
BEN IS BACK: หลังแจ้งเกิดจากการเป็นเขียนบทให้ About a Boy หนังที่สร้างจากนิยายของนิค ฮอร์นบี ปีเตอร์ เฮ็ดเจส ก็ขึ้นชั้นเป็นผู้กำกับ เปิดตัวด้วยงานที่รับดอกไม้มากกว่าก้อนอิฐ Pieces of April เมื่อปี 2003 แล้วก็ลุ่มๆ ดอนๆ มาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น Dan in Real Life (2007), The Odd Life of Timothy Green (2012) ซึ่งหากดูกันจากหน้าตาหนัง นักแสดง เฮ็ดเจสได้นักแสดงที่ดีมาร่วมงานโดยตลอด
กับงานกำกับ/ เขียนบท เรื่องล่าสุด Ben Is Back ก็ไม่ต่างกัน นอกจากจูเลีย โรเบิร์ทส์แล้ว ก็ยังมีลูคัส เฮ็ดเจส ลูกชายแท้ๆ ของเจ้าตัว ที่หลายๆ คนน่าจะจดจำได้จาก Mancherter by the Sea
เรื่องนี้ลูคัสรับบทเบน ที่เป็นชื่อเรื่อง ลูกชายของแม่ – ฮอลลี (โรเบิร์ทส์) ที่ปัจจุบันใช้ชีวิตร่วมกับสามีใหม่ เขาใช้ชีวิตอยู่ในสถานบำบัดผู้ติดยาเสพติด แต่แล้วในช่วงก่อนวันคริสต์มาส เบนก็กลับมาบ้าน ท่ามกลางความดีใจของผู้เป็นแม่ ที่ได้ลูกๆ อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาสมกับเป็นช่วงเวลาของคริสต์มาส และพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติอย่างที่สุด แต่เขาไม่ได้กลับมาบ้านเพียงลำพัง หากยังแบกสารพัดสิ่งติดหลังกลับมาด้วย และทำให้คริสต์มาสที่น่าจะเป็นวันแสนสุขของแม่และน้องๆ กลายเป็นคริสต์มาสที่แสนวุ่นวายในท้ายที่สุด
หนังมีหลายๆ อย่างที่คล้ายๆ กับ Beautiful Boy ที่สตีฟ คาร์เรลล์ เล่นกับทิโมธี ชาลาเมท์ ซึ่งว่าด้วยลูกชายติดยา ที่เดินทางกลับมาหาครอบครัว หลังไปใช้ชีวิตในสถานบำบัดผู้ติดยา และในขณะเดียวกัน ตัวเบนก็มีส่วนคล้ายคลึงกับตัวละครของเคซีย์ อัฟเฟล็คในหนัง Manchester by the Sea ด้วยเช่นกัน เมื่อชีวิตเต็มไปด้วยความหลัง และบาดแผลมากมายที่ยากจะลืมหรือเยียวยา อันเนื่องมาจากความผิดพลาดที่เขาก่อขึ้น
หากที่ต่างก็คือ ขณะที่ลี แชนด์เลอร์ ของอัฟเฟล็คพยายามจะหนี เบนของลูคัสกลับเลือกที่จะกลับมา ขณะที่ใน Beautiful Boy ทุกคนให้การต้อนรับขับสู้ลูกชายของบ้านเป็นอย่างดี เบนกลับได้รับอ้อมกอดที่อบอุ่นจากผู้เป็นแม่เพียงลำพัง โดยคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นน้องสาวแท้ๆ หรือว่าน้องต่างพ่อ หรือพ่อเลี้ยงคนใหม่ ล้วนมองเขาด้วยสายตาที่ไม่ไว้ใจ ในแบบที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกสงสัยเหมือนกันว่า เพราะอะไร? ทำไม? เมื่อพี่ชายกลับบ้าน เมื่อลูกเลี้ยงที่ให้การดูแลกลับมา ทำไมพวกเขาต่างแสดงความวิตกกังวลมากกว่าความยินดี
หนังค่อยๆ เฉลยถึงความเป็นมาแต่หนหลังของเบน ผ่านสถานการณ์ที่เริ่มไปกันใหญ่ อันเป็นผลพวงจากการกลับมาของเขา และท้ายที่สุดได้เห็นและรับรู้ว่า ทำไมหลายๆ คนถึงไม่ยินดีกับการได้เห็นเขาอีกครั้ง ซึ่งก็เป็นอีกเหลี่ยมมุมของหนัง ที่ชวนให้นึกถึง Manchester by the Sea ที่เผยชีวิตในอดีตของลีทีละเล็กทีละน้อย รวมไปถึงแสดงให้เห็นว่า ในเนื้อความที่อาจจะเหมือนกันในบางที Ben is Back มีรายละเอียดที่ซับซ้อน ลงลึกไปได้ไกลและมากกว่า Beautiful Boy
ส่วนฮอลลี เธอไม่ใช่แค่ต้อนรับลูกชายกลับบ้านด้วยความยินดี แต่ยังปฏิบัติต่อเขา ในแบบที่พยายามมองข้ามหรือละเลยทั้งข้อเท็จจริง รวมไปถึงความผิดพลาดบางอย่าง ที่นอกจากจะไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น หากยังถ่วงให้ทุกอย่างแย่ลงไปจากเดิม ซึ่งท้ายที่สุดเธอก็ถลำลึกไปกับเรื่องของลูกชายจนยากที่จะแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว
หนังได้นักแสดงขายฝีมือมารับบทที่เป็นศูนย์กลางเรื่องทั้งคู่ และหากมองกันเฉพาะเหลี่ยมคูทางการแสดง พวกเขาต่างทำหน้าที่ได้ดี แต่ปัญหาอยู่ที่หนังดูเหมือนพยายามจะให้ฮอลลี ตัวละครของจูเลีย โรเบิร์ทส์ ‘แบก’ ทุกอย่างจนมากเกินไป โดยเฉพาะการให้เธอเป็นคุณแม่แสนดี ที่คิดบวกกับลูกชายสุดโต่ง จนปฏิเสธคำเตือนของคนรอบข้าง และเที่ยวตะลอนๆ ไปไหนมาไหน ก็ทำให้ตัวละครรายนี้ดู ‘หลุด’ ไปจากความสมจริง รวมทั้งเป็นตัวละครน่ารำคาญ เมื่อเธอดูไม่ต่างไปจากคนที่ชีวิตอยู่ในโลกแฟนตาซี เป็นผู้หญิงที่เดินอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์
จากที่หวังจะให้เป็นจุดแข็ง บทของจูเลีย โรเบิร์ทส์ กลับเป็นจุดอ่อนของหนังไปในคราวเดียวกัน เมื่อหนังโยนทุกอย่างให้เธอถือเพียงลำพัง จนหนังไปไม่ได้ถึงฝั่งฝันอย่างที่เห็น ทั้งที่ตัวเรื่องราว ประเด็นที่หนังบอกเล่า ไม่ได้ย่ำแย่อะไรเลย
โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ชำแหละแผ่นฟิล์ม นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1274 ปักษ์หลัง กุมภาพันธ์ 2562