LUKE CAGE – SEASON 1: ซีรีส์มาร์เวลอีกเรื่อง ที่สร้างและฉายทางเน็ทฟลิกซ์ และเป็นหนึ่งในตัวละครของจักรวาลมาร์เวลฉบับรากหญ้า ที่เพิ่งมีทำออกมาเป็นมินิ-ซีรีส์ เรื่อง The Defenders ออกมาเมื่อปีที่แล้ว โดยเรื่องอื่นๆ นอกเหนือไปจาก Luke Cage ก็คือ Daredevil, Jessica Jones, Iron Fist ที่น่าจะนับรวมไปถึง The Punisher ได้ด้วย โดยคนที่ทำหน้าที่สร้างสรรค์ซีรีส์ก็คือ ชีโอ โฮดาริ โคเกอร์ อดีตนักข่าวสายดนตรีฮิพ-ฮ็อพที่เคยร่วมเขียนบท และร่วมสร้างซีรีส์อย่าง NCIS: Los Angeles และ Almost Human
ตัวละครลูค เคจ เคยปรากฏตัวมีบทบาทในซีรีส์ Jessica Jones ที่สร้างและออกอากาศมาก่อนหน้านี้แล้ว และความเป็นมาของเคจในซีรีส์ของตัวเอง ก็สืบเนื่องมาจากช่วงเวลาในซีรีส์ของของเจสสิกา โจนส์นั่นเอง โดยเคจเป็นฮีโรหนังเหนียวอยู่ยงคงกระพัน อาวุธธรรมดาตีรันฟันแทงยิงไม่เข้า รวมไปถึงมีพลังมากกว่าคนธรรมดาทั่วๆ ไป แต่เลือกใช้ชีวิตเป็นพนักงานคนหนึ่งในร้านตัดผมของป๋า บุคคลที่ใครๆ ก็ให้ความเกรงใจ-นับถือ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าพ่อหรือคนทั่วไป รวมทั้งยังมีบุญคุณกับผู้คนอีกมากมาย และเคจก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เข้ามาอยู่ในการดูแลของป๋าในย่านฮาร์เล็ม ที่มีคอร์เนลล์ “ค็อตตอนเมาธ์” สโตค์ส เป็นมาเฟียประจำถิ่น ที่เบื้องหลังของเขายังไปเกี่ยวพันกับ มาไรอาห์ ดิลลาร์ด นักการเมืองท้องถิ่น ที่เอาเงินจากคอร์เนลล์มาใช้ในโครงการต่างๆ เพื่อหาเสียงให้กับตัวเอง
และหนังก็ใช้ความสัมพันธ์ระหว่างคอร์เนลล์กับมาไรอาห์ มาทำให้ตัวเองมีเส้นทางการเล่าเรื่องเฉพาะตัวที่โดดเด่น ด้วยเรื่องของอาชญากรรมและการเมืองท้องถิ่นที่มีความสัมพันธ์กัน รวมไปถึงเรื่องของการคอร์รัปชันต่างๆ โดยเฉพาะในแวดวงผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ซึ่งตัวหนังก็นำเสนอออกมาอย่างมีมิติ แล้วก็ทำให้ตัวละครลูค เคจกลายเป็นส่วนหนึ่งในโลกอาชญากรรมใบนี้ได้อย่างกลมกลืน ในแบบที่มีลักษณะของฮีโรสีเทาๆ เมื่อตัวเองมีความลับที่ต้องปกปิด ทำให้ไม่กล้าออกหน้าออกตาช่วยเหลือผู้คนได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่คนที่พร้อมประกาศตัวปกป้องคนดี-ทำร้ายคนพาล แถมความลับที่ว่า ยังย้อนกลับมาเป็นอาวุธทิ่มแทงเขาได้ในภายหลังอีกต่างหาก
นอกเหนือไปจากตัวเรื่องที่มีมิติ มีมุมมองที่แตกต่างไปจากหนังฮีโรหลายๆ เรื่อง ซีรีส์เรื่องนี้ยังได้การแสดงที่ดีมาเสริม โดยเฉพาะสามตัวร้าย มาเฮอร์ชาลา อาลี – คอร์เนลล์, อัลฟรี วูดาร์ด – มาไรอาห์ และ ธีโอ รอสซี – เฮอร์แมน “เฉดส์” อัลวาเรซ ที่เล่นกันได้อย่างมีสีสัน ทำให้ซีรีส์มีความจัดจ้านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาลี ที่ทำให้ตัวละครซึ่งไม่มีอำนาจพิเศษอะไร กลายเป็นตัวละครที่น่าเกรงขามขึ้นมาได้ วูดาร์ดให้การแสดงในระดับเดียวกับที่เพ็นนี จอห์นสัน เจราลด์ ให้กับตัวละครเชอรี พาล์เมอร์ ในซีรีส์ 24 ส่วนรอสซี ก็ขึ้นจอด้วยมาดที่ดูลึกลับ เจ้าเล่ห์ และขึ้นกล้องเอามากๆ ในบทตัวร้าย รวมไปถึงรู้สึกได้ถึงกลโกงต่างๆ ที่อยู่ในตัวทุกครั้งที่ได้เห็น
เรื่องอาจจะเสียศูนย์ไปบ้างในตอนท้าย เมื่อตัวร้ายอย่างวิลลิส สไตรเกอร์ หรือไดมอนด์ แบ็คปรากฏตัว ที่ทำให้โทนและจังหวะของหนังเปลี่ยนไปจากเดิม แต่ก็ทำให้ตัวซีรีส์เดินทางมาถึงจุดตบของปีในแบบที่เข้มข้นมากขึ้น รวมถึงเป็นการส่งท้ายปีแรกโดยทำให้ตัวลูค เคจยอมรับกับสิ่งที่ตัวเองเป็น และรับรู้ถึงความรับผิดชอบที่มีอันเกิดจากมัน และน่าจะทำให้ปีที่สองของซีรีส์เรื่องนี้ มีทิศทางที่แตกต่างไปจากจุดเริ่มต้น แต่ถึงกระนั้น ก็เป็นทิศทางที่เรียกได้ว่าเป็นพัฒนาการของเรื่องและตัวละคร มากกว่าจะเป็นเพราะความสับสน หรือความต้องการเรทติงที่มากไปกว่าเดิม
โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ชำแหละแผ่นฟิล์ม นิตยสารเอนเตอร์เทน 1253 ปักษ์แรก เมษายน 2561
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่