PAIN & GAIN: ทำแต่หนังหุ่นยนต์ จนคนลืมไปแล้วว่า ไมเคิล เบย์ สร้างชื่อมาจากหนังแอ็คชั่น พอกลับมาทำหนังแอ็คชั่น “คนๆ” ปกติอีกหน ก็เอาเรื่องจริงของครูฝึกเพาะกาย 3 หน่อ ที่อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ถึงกับต้อง “ตะเกียกตะกาย” ก่ออาชญากรรม จนชีวิตพังพาบไม่เป็นท่า
หนังเป็นงานแอ็คชัน ตลกร้าย มาพร้อมสไตล์หวือหวา ในแบบเบย์ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพสโล-โม, การตัดต่อ, มุมกล้องแปลกๆ สนุกตา, ดนตรีประกอบ และเพลงที่หยิบมาใช้ โป๊ะๆ กับหนัง มีมุขตลก ที่บ้างก็เสียดสี บ้างก็โหดๆ หยอดใส่เป็นระยะ นี่ึืคืองานตามสูตรของเบย์ ที่คนดูน่าจะคุ้นๆ กันดี แต่เติมความเป็นตลกร้าย เสียดสี แดกดัน ความเป็นอเมริกันลงไป ไม่ว่าจะเป็น ความฝันแบบอเมริกัน, มุมมองของคนอเมริกันต่อคนต่างชาติ อย่าง โคลอมเบีย ใส่เข้ามา
แต่การที่ย้ำว่า “สร้างมาจากเรื่องจริง” ก็ทำให้ Pain & Gain ตกม้าตาย ด้วยความที่หนังละเลย หรือไม่ยอมสร้าง “ความน่าเชื่อถือ” ให้กับตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็น ตัวละคร การกระทำ และเหตุการณ์ในเรื่อง ที่สตาร์ทตั้งแต่สติปัญญาของตัวละคร ก็พาหนังจบเห่ทันที จนการใส่คำว่า “ยังคงสร้างจากเรื่องจริง” เข้ามาในฉากหนึ่งของหนัง นอกจากเป็นมุขให้คนดูขำ ยังเป็นการแทงจังๆ เข้าที่คอหอยตัวเองไปพร้อมๆ กัน
กับการเป็นงานตลกร้าย Pain & Gain ก็มันส์ได้ไม่สุด บ้าไม่เต็มที่ อารมณ์ขันแบบเสียดสี ก็ดูดีในคอนเซ็ปท์ กับโดนเป็นช็อตๆ เป็นมุขๆ ซะมากกว่า หนังก็ไม่รู้ว่าจะมาทีเล่น หรือไปทีจริง ตัวละครที่น่าจะมีลูกบ้า เพี้ยนๆ ตามสติปัญญา กลับหนังไปทางน่ารำคาญ ทั้งๆ ที่แต่ละคนก็ปั้นลักษณะที่มีความขัดแย้งในตัวเข้ามาได้อย่างน่าสนใจ
สไตล์ของเบย์ ก็ดูมากเกินไปสำหรับตัวหนัง เช่นเดียวกับความยาว ที่ลด ละ เลิก เหลา ฉากไร้สาระประดามีลงไปบ้าง เหลือเวลาฉายสัก 90 – ร้อยนาทีกว่าๆ น่าจะทำให้คนดู Pain & Gain ได้อย่างชื่อเรื่อง
แต่พอมาอย่างที่เห็น ไอ้ที่ Gain จะเป็น Pain กลับหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะเห็นหลายๆ คนหยิบนาฬิกาขึ้นมาดูแล้วดูอีก หลังจากชั่วโมงแรกของหนังผ่านไป
โดย นพปฎล พลศิลป์