จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อการทำหน้าที่ผู้ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ ที่ควรทำหน้าที่อย่างรัดกุม แม่นยำ เพื่อให้ผลลัพธ์ซึ่งจะมีผลต่อจำเลยหรือการตัดสินคดีเป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น และไม่สามารถอ้างได้ว่าเป็นเพราะอุบัติเหตุ
นั่นคือคำถามแรกที่สารคดีขนาดสี่ตอนจบบนเน็ทฟลิกซ์เรื่องนี้ตั้งขึ้น
ซึ่งคำตอบก็คือ ทำให้คำตัดสินคดีความต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ถูกมองว่าอาจมีความผิดพลาด และมองได้ไกลไปถึงความเชื่อมั่น และความน่าเชื่อถือในกระบวนการยุติธรรม
และเราจะทำยังไงเพื่อแก้ไขเหตุการณ์เหล่านี้
นี่คือคำถามที่สองที่หนังถาม ซึ่งกลายเป็นชื่อเรื่องของตัวเองไปพร้อมๆ กัน
How to Fix a Drug Scandal จะพาไปพบกับเรื่องราวความผิดพลาดในการทำงานของสองเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในห้องแล็บของรัฐแมสสาชูเส็ทท์สองแห่ง
คนแรก แอนนี ดูขาน เธอพยายามทำงานให้ได้มากที่สุด เพื่อความสำเร็จในหน้าที่การงาน จนละเลยการตรวจสอบหลักฐานอย่างละเอียด
คนที่สอง ซอนยา ฟารัค เธอเลือกใช้ยาเสพติดที่อยู่ในแล็บ รวมถึงที่เป็นของกลาง เพื่อบรรเทาความเครียดจากงานที่น่าเบื่อ และมีปริมาณมากมาย จนเคลิบเคลิ้มไปกับมัน ที่ย่อมส่งผลต่อการตรวจสอบสารต่างๆ ที่ถูกส่งมาถึงอย่างเลี่ยงไม่ได้
แม้จะถูกมองว่าเป็นคนผิด หรือทำให้เกิดเหตุการณ์สั่นคลอนความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมในแมสสาชูเส็ทท์ แต่หนังก็แสดงถึงมูลเหตุที่ทำให้ทั้งสองคนต้องทำอย่างที่เห็น คนหนึ่งเพื่อต้องการการยอมรับ ต้องการประสบความสำเร็จ อีกคนก็เพื่อจัดการความหนักหนาสาหัส และน่าเบื่อของงาน ที่ซ้ำซากจำเจ
สาเหตุอาจจะดูแตกต่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ทั้งสองคนเจอเหมือนๆ กันก็คือ ปริมาณงานที่มากมาย และต้องทำแข่งกับเวลาให้ทัน เพื่อเป็นคนดีในองค์กร ทำงานเสร็จตามที่อัยการต้องการ ดูขานเลือกการตรวจสอบด้วยสายตามากกว่าการทดสอบจริงๆ ส่วนฟารัคก็เลือกใช้ยาเพื่อหนีความเครียด ความน่าเบื่อ ที่เมื่อเวลาผ่านไปทั้งคู่ต่างถลำลึกลงไปเรื่อยๆ จนไม่สามารถเก็บทุกอย่างเป็นความลับเอาไว้ได้
แม้จะเป็นความผิดพลาดส่วนบุคคล แต่หนังก็เผยความพิกลพิการของผู้บริหารไปพร้อมๆ กัน เมื่อแล็บที่มีคนทำงานไม่กี่คนต้องตรวจสอบของกลาง ที่วันหนึ่งมีเข้ามาเป็นร้อยๆ ตัวอย่าง และในเงื่อนเวลาที่ต้องทันตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ทางกฎหมายในส่วนอื่นๆ
การจัดการในแล็บก็หละหลวมเอื้อให้เจ้าหน้าที่ทำงานแบบขอไปที หรือทำในสิ่งที่ไม่ควรทำเพื่อให้ตัวเองผ่านการทำงานในแต่ละวันไปได้ แล้วพอเรื่องแดงขึ้นมา ผู้บริหารในระดับที่สูงกว่า อย่าง อัยการสูงสุด ก็พยายามกวาดเรื่องเหล่านี้ซุกเอาไว้ใต้พรม ไม่ตรวจสอบหรือค้นหาความจริงเพิ่มเติม ถึงจะปกปิดแผลอันเน่าเฟะขององค์กรไว้ได้ แต่ก็ทำให้หลายๆ คนถูกดำเนินคดี หรือถูกตัดสินอย่างไม่ถูกต้อง หรือไม่บริสุทธิ์ผุดผ่องสักเท่าไรนัก
รวมทั้งทำให้ซอนยากับแอนนีกลายเป็นผู้รับผิดแทนกระบวนการยุติธรรมที่ผิดพลาดเพียงลำพัง โดยเหยื่อจากความผิดพลาดของพวกเธอยังคงไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือแก้ไข
หนังไม่ได้จบเรื่องราวของตัวเองตรงนี้ ที่จะเป็นแค่การเผยความล้มเหลวในกระบวนการยุติธรรมของแมสสาชูเส็ทท์เท่านั้น แต่ยังพาไปพบความพยายามแก้ไขความผิดพลาดอันเกิดขึ้นจากห้องแล็บที่นำไปสู่การตัดสินคดีความ ผ่านการทำงานของทนายจำเลยที่หาทางช่วยลูกความของตัวเอง ที่มีผลตรวจสอบจากห้องแล็บในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการยืนยันการกระทำความผิด ซึ่งตอกย้ำซ้ำถึงความเหลวแหลกของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ ที่จัดการเรื่องนี้แบบขอไปที ให้จบๆ ให้พ้นๆ มากกว่าจะใส่ใจกับปัญหาอย่างจริงจัง
ถึงจะทำให้ภาพดังกล่าวเด่นชัดมากขึ้น แต่กับการเป็นหนังสารคดีที่น่าจะแสดงให้เห็นเรื่องราวต่างๆ รอบด้าน How to Fix a Drug Scandal ทำหน้าที่ได้ไม่ดีนัก แถมอาจจะมองว่ากำลังพยายามซุกบางอย่างไว้ใต้พรมเช่นกัน กับการละเลยหรือพูดถึงความผิดของจำเลยในคดีที่เกี่ยวข้องกับความผิดพลาดจากเจ้าหน้าที่ห้องแล็บเพียงผิวเผิน จนผู้ชมอาจจะรู้สึกเหมือนพวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกกลั่นแกล้ง
บางทีหากหนังเลือกปิดจบลงตรงเรื่องของดูขานและฟารัค พร้อมตั้งคำถามถึงการทำหน้าที่ของอัยการสูงสุดของรัฐ ก็น่าจะสวยกว่า
แต่เมื่อมาไกลอย่างที่เห็น How to Fix a Drug Scandal เลยเป็นงานที่มีตำหนิ ในแบบที่รู้สึกถึงอคติหรือการชี้นำบางอย่าง เป็นการนำเสนอความจริงเพียงด้านเดียว ด้านที่คนทำหนังอยากให้เห็น ที่กำลังปิดบังความจริงอีกด้านไปพร้อมๆ กัน
โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ชำแหละแผ่นฟิล์ม นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1303 ปักษ์แรก พฤษภาคม 2563