อ่านตอนที่ 1ได้ที่ http://bit.ly/1f607RW อ่านตอนที่ 2 ได้ที่ http://bit.ly/1aG3tN5
[one_three][/one_three]
อัลบั้ม 20/20 Expereince ของ จัสติน ทิมเบอร์เลค ครองแชมป์อัลบั้มขายดีปี 2013 จากยอดขายในสหรัฐ อเมริกา ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2012 – 29 ธันวาคม 2013 ซึ่งขายไปกว่า 2 ล้านก็อปปี้ และ The Marshall Mathers LP 2 ของเอเมิเน็ม ตามมาเป็นอันดับ 2, ส่วนอันดับ 3 คือ Crash My Party ของลูค ไบรอัน, อันดับ 4 อิเมจิน ดรากอนส์ กับ Night Visions, อันดับ 5 บรูโน มาร์ส กับ Unorthodox Jukebox, อันดับ 6 Here’s to the Good Times ของฟลอริดา จอร์เจีย ไลน์, Nothing Was the Same จากเดรค อยู่ในอันดับ 7, อัลบั้มของบียอนเซ่ ที่ใช้ชื่อตัวเองเป็นชื่อชุด อยู่ในอันดับ 8, Based On a True Story จากเบลค เชลตัน อยู่ในอันดับ 9 และ Magna Carta…Holy Grail อัลบั้มของเจย์ ซี อยู่ในอันดับ 10
[one_three][/one_three]
ยอดขายโดยรวมนั้นลดลง 8% จากปี 2012 ขายไปแค่ 289.41 ล้านก็อปปี้ จาก 315.96 ก็อปปี้ในปี 2012 ส่วนซีดี ยอดขายลดลง 14% จากปี 2012 ที่น่าสนใจก็คือปี 2013 เป็นปีที่หกติดต่อกันแล้ว ที่ยอดขายแผ่นเสียงไวนีลขายได้มากกว่าปีก่อนหน้า นับตั้งแต่ใช้ซาวนด์สแกนมาจัดอันดับเพลงในปี 1991 ยอดขายของแผ่นเสียงในปี 2013 อยู่ที่ 6.1 ล้านก็อปปี้ เพิ่มขึ้น 33% จากปี 2012 ซึ่งขายได้ 4.55 ล้านก็อปปี้ โดย64% ของยอดขายแผ่นเสียงในปี 2013 มาจากร้านขายแผ่นอิสระ น้อยกว่ายอดขายในปี 2013 ไม่ถึง 3% และไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่ 75% ของยอดขายแผ่นเสียงในปี 2013 จะเป็นอัลบั้มของศิลปินร็อค
[one_three][/one_three]
แต่แผ่นเสียงที่ขายดีที่สุด กลับเป็นอัลบั้มของดาฟท์ พังค์ Random Access Memories ขายไป 49,000 ก็อปปี้, Modern Vampires of the City ของแวมไพร์ วีคเอนด์ อันดับ 2 ขายได้ 34,000 ก็อปปี้ (ซึ่งทำยอดขายได้เท่ากับ แผ่นเสียงชุด Blunderbuss ของแจ็ค ไวท์ ที่เป็นแชมป์แผ่นเสียงขายดีที่สุดในปี 2012)
[one_three][/one_three]
สำหรับยอดขายเพลงดิจิตอล ปี 2013 เป็นปีแรกที่ยอดดาวน์โหลดลดลง โดยมียอดดาวน์โหลด 1.26 พันล้านโหลด ลดลงจากสถิติยอดดาวน์โหลดสูงสุดตลอดกาลในปี 2012 ที่ทำไว้ 1.34 พันล้านโหลด 6% โดยซาวนด์สแกนเริ่มเก็บ-จัดอันดับยอดขายเพลงดิจิตอลตั้งแต่ช่วงหน้าร้อนในปี 2003 หลังจากแอปเปิลเปิดขายเพลงในไอทูนส์ในเดือนเมษายนปีเดียวกันไม่นาน
[one_three][/one_three]
เพลง Blurred Lines ที่โรบิน ธิค ร้องกับฟาร์เรลล์ และที.ไอ. เป็นเพลงขายดีที่สุดของปี 2013 ด้วยยอด 6.5 ล้านโหลด, Thrift Shop ของแมคเคิลมอร์และไรอัน ลิวอิส แล้วก็แวนซ์ อันดับ 2 ยอด 6.15 ล้านโหลด ทั้งสองเพลงนี้ เป็นเพียงแค่สองเพลงที่ขายได้เกิน 6 ล้านโหลดในปี 2013 โดยประวัติศาสตร์ของยอดขายเพลงดิจิตอลนั้น มีเพียง26 เพลงเท่านั้นที่ขายได้เกิน 6 ล้าน ซึ่งแชมป์ได้แก่ I Gotta Feeling ของแบล็ค อายด์ พีส์ 8.44 ล้านโหลด
[one_three][/one_three]
เพลง Radioactive ของอิเมจิน ดรากอนส์ อยู่ในอันดับ 3 (5.5 ล้านโหลด) ตามด้วย Cruise ของ ฟลอริดา จอร์เจีย ไลน์ (4.69 ล้านโหลด) และเพลง Royals จากลอร์ด (4.42 ล้านโหลด) อันดับ 6 เป็น Roar ของแคตี เพอร์รี 4.41 ล้านโหลด ส่วน Just Give Me a Reason ที่พิงค์ร้องกับเนท รอยสส์ อยู่ในอันดับ 7 4.32 ล้านโหลด, แมคเคิลมอร์ แอนด์ ไรอัน ลิวอิส Can’t Hold Us อันดับ 8 4.26 ล้านโหลด ขณะที่ When I Was Your Man ของบรูโน มาร์ส อันดับ 9 3.93 ล้านโหลด และ Stay ที่ริฮันนาร้องกับมิกกีย์ เอ็กโกปิดท้ายในอันดับ 10 3.85 ล้านโหลด
ปี 2013 มี 106 เพลงที่ขายได้มากกว่า 1 ล้านโหลด ลดลงจากปี 2012 ที่มี 108 เพลง (และ 112 ในปี 2011) มี 38 เพลงที่ขยับยอดขายเป็น 2 ล้านโหลดในปี 2013 ส่วนปี 2012 มี 41 เพลงและ 38 เพลงในปี 2011
จากเรื่อง จัสติน ทิมเบอร์เลค, โรบิน ธิค คว้าแชมป์ขายดีปี 2013 (ตอนจบ) โดย นพปฎล พลศิลป์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ 13 มกราคม 2557