By Sadaos
THE LEGEND OF TARZAN: ความพยายามสานต่อเรื่องราวของ ทาร์ซาน ในแบบเดียวกับที่ Alice in Wonderland สานต่อเรื่องราวการผจญภัยของอลิซ พูดง่ายๆ ก็คือ การแตกหน่อ แผ่กิ่งก้านสาขาของเรื่องราวออกไป โดยอิงจากบทประพันธ์เดิมๆ
และคราวนี้ เราก็ไม่ต้องรอนานกว่าจะได้เห็นทาร์ซาน หรือท่านลอร์ด แห่งเกรย์สโตค เป็นหนุ่มร่างล่ำ เพราะหนังเล่าเรื่องหลังจากท่านลอร์ดออกจากมาใช้ชีวิตเป็นขุนน้ำขุนนางกับภรรยาเจน ที่อยู่มาวันหนึ่งก็ถูกเชิญชวนไปคองโกอีกครั้ง โดยเบื้องหลังนั้นมีแผนร้ายของข้าหลวงเบลเยียมที่ทำหน้าที่ดูแลคองโกแทนกษัตริย์ลีโอโปลด์แห่งเบลเยียม ที่ต้องเอาทาร์ซานไปแลกเพชรของชนเผ่าพื้นเมือง เผ่าหนึ่ง ที่มีความแค้นกับเขา ซึ่งเรื่องราวหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน เมื่อคนสำคัญในชีวิตของทาร์ซานต้องถูกจับตัวไป และใช้เป็นเหยื่อล่อให้เขาไปติดกับ ทาร์ซานแม้จะรู้ แต่ก็ต้องติดตามหาทางช่วยให้ได้…
บางคนที่ไม่เคยได้ชมหรือรู้จักกับทาร์ซานมาก่อน งานนี้ไม่ต้องกลัว เพราะหนังเดินเรื่องแบบสลับกันไประหว่าง เรื่องราวของทาร์ซานในปัจจุบัน กับทาร์ซานในอดีตไปตลอดก่อนที่จะบรรจบกันในตอนท้าย ซึ่งก็ช่วยให้หนังมีลูกเล่น มีสีสันขึ้นมาบ้าง เพราะนอกเหนือไปจากนี้ หนังก็เดินหน้าเล่าเรื่องเป็นเส้นตรง ไม่มีอะไรพลิกผัน หรือยากเกินคาดเดา แล้วในแง่ของความตื่นเต้นต่างๆ ก็มาเป็นเส้นกราฟที่ราบเรียบ ไม่มีฉากแอ็คชันที่เป้นไฮไลท์เด็ดๆ ที่กระตุ้นอารมณ์ได้ ในขณะที่ทาร์ซานก็ดูเก่งกล้าสามารถจนยากจะมีอะไรมาทำร้ายได้ รวมไปถึงทำอะไรได้ดั่งใจ โดดหน้าผา แกว่งไกวไปมา โดยที่ไม่ต้องมีการกะเกณฑ์วางแผน แถมด้วยดนตรีประกอบที่พยายามโหมประกอบ บิลท์อารมณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พยายามสร้างความยิ่งใหญ่ แต่เมื่อมากไปก็กลายเป็นเฝือ และไม่เหลือพื้นที่ให้รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่อย่างที่อยากให้เป็น เทคนิคพิเศษเองก็มีหลอกๆ ตา โดยเฉพาะฉากแกว่งไกวไปตามเถาวัลย์ของทาร์ซานและฝูงวานร
อารมณ์ของหนังดูแบนๆ ไม่มีจุดสูงสุด ต่ำสุด นิ่งๆ ซึ่งก็น่าเสียดาย เพราะหนังอุตส่าห์ได้ทาร์ซานกับเจน ที่เคมีด้านรูปร่างดูจะเข้ากันได้เป็นอย่างดี อย่าง อเล็กซานเดอร์ ซาร์สการ์ด (ที่เบ้าหน้าละม้ายคริสโตเฟอร์ แลมเบิร์ต จาก Greystoke: The Legend of Tarzan, Lord of the Apes เหลือเกิน) กับมาร์โกต์ ร็อบบี มาเป็นทุนตั้งต้นแล้ว แต่จะว่าไป เคมีด้านภาพลักษณ์ กับการแสดงอาจจะพอเข้ากันได้ แต่ปัญหาคือหนังไม่สามารถทำให้รู้สึกได้เลยว่า ทั้งคู่รักกันแนบแน่น ขณะที่ตัวร้ายอย่างคริสตอฟ วอลท์ซ ก็ดูเป็นบทซ้ำซากไม่ต่างไปจากหลายๆ บทที่เจ้าตัวรับเล่น ซึ่งก็ไม่ได้ดูล้ำลึกอะไรมากมาย โดยที่ไม่ต้องไปนึกถึงแซมวล แอล แจ็คสัน ที่กลายเป็นตลกตามพระไปซะอย่างนั้น
ที่สำคัญ หนังเองก็ดูไม่รู้ว่าจะไปทางไหน จะเป็นงานสำหรับเด็กก็ไม่ใช่ เพราะหนังพยายามจะให้ตัวเองเป็นงานดรามาในแบบ Greystoke: The Legend of Tarzan, Lord of the Apes ซะเหลือเกิน แต่ในความเป็นงานดรามาสำหรับผู้ใหญ่ ก็ได้แค่พยายาม เพราะในเรื่องความลึกของเรื่อง มิติของตัวละครหนังไปได้ไม่ถึงไหน
กลายเป็นตำนาน ที่ไม่ควรตำจะดีกว่าไหม
ควรชมหากชอบ: Greystoke: The Legend of Tarzan, Lord of the Apes, The Jungle Book
โดย นพปฎล พลศิลป์
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านงานวิจารณ์หนัง และเพลง แบบนี้ ได้ด้วยการกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์กันไว้ก่อน ได้ที่นี่
What is your reaction?
