GRAVITY: กับพล็อตว่ากันจบในไม่กี่ประโยค เรื่องของนักบินอวกาศ 2 รายที่บินไปทำงานนอกยาน แล้วเกิดอุบัติเหตุหลุดอยู่ในอวกาศ ละภายใต้ความเวิ้งว้าง พวกเขาต้องหาทางรอดให้ได้ กลายเป็นหนังฉายโรง ความยาวมากกว่าหนึ่งชั่วโมงที่ดูสนุกได้ แต่อัลฟองโซ คัวรองสามารถทำได้ และเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ลุ้นระทึก บางช่วงพ่วงด้วยอารมณ์แบบงานสยองขวัญ บวกกับความหลอนในระดับ 10 หัวกระโหลกไขว้ หากได้ชมในโรงไอแมกซ์ ที่ภาพบนจอเต็มไปด้วยความเวิ้งว้าง ให้ความรู้สึกสิ้นหวัง และกดดัน ไปพร้อมๆ กัน
ทั้งๆ ที่มีเพียงแค่นักแสดง 2 คน ปรากฏตัวอยู่เกือบทั้งเรื่อง
หนังสร้างอวกาศที่เวิ้งว้าง ล่องลอย ไร้ที่ยึดเกาะ ได้ทั้งน่าขนลุก และสวยงาม แล้วก็ไม่ได้เยี่ยมแค่เรื่องของการสร้างบรรยากาศ หรือตื่นเต้นไปกับการหาทางรอดของตัวละคร แต่ยังงดงามในแง่ของการทำให้เห็นคุณค่าของการมีชีวิต การใช้ชีวิตอย่างมีความหวัง ในแบบเดียวกับที่รู้สึกได้จากหนังอย่าง 127 Hours รวมไปถึงการอยู่กับทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหายนะ หรือว่าความสุขแบบมีสติ ซึ่งก็ต้องยกเครดิตให้กับการแสดงของทั้งจอร์จ คลูนีย์ และซานดรา บูลล็อค โดยเฉพาะรายหลังที่แทบจะโซโลอยู่คนเดียวเลยก็ว่าได้
มีที่ติอยู่บ้างกับบางมุมของหนังที่ดู “สมจริง” มาโดยตลอด อาจจะออกมาเป็น แฟนตาซี อยู่บ้าง และเป็นการหาทางออกให้ตัวละครที่ “ง่าย” ไปนิด
แต่ก็เป็นเพียงข้อตำหนิเล็กน้อย เมื่อเทียบกับความลงตัวของหนัง รวมไปถึงสิ่งที่หนังนำเสนอ โดยเฉพาะอาจทำให้คนที่ใช้ชีวิตแบบไม่มีจุดหมาย หายใจทิ้งไปวันๆ ได้รู้ว่าตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในห้วงอวกาศ รอวันอากาศในชุดนักบินหมด ทั้งที่อยู่บนโลกที่มีแรงดึงดูด และมีอากาศหายใจนี่ละ
โดย นพปฎล พลศิลป์