Silver Linings Playbook (2013): แสงสว่างแสนงดงาม ท่ามกลางความมืดมน
โดย เกรียนหนัง
จาก https://www.facebook.com/photo.php?fbid=160743197415348&set=a.113215048834830.20429.112834835539518&type=1&theater
หากวัดจากผลงานของเดวิด โอ. รัสเซลล์ หลายๆ เรื่องในอดีต นี่คือผลงานที่เรียกได้ว่า “มาสเตอร์พีซ” ของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ใช่เพราะ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ได้ออสการ์นำหญิงจากหนังเรื่องนี้ แต่ด้วยตัวหนังเองที่ โอ. รัสเซลล์ ในฐานะผู้กำกับ สามารถคุมสัดส่วนระหว่างความเป็น ดราม่า โรแมนติก และคอมมิดี้ ออกมาได้อย่างสมดุล และกลมกล่อมอย่างถึงที่สุด
Silver Linings Playbook จึงถือเป็นผลงานที่ตอบแทนคนดูได้อย่างคุ้มค่าแทบในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความเข้มข้นในเชิงดราม่า ความซาบซึ้งเชิงโรแมนซ์ และความตลก (แบบเบาๆ) ที่มาพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ รวมถึงเนื้อหาสาระที่หนังต้องการจะสื่อสาร ทั้งหลายเหล่านี้ล้วนขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างกลมกลืนจนแนบสนิทเป็นเนื้อเดียวกัน โดยได้แรงส่งจากการแสดงดีๆ ของ แบรดลีย์ คูเปอร์ ในบทหนุ่มสติแตกอารมณ์แปรปรวน กับ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ในบทสาวเหงาที่แอบเก็บแต้มผู้ชายทั้งออฟฟิศ จนต้องถูกเชิญออกจากงาน
ซึ่งการทำหนังที่มีเนื้อหาเอียงไปทางดราม่าหนักๆ ให้ออกมาบันเทิงจ๋า ด้วยส่วนผสมที่ “เป๊ะ” ในระดับที่สัมผัสได้จากหนังเรื่องนี้ จะว่าไปแล้วมันยากเสียยิ่งกว่าการทำหนังอาร์ตให้ออกมาดูแหวกๆ ดูแรงๆ เสียอีก
จริงอยู่ว่าหนังอาจจะได้เรื่องต้นฉบับที่ดีอยู่แล้วจากหนังสือของ แม็ทธิว ควิ๊ก แต่เมื่อนำมาดัดแปลงเป็นบท และทำออกมาเป็นหนัง หากผู้กำกับไม่แม่นในจังหวะ ไม่รู้จักบริหารองค์ประกอบทั้งหมดให้มันได้จริงๆ ผลลัพธ์ที่ออกมาคงไม่กลายเป็นความลงตัวที่ “พอดี” ระดับยอดเยี่ยมเช่นนี้แน่นอน
ผู้เขียนไม่ขอสปอยด์เนื้อเรื่องใดๆ เกี่ยวกับเนื้อหนังเลยก็แล้วกัน เดี๋ยวคนที่ยังไม่ดูจะเสียอรรถรส ดูแล้วไม่จี๊ด ขอบอกแต่เพียงว่าสาระอันเป็นหัวใจสำคัญของเรื่องราวทั้งหมดใน Silver Linings Playbook ก็มาจากชื่อหนังนั้นแหละ “Silver Lining” หรือก็คือสำนวนที่ใช้เรียกแสงสว่างที่ส่องทะลุออกมาจากด้านหลังของกลุ่มเมฆ
ซึ่งในที่นี้ไม่ได้หมายถึง แสงสว่างหลังฝนซา อย่างที่หลายคนอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนไป แต่มันหมายถึงปรากฏการณ์ที่แสงสว่างโผล่วาบเข้ามาในช่วงที่ฝนกำลังตั้งเค้าพอดิบพอดี จนกลายเป็นแสงระยิบระยับเล็กๆ เด่นชัดขึ้นมาท่ามกลางกลุ่มเมฆหม่นๆ และไม่ได้เกิดขึ้นในทุกครั้งที่มีเมฆฝน แต่จะเกิดขึ้นเฉพาะในบางวันบางครั้งเท่านั้น
เทียบแล้วคงคล้ายกับชีวิตของเราๆ ท่านๆ นี่แหละ ที่ในช่วงเวลามืดดำของชีวิต ไม่ใช่ทุกครั้งจะมีแสงสว่าง หรือสิ่งดีๆ ปนมาด้วย แต่หากว่าครั้งไหนเกิดมีขึ้นมา จงคว้ามันไว้อย่าให้หลุดมือ!
คะแนน : ห้าดาวจัดเต็มจ้า
(ให้คะแนนเต็มไม่ใช่เพราะเวอร์ แต่ไม่ชอบกั๊ก หนังมันคู่ควรจริงๆ การแสดงดี แคเร็คเตอร์ดี เนื้อหาดี ที่สำคัญดูง่าย บันเทิง ไม่ต้องพกกระไดมาปีนดูให้เมื่อยสมอง ใครยังไม่ดู หนังยังมีรอบฉายอยู่เพียบ จัดไป อย่าให้ได้ยินตอนออกเป็นแผ่นเด็ดขาดว่า “อุ๊ย! หนังดีโคตรๆ เสียดายตอนเข้าโรงดูไม่ทัน”)