เทียบกันแล้วชื่อของเคนนี่ ออร์เตก้า น่าจะไม่ใช่ชื่อที่ป็อปปูลาร์เท่ากับชื่อของไมเคิล แจ็คสัน แต่สำหรับวงการบันเทิงของอเมริกา (หรือของโลก) ออร์เตก้าถือว่าเป็นบิ๊กเนมคนหนึ่ง เมื่อย้อนไปดูผลงานในอดีต ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบท่าเต้นให้กับหนัง Dirty Dancing, ซีรี่ส์ High School: The Musical รวมไปถึงเป็นผู้กำกับในงานคอนเสิร์ตดังๆ หลายๆ รายการ อาทิ Heart of Stone Tour ของแฌร์, หรือ Live & Unwrapped ของกลอเรีย เอสเตฟาน และ Dangerous World Tour กับ HIStory World Tour ของไมเคิล แจ็คสัน
ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่เขาจะกลับมารับหน้าที่เดิมอีกครั้งในคอนเสิร์ต This Is It ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตที่แจ็คสันวางไว้ว่าจะเป็นการกลับมา “ยิ่งใหญ่” อีกครั้ง แต่กลับกลายเป็นคอนเสิร์ตสุดท้ายในชีวิต ที่ไม่ได้เปิดการแสดงแม้แต่รอบเดียว
ล่าสุดออร์เตก้า ได้ให้การในศาล ถึงการทำงานกับไมเคิล แจ็คสันในช่วงท้ายๆ ก่อนเสียชีวิตในเดือนมิถุนายน 2009 ไม่กี่วัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสืบพยาน ในคดีที่แคเธอรีน แจ็คสัน แม่ของแจ็คสัน ฟ้องเออีจี ไลฟ์ ผู้จัดคอนเสิร์ต This is It เรียกร้องค่าเสียหายถึง 4 หมื่นล้านเหรียญ โดยแคเธอรีนกล่าวหาว่า ทางบริษัทไม่สนใจสัญญาณเตือนเรื่องสุขภาพของแจ็คสัน ที่ปรากฏขึ้นระหว่างการซ้อม และไม่ทำการตรวจสอบหมอ คอนราด เมอร์เรย์ ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา จากการให้ยาระงับประสาทกับตัวแจ็คสัน
ทางเออีจี ปฏิเสธข้อกล่าวหา ซึ่งทำให้บรรดาผู้เกี่ยวข้องกับคอนเสิร์ต รวมไปถึงตัวไมเคิล แจ็คสัน ต้องขึ้นมาให้การ โดยหนึ่งในนั้นก็คือ เคนนี่ ออร์เตก้า ที่ขณะขึ้นให้การ เขาถึงกับกลั้นนำ้ตาเอาไว้ไม่อยู่ ออร์เตก้าเล่าว่า ท่าทางของแจ็คสันนั้นดู “มีปัญหาเอามากๆ” และ “การได้เห็นเขา ทำให้ผมรู้สึกกลัว”
คำให้การของออร์เตก้า ถือเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นภาพชัดเจนว่า แจ็คสันไม่สบาย และไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม โดยเขายังบอกด้วยว่า ระหว่างการซ้อมมีอย่างน้อย 4 ครั้ง ที่แจ็คสันมีอาการเหมือนตกอยู่ใต้อิทธิพลของยาบางอย่าง และบรรดาพฤติกรรมแปลกๆ ของเขาทั้งหลาย มักจะเกิดขึ้นหลังจากการไปพบแพทย์
ในการซ้อมหนหนึ่ง 6 วันก่อนจะเสียชีวิต ออร์เตก้าเล่าว่า แจ็คสันมีอาการหนาว, สั่น และดูกังวลกับสิ่งต่างๆ รอบๆ ตัว เมื่อการซ้อมจบลง ออร์เตก้าส่งอี-เมล์ไปหาแรนดี้ ฟิลลิปส์ ซีอีโอของเออีจี บอกอาการของแจ็คสัน ย้ำเขาให้ดูแลแจ็คสันอย่างเหมาะสม และระบุว่า “เขาเหมือนเป็นด็กที่สิ้นหวัง บางทียังมีโอกาสที่เขาสามารถทำงานได้อีกครั้ง ถ้าเราช่วยเหลือในสิ่งที่เขาต้องการได้” จากนั้นเขาก็อนุญาตศาล เพื่อจัดการสงบสติอารมณ์ตัวเอง “ผมรู้สึกไม่ดีเลยตอนนี้ ขอเวลาผมสักแป๊บได้ไหม?” ก่อนจะให้การต่อ โดยออร์เตก้าจัดการประชุมแบบเร่งด่วนขึ้นในวันถัดมา กับหมอเมอร์เรย์ และฟิลลิปส์ แต่ทางหมอยืนยันว่า แจ็คสันสามารถซ้อมได้
งานนี้ดูท่าว่า นอกจากหมอที่ไม่รอดไปแล้ว บริษัทเออีจีเอง ก็อาจจะต้องจ่ายค่าเสียหายไม่ใช่น้อย จากรูปการณ์ที่เป็น โดยคดีนี้เริ่มกระบวนการในศาลมาตั้งแต่ 30 เมษายนที่ผ่านมา และน่าจะจบสิ้นลงได้ในสิ้นเดิอนกรกฎาคม 2556 ถือว่าติดตามกันต่อไปอีกไม่นาน
จากเรื่อง ความลับเรื่องสุขภาพก่อนเสียชีวิตของไมเคิล แจ็คสัน โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ 17 กรกฎาคม 2556