JACK RYAN: SHADOW RECRUIT: ถ้าหากในสถานการณ์ที่บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ใครยังมีกะใจออกจากบ้านมาดูหนัง หนังเรื่อง Jack Ryan: Shadow Recruit ถือเป็นหนังแนวสายลับเขย่าขวัญที่ดูสนุกไม่เลว และเหมาะสำหรับการเป็นหนังเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ หรือเบรคตัวเองจากโลกของความเป็นจริงอันวุ่นวายและเต็มไปด้วยเรื่องน่าขุ่นเคือง
ถึงอย่างนั้นก็ตาม ส่วนที่ชอบมากๆ ของหนังกลับไม่ใช่ฉากแอ็คชั่นซึ่งค่อนข้างโม้สะบั้นหั่นแหลก อีกทั้งละเมิดตรรกะทั้งในแง่ของเวลาและสถานที่นับสิบๆข้อ (แต่ใครบ้างที่แคร์) หากได้แก่อารมณ์ขันที่สอดแทรกเข้ามาเป็นพักๆ และทำให้หนังดูมีลูกล่อลูกชนขึ้นมาในพริบตา หนึ่งในนั้นถือเป็นมุขคลาสสิก ประเภทตัวเอกเป็นสายลับ แต่กลับบอกใครไม่ได้ ขณะที่นางเอกก็ได้แต่ตีความพฤติกรรมลับๆล่อๆของคนรัก-เป็นเรื่องนอกใจตัวเอง มันเป็นสถานการณ์ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมละลาบละล้วงเข้าไปในเรื่องส่วนตัวของตัวละคร
ขณะที่ในความเป็นหนังแอ็คชั่น มันก็มีองค์ประกอบตามสูตรสำเร็จทุกประการ ตั้งแต่ฉากไล่ล่าบนท้องถนน, ฉากผาดโผน, ฉากเสี่ยงตาย, ฉากชกต่อยด้วยหมัดลุ่นๆ, ฉากตัวละครต้องทำอะไรต่ออะไรแข่งกับเวลา และยิ่งในช่วงครึ่งชั่วโมงหลัง มันกระหน่ำใส่คนดูแบบน็อน-สต๊อพ และไม่ต้องหายใจหายคอ เชื่อว่าแฟนหนังแอ็คชั่นคงจะอิ่มเอมจนถึงคอหอยเลยทีเดียว
อ้อ ลืมบอกว่าเคนเน็ธ บรานาก์ห ทั้งกำกับและร่วมแสดงเป็นตัวร้ายของเรื่อง และเป็นธรรมเนียมที่ตัวร้ายจะต้องมีอาการเจ็บป่วยทางจิต และ (spoiler alert) หนึ่งในพฤติกรรมที่บ่งชี้ถึง ‘ความไม่สบาย’ ของตัวละครนี้ และถือเป็นมิติใหม่ของความวิตถาร-ก็คือ สถานการณ์ที่เขาพยายามบังคับให้คีรา ไนท์ลีย์ นางเอกของเรื่อง เคี้ยวหลอดไฟฟลูออเรสเซนท์…
ไม่ว่าใครก็ตามที่คิดมุขนี้ พี่ป่วยใช้ได้เลย
โดย ประวิทย์ แต่งอักษร