
สารคดีความยาวราว ๆ ชั่วโมงหนึ่ง ที่ว่าด้วยชีวิตของผู้คนที่ทำงานภายใต้ชายคาบริษัท วอลต์ ดิสนีย์ ที่จะว่าไปแล้วก็ไม่ต่างไปจากตอนไพล็อตของซีรีส์โทรทัศน์ เมื่อมีสารคดีสั้นชุด ‘One Day at Disney Shorts’ ตามออกมาอีก 51 ตอน ซึ่งแต่ละตอนที่ความยาวอยู่ที่ประมาณ 5-6 นาที จะลงลึกไปถึงการทำงานของพนักงานและผู้บริหารตำแหน่งต่าง ๆ ของวอลต์ ดิสนีย์ อาทิ บ็อบ ไอเกอร์ ซีอีโอ (ที่ปัจจุบันพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว), เอริก โกลด์เบิร์ก นักวาดภาพแอนิเมชัน, ธอม เซล์ฟ – นักดำน้ำและช่างของดิสนีย์แลนด์, ร็อบ ริชาร์ดส์ – มือออร์แกน ของโรงละครเอล แคปิตัน ตลอดจนคนทำลูกกวาดในดิสนีย์แลนด์ อย่าง ฟรานเซสกา โรมัน
ซึ่งบางคนนอกจากจะมีซีรีส์สั้น ๆ ของตัวเองใน ‘One Day at Disney Shorts’ แล้ว ก็ยังมีส่วนในเรื่องราวของ ‘One Day at Disney’ เรื่องนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น เอริก เบเกอร์, คริสตินา ดิวเบอร์รี กับแอชลีย์ เกอร์ดิช ที่เป็นวิศวกร, โกลด์เบิร์ก, มาร์ก กอนซาเลซ – คนขับรถไฟในดิสนีย์แลนด์, โรบิน โรเบิร์ตส์ – ผู้ดำเนินรายการ ‘Good Morning America’ ทางสถานีเอบีซี, เกรซ ลี – ที่ทำงานแผนกสำนักพิมพ์, ซามาวุส “ซามา” มากูดูเลลา – นักแสดงละครเวที, ไรอัน ไมเนอร์ดิง จากมาร์เวล สตูดิโอส์, ดร. นาทาลี ไมนิเซนโก – สัตว์แพทย์, เจโรม แรนฟท์ จากพิกซาร์
ที่ด้วยความหลากหลายทางอาชีพการงานผู้คน ที่ถูกหยิบมาบอกเล่าในสารคดีเรื่องนี้ ทำให้นอกจากจะ (มองได้ว่า) เป็นตอนไพล็อตของสารคดีชุดที่ตามออกมา ‘One Day at Disney’ ก็ยังเป็นการแนะนำบริษัทวอลต์ ดิสนีย์ ในภาพรวมให้ผู้คนได้รู้จักในระยะเวลาสั้น ๆ ไปพร้อม ๆ กัน ว่าพวกเขาทำอะไรบ้าง มีธุรกิจอะไรอยู่ในมือ ไม่ว่าจะเป็น พิกซาร์, แอนิเมชันของวอลต์ ดิสนีย์, สวนสนุกดิสนีย์แลนด์, สถานีโทรทัศน์เอบีซี ที่มีรายการดังอย่าง ‘Good Morning America’, มาร์เวล รวมไปถึงสวนสัตว์ และละครเวที
หนังมีบ็อบ ไอเกอร์ ซีอีโอของบริษัท (ในตอนนั้น) เป็นคนนำเสนอช่วงต่าง ๆ หรือเรื่องราวของพนักงานแต่ละคนในหนัง
โดยในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่พวกเขาหรือเธอถูกนำเสนอ และนำเสนอสิ่งที่ตัวเองทำในหนังเรื่องนี้ นอกจากจะเล่าถึงกระบวนการทำงาน ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ที่เต็มไปด้วยความละเอียดละออ ตั้งใจจริง และบางคนก็เพิ่มเติมความเป็นมาเข้ามาด้วย ก็ยังพูดถึงมุมมองที่มีต่องานที่ทำ รวมถึงต่อบริษัทในคราวเดียวกัน และแน่นอนส่วนใหญ่ (หรือจริง ๆ ทั้งหมด) ก็บอกเล่าแง่มุมในด้านบวก โดยเฉพาะการเป็นองค์กรที่ช่วยให้ตัวเองได้สร้างความสุขให้กับผู้คน ผ่านงานที่ทำ การได้เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะ ของผู้คนที่ได้สัมผัสกับผลงานของตัวเอง ก็เหมือนกับไปถึงจุดหมายของการทำงานแล้ว
และนั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้ทุกคน ‘อิน’ ไปกับงานที่ทำ
นอกเหนือไปจากความ ‘รัก’ ที่มีตั้งแต่ต้น
กับบางคนอย่าง โรบิน โรเบิร์ตส์ เรื่องราวของเธอใน ‘One Day at Disney’ ก็ยังแสดงให้เห็นว่า งานที่เธอ (หรือดิสนีย์) ทำเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ได้อย่างไรบ้าง รวมไปถึงนำเสนอภาพการทำงานที่กลมเกลียวเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันของดิสนีย์ หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ในรายการ ‘Good Morning America’
หากมองด้วยมุมมองในแง่ลบ 😀 ‘One Day at Disney’ ก็เหมือนเป็นงานประชาสัมพันธ์บริษัทวอลต์ ดิสนีย์ หรือที่หนักข้อกว่านั้นก็คือ เป็นงานโฆษณาชวนเชื่อ กลาย ๆ เมื่อออกมาไม่ต่างไปจากแอนิเมชันดิสนีย์ ที่เต็มไปด้วยความสวยงาม จบลงแบบแฮปปี้ เอนดิง
แต่ถ้ามองด้วยสายตาในด้านบวก ‘One Day at Disney’ ก็เหมือนกับการบอกให้ทุกคนที่ชมได้รู้ว่า การทำงานที่รักนั้น ถือว่ามีความสุขแล้ว แต่การทำงานที่มีความสุข และทำให้คนอื่นมีความสุข ก็ทำให้มีความสุขยิ่งกว่า
แล้วถ้าอยากรู้ว่า แต่ละคน แต่ละราย ที่ทำงานในหน้าที่ต่าง ๆ ของบริษัทวอลต์ ดิสนีย์ มีความสุขกับงานที่รักขนาดไหน และทำให้คนอื่นมีความสุขได้อย่างไร ก็ตามกันต่อได้ใน สารคดีสั้นชุด ‘One Day at Disney Shorts’ ที่แม้จะมีถึง 50 กว่าตอน แต่ด้วยความยาวที่ไม่มากนัก ก็น่าจะทำให้เพลิดเพลินไปกับหน้าที่การงานของแต่ละคนได้ รวมถึงได้รับรู้เบื้องหน้า เบื้องหลังของงานที่พวกเขาทำไปในคราวเดียวกัน
ที่เผลอ ๆ บางคนอาจจะใช้เวลาชมโดยหมดเปลืองเวลาเพียงไม่กี่วันด้วยซ้ำไป
(ONE DAY AT DISNEY ทางดิสนีย์ พลัส ฮ็อตสตาร์)
โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ชำแหละแผ่นฟิล์ม นิตยสาร เอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1335 ปักษ์แรก กันยายน 2564
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่