
จากเพลงป็อปที่มีสีสันดนตรีหลากหลายอยู่ในเนื้องาน ทั้งร็อค, เร็กเก หรือฟังกี แล้วขับเคลื่อนด้วยเมโลดีแบบป็อปที่ลื่นไหล ไพเราะ บทเพลงถึง 21 เพลงของ Tattoo Colour วงป็อปสี่ชีวิตที่ประกอบด้วย หรินทร์ สุธรรมจรัส (ดิม) – ร้องนำ, รัฐ พิฆาตไพรี (รัชชี) – กีตาร์, ธนบดี ธรพงศ์ภักดี (จัมพ์) – เบส และ เอกชัย โชติรุ่งโรจน์ (ตง) – กลอง กลับมาพบกับแฟนเพลง และผู้ชมด้วยรสชาติ และอารมณ์ดนตรีที่ผิดแผกไปจากเดิม เมื่อได้รับการเรียบเรียงใหม่โดย พันเอก ประทีป สุพรรณโรจน์ เพื่อให้วง Thailand Philharmonic Orchestra (TPO – ทีพีโอ) บรรเลงร่วมกับพวกเขา ในคอนเสิร์ต Tattoo Colour X Thailand Philharmonic Orchestra ที่จัดขึ้นทั้งหมด 2 รอบ ที่มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยามหิดล ศาลายา เมื่อ 23 และ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยการแสดงในวันศุกร์ที่ได้ไปชม ฮอลล์ซึ่งปกติแล้วเป็นบ้านของวงทีพีโอที่เปิดแสดงเป็นประจำทุกวันศุกร์-เสาร์ ช่วงเปิดเทอมมายาวนานเป็นปีที่ 13 แล้ว แทบจะ Sold Out เลยก็ว่าได้ เมื่อมีที่นั่งว่างให้เห็นเพียงไม่กี่ที่เท่านั้น
โชว์เริ่มด้วยเพลง “Tattoo Colour Overture” โดยทีพีโอ ที่เอาสามเพลงของแท็ททู คัลเลอร์ “อากาศร้อนๆ”, “เรือสำราญ” และ “เผด็จเกิร์ล” มาเรียงร้อย เพื่อนำสู่คอนเสิร์ตในวันนี้ ที่พอเพลงใกล้จบลงสมาชิกทั้งสี่ของวงก็ขึ้นเวทีรับต่อด้วย “เธอต้องมีฉัน” เพลงจากอัลบัม Pop Dad งานดิสโกสนุกๆ ที่ให้มิติแตกต่างไปจากเดิม เมื่อเสียงซินธิไซเซอร์หวือหวารองพื้นดนตรีในเพลงนี้ กลายเป็นเสียงของเครื่องสาย และได้เสียงเครื่องเป่าทองเหลืองที่จัดเต็มยิ่งกว่าที่ได้ยินในงานต้นฉบับ
ขณะที่ “เปิดเพลงไหน เปิดเมื่อไหร่ ก็ยังสวยงาม (60’s)” เพลงป็อป ที่โดดเด่นด้วยทางดนตรีร็อคแอนด์โรลล์ยุค 60 ก็แสดงให้เห็นถึงการรับ-ส่งระหว่างวงป็อปสี่ชีวิตกับวงออเคสตราวงใหญ่ เมื่อมีช่วงดนตรีที่เปิดให้พวกเขาเล่นล้อหลอกหยอกกัน ส่วน “เผลอไป” ที่ช่วงโซโลกีตาร์มีซาวนด์น่ารักๆ และจังหวะจะโคนก็คึกคักสนุกสนาน ได้กลุ่มเครื่องสายเล่นรับอย่างเพลินเพลิด จนได้เห็นมือเชลโลของวงเล่นพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้ม และโยกไหล่ไปมาขณะบรรเลงไปตามจังหวะเพลง ซึ่งไม่ใช่ครั้งเดียวที่ได้เห็นอะไรแบบนี้ หรือได้ฟังการเล่นดนตรีที่รับ-รอง-ส่งกันอย่างสนุก หากเป็นตลอดทั้งโชว์ที่เสียงดนตรีสองทางทำให้รู้สึกเช่นที่ว่า นอกเหนือไปจากได้สัมผัสความต่างๆ จากบทเพลงที่คุ้นหู
เมื่อบนเวทีสนุกข้างล่างก็ไม่ต่างกัน แม้แฟนๆ อาจเกร็งไปกับมหิดลสิทธาคาร เลยยังไม่ปล่อยตัวปล่อยใจกันเต็มที่ในช่วงแรกๆ แต่หรินทร์ นักร้องนำของวง ก็ค่อยๆ ลดอาการตื่นสถานที่ของผู้ชมไปเรื่อยๆ ทั้งการพูดจาปราศรัยกับผู้ชม บอกเล่าความเป็นมาของคอนเสิร์ตนี้กับรัฐ ที่บางทีก็มีแซว มีหยอกวงทีพีโอบ้าง ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย ก่อนที่พวกเขาจะปิดโชว์ครึ่งแรกด้วย “ฟ้า” เพลงที่หรินทร์ปล่อยพลังเสียงที่รับ-สู้กับเครื่องเคราออเคสตราได้ถึงอารมณ์ จนเรียกเสียงปรบมือกึกก้อง
ครึ่งหลังของการแสดง ผู้ชมหนาตากว่าครึ่งแรก อาจเป็นเพราะเดินทางมาถึงในช่วงที่ประตูฮอลล์ปิดเรียบร้อยแล้ว จนต้องรอประตูเปิดอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังเพื่อเข้าชม ที่แท็ททู คัลเลอร์กับทีพีโอเองก็เติมความสนุกให้กับการแสดงมากขึ้น ผู้ชมก็ปล่อยตัวเองมากกว่าเดิม ร้องเพลงต่างๆ ตามไม่ต่างไปจากในคอนเสิร์ตทั่วๆ ไป โดยเฉพาะเพลงดังอย่าง “จำทำไม” และหลังอุ่นเครื่องด้วยเพลงบีทกลางๆ – ช้า 3 เพลงติด แท็ททู คัลเลอร์ ก็ชวนผู้ชมลุกขึ้นสนุกกับพวกเขา 7 เพลงรวด ที่ทุกคนก็ตอบรับเป็นอย่างดี และการแสดงของพวกเขากับทีพีโอ ก็ยากจะทำให้นั่งชมอย่างที่เป็นในช่วงแรกๆ “ขาหมู” เพลงดังอีกเพลงของแท็ททู คัลเลอร์ เป็นเพลงสุดท้าย ก่อนจะมีของแถมให้ในช่วง อองกอร์อีกเพลง เพื่อส่งผู้ชมกลับบ้านอย่างอิ่มเอมเปรมใจ
ส่วนในแง่ของอรรถรสดนตรี การแสดงในวันนี้ก็คืออีกครั้งที่แสดงให้เห็นว่า แม้จะดูเหมือนอยู่กันคนละขั้ว ต่างภาษา แต่จริงๆ แล้วดนตรีคลาสสิคัลและป็อปนอกจากจะพูดจากันได้ถูกคอแล้ว ถ้าเป็นคู่รัก ก็เป็นคู่ที่เปี่ยมไปด้วยสีสันสดใส รื่นรมย์ คู่หนึ่งเลยก็ว่าได้
โดย นพปฎล พลศิลป์ เรื่อง บันเทิงเต็มที่กับดนตรีคลาสสิคัลและป็อป ใน TATTOO COLOUR X TPO คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสต์ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561
เป็นกำลังใจให้ www.facebook.com/Sadaos ด้วยการสนับสนุนทางการเงิน ได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วส่งสลิปการโอนมาที่ shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนคำขอบคุณให้ผู้สนับสนุนที่โชคดีเป็นประจำทุกเดือน
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่