญของวงการเพลง และเปลี่ยนบ็อบ ดีแลน ให้กลายเป็นนักแต่งเพลงคนสำคัญของวงการเพลงอเมริกัน และพาความคิดของเพื่อนร่วมชาติที่อยู่กันในคอฟฟี่ช็อปทั้งหลาย ให้หันเหออกจาก เดอะ บีเทิลส์

เพลงหลักๆ ในอัลบั้มชุดแรกของดีแลนก็คืองานคัฟเวอร์ แล้วก็มีเพลงใหม่ซิงๆ ที่ไม่่น่าจดจำนักให้ได้ฟังอีกแค่ 2 เพลง เขากับโปรดิวเซอร์ – จอห์น แฮมมอนด์ จัดการจบอัลบั้มนี้กันในเวลาเพียงแค่ 2 วัน ส่วนบรรดาผู้บริหารของค่ายเพลงโคลัมเบีย เรคอร์ดส์ ในตอนนั้น ก็เรียกดีแลนว่า ‘เป็นความโง่เขลาของแฮมมอนด์’ แต่แฮมมอนด์มีความตั้งใจอย่างแรงกล้า ที่จะพิสูจน์ว่า คนเหล่านั้นคิดผิด และเขาก็มีโชค เมื่อบทเพลงมากมายหลั่งไหลมาจากมันสมองและสองมือของดีแลน ในช่วงหลายๆ เดือนหลังจากที่อัลบั้มเปิดตัวของเขาวางขาย

ซูซี โรโตโล-แฟนสาวของดีแลน (ซึ่งเป็นคนเดียวกับหญิงสาวที่อยู่บนปกอัลบั้มชุดนี้) เป็นคนช่วยให้ดีแลนหันมาให้ความสนใจกับการต่อสู้ในเรื่องสิทธิมนุษยชน การบันทึกเสียงเริ่มต้นกันในเดือนเมษายน 1962 และระมาเรื่อยจนถึงต้นเดือนธันวาคมก็ยังไม่จบ มาถึงตอนนั้นดีแลนมีเวลาที่จะทำงานในสตูดิโอเพียงแค่อีก 6 วันเท่านั้น โดยเขาใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการเทสท์เพลงใหม่กับคนฟัง ด้วยการเอาไปเล่นในคอฟฟีช็อปทั่วนิว ยอร์ค

ในที่สุดดีแลนก็มีเพลงที่ทำให้คนฟังทึ่งจำนวนหนึ่ง อย่าง Blowin’ in the Wind, Master of War, A Hard Rain’s Gonna Fall และ Girl From the North Country โดยในแผ่นเสียงฉบับดั้งเดิม ยังมีเพลงเกี่ยวกับการเมืองอย่าง Talking John Birch Paranoid Blues แต่ทางโคลัมเบียตัดสินใจตัดเพลงนี้ซะ เพราะกลัวจะมีปัญหาเรื่องการฟ้องร้องหมิ่นประมาทตามมา โดยในตอนนั้นอัลบั้มวางขายไปเรียบร้อย และมีคนมาซื้อบ้างแล้ว ทำให้ใครที่มีแผ่นฉบับนี้ ถือว่ามีทองคำจำนวนมหาศาลอยู่ในมือ

อัลบั้ม The Freewheelin’ ของบ็อบ ดีแลน ออกวางจำหน่ายในเดือน พฤษภาคม 1963 และก็ไม่ได้กลายเป็นงานฮิตในทันที แต่ไม่ช้าไม่นานหลังจากโจน บาเอซ ซึ่งในตอนนั้นอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพ พาดีแลนไปขึ้นเวที ในการแสดงเดี่ยวของเธอ ปีเตอร์, พอล แอนด์ แมรี เอาเพลง Blowin’ in the Wind ไปร้องจนกลายเป็นเพลงฮิต ในช่วงหน้าร้อนของปีนั้น บรรดาคนหนุ่ม-คนสาวจำนวนนับไม่ถ้วน ทั่วประเทศสหรัฐอมริกา ก็พากันหันมาให้ความสนใจกับ The Freewheelin’ ซึ่งกลายเป็นงานสร้างภาพที่ยากจะลบออกให้กับดีแลน ในฐานะของนักร้อง-นักแต่งเพลงโฟล์คผู้โดดเดี่ยว ที่ร่ำร้องบทเพลงเกี่ยวกับความอยุติธรรม และสงคราม

และกลายเป็นภาพติดตัวของดีแลนมาจนถึงทุกวันนี้

จากเรื่อง กว่าจะเป็น The Freewheelin’ อัลบั้มสร้างตัวตนของบ็อบ ดีแลน โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 1 พฤษภาคม 2558

สามารถกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่