
เหมือนการกลับไปสัมผัสกับหนังเกาหลีในยุคแรกอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่เป็นงานที่ออกฉายเมื่อปี 2019 นี่เอง แต่การเล่าเรื่อง การแสดง แม้กระทั่งชื่อเรื่อง ก็ทำให้นึกถึงงานโรแมนติก, ดรามายุคแรกๆ ของเกาหลี ตั้งแต่เห็น เมื่อไม่ต่างไปจากชื่ออย่าง ‘Christmas in August’, ‘One Fine Spring Day’, ‘April Snow’ รวมถึงชื่อของซีรีส์ดัง ๆ เช่น ‘Autumn in My Heart’ หรือว่า ‘Winter Love Song’
‘Moonlit Winter’ จะพาไปพบคู่รักคู่หนึ่ง ที่พลัดพรากจากกันตั้งแต่ยังเรียนไฮสคูล ฝ่ายหนึ่งไปใช้ชีวิตอยู่กับพ่อที่ญี่ปุ่น ทำงานเป็นสัตว์แพทย์ ใช้ชีวิตโสดอยู่กับป้า ส่วนอีกฝ่ายอยู่ที่เกาหลี แต่งงานมีลูกสาว ที่กำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ก่อนจะเลิกรา กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว
เมื่อพ่อจากไป ฝ่ายที่อยู่ญี่ปุ่นที่ยังคงคิดถึงอีกฝ่ายเสมอ ลงมือเขียนจดหมายหาจ่าหน้าซองเอาไว้เรียบร้อยโดยไม่กล้าส่ง แต่ป้ากลับเอาไปหย่อนตู้ให้ แต่คนที่รับปลายทางกลับเป็นลูกสาว เธอแอบอ่านจนรู้ว่าแม่มีคนรักเก่าอยู่ที่ญี่ปุ่น และพยายามสืบหาความเป็นมา หากก็คว้าน้ำเหลว จนเธอตัดสินใจที่จะพาแม่เดินทางไปญี่ปุ่น เพื่อพาไปพบคนรักที่จากกันมานาน และเป็นภารกิจที่ไม่ให้แม่เธอรู้ โดยอ้างว่า เป็นการไปเที่ยวด้วยกันก่อนที่เธอจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย โดยให้แฟนที่คบกันอยู่แบบไม่ให้แม่รู้เดินทางไปด้วย เพื่อช่วยเธอทำภารกิจนี้
พล็อตของ ‘Moonlit Winter’ ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับชื่อเรื่อง มีสัมผัสของหนังเกาหลียุคแรก ๆ ชัด เล่าเรื่องในแบบเผาหัวช้า ให้ผู้ชมค่อย ๆ ซึมซับกับความเป็นไปของตัวละคร ที่หนังวางปมมากมายเอาไว้ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ชีวิตดูเหมือนจมอยู่กับอะไรบางอย่าง และต้องเจอกับการสูญเสียอยู่เรื่อย อย่าง โอกาสเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เมื่อครอบครัวเกาหลียื่นโอกาสนั้นให้ลูกชาย ชีวิตแต่งงานที่ล้มเหลวก็เพราะ “แม่เป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วทำให้รู้สึกเหงา” นั่นคือคำบอกเล่าของอดีตสามี เมื่อถูกลูกสาวถามถึงที่มาของการหย่าร้าง
ส่วนคนรักเก่าที่อยู่ในโอตารุ, ซัปโปโร ก็ก่อกำแพงขวางกั้นตัวเองกับคนอื่น ๆ ที่พยายามเข้ามา ที่อาจรวมไปถึงคนรักที่จากกันมานานด้วยเช่นกัน เมื่อเธอเลือกที่จะคิดถึง เขียนจดหมายหา แต่ว่าไม่ยอมส่ง โดยยังคงมีเยื่อใย ความผูกพัน กระทั่งฝันถึงอีกฝ่ายอยู่บ่อย ๆ
แม้จะดูเนิบนาบ เดินหน้าแบบค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ภายใต้บรรยากาศที่ให้รู้สึกหนาวจับขั้วหัวใจ เมื่อเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน หนังก็ยังมีสีสันสดใส ชีวิตชีวา จากความรักของลูกสาวแม่เลี้ยงเดี่ยวกับแฟนวัยรุ่น ที่ไม่ใช่แค่การแสดงออก แต่ภาพลักษณ์ การแต่งกายของทั้งสองคนก็บ่งบอกออกมาชัดเจน
หนังปิดจบลงอย่างสวยงาม กลายเป็นนาฏกรรมแห่งชีวิตของคนสองคน ที่นำไปสู่การเปิดใจ เปิดเผยเรื่องราวความเป็นไป ที่ทำให้บางคนต้องตัดสินใจอย่างที่เป็น ถึงมองออกว่าหนังคงไม่ใจไม้ไส้ระกำอะไรนัก แต่การเดินทางมาถึงจุดหมายของตัวละคร ก็ลุ้น ก็ตื่นเต้น ในที โดยเฉพาะการที่จะได้เห็นปฏิกริยาแรก ที่ทั้งสองคนมีต่อกัน จะลงเอยแค่นี้ หรือมีไปต่อ
ที่สำคัญมันยังปลดปล่อยอารมณ์ความรู้สึกของผู้ชมไปด้วย แต่ไม่ใช่ระเบิดตูมออกมา หากเป็นไปในแบบที่ค่อยพร่างพรูอย่างช้า ๆ
ปมต่าง ๆ ที่วางเอาไว้ถูกเก็บครบ โดยเฉพาะฝั่งของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่มีเงื่อนงำมากมาย โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับพี่ชาย ที่ท้ายสุด… เธอคือคนที่ให้ทุกอย่างกับเขา และทำให้การบอกกล่าวกับลูกสาวว่า อย่าเป็นหนี้บุญคุณลุงให้มากนัก ‘ใหญ่’ กว่าที่คิดกันไว้
กับประสบการณ์ที่ได้รับ ทำให้เธอกล้าที่จะเริ่มต้นใหม่ เปิดตัวเองมากขึ้น เมื่อเริ่มตัดสินใจทำอะไรต่าง ๆ ในชีวิต ที่น่าจะเป็นสิ่งดี ๆ เมื่อดูจากการที่ได้เห็นรอยยิ้มที่เปื้อนหน้าของเธอ ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายของหนัง
ภาพที่ทำให้รู้สึกว่า แม้เรื่องราว หรือการเล่าเรื่อง อาจจะไม่หวือหวา ไม่วูบวาบ ไม่ได้เล่นใหญ่ ไม่ได้มีท่ายากเยอะ ๆ แบบหนังเกาหลียุคใหม่ แต่สิ่งที่หนึ่งที่หนังเกาหลียุคนี้ทำได้ไม่เท่า หรือไม่มีอย่างที่ ‘Moonlit Winter’ ทำได้ ก็คือ ดูแล้ว “อิ่มเอมใจ”
(MOONLIT WINTER ทางวิว)
โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ชำแหละแผ่นฟิล์ม นิตยสารเอนเตอร์เทนฉบับที่ 1337 ปักษ์แรกตุลาคม 2564
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่