
Stay with Me ของแซม สมิธ ทำให้เจ้าของเพลง และเจ้าของเสียงร้องกลับบ้านพร้อมกับ 2 รางวัลใหญ่บนเวทีแกรมมีอวอร์ดส์ ครั้งที่ 57 นั่นก็คือ รางวัลเพลงแห่งปี และเพลงในการบันทึกเสียงยอดเยี่ยมแห่งปี นอกเหนือไปจากรางวัลอื่นๆ อีก 2 รางวัลที่ได้รับ ซึ่งทำให้ค่ำคืนของงานประกาศรางวัลแกรมมีครั้งที่ 57 กลายเป็นค่ำคืนของแซม สมิธไปในที่สุด
แต่ก่อนจะถึงคืนแห่งความสำเร็จเพียงไม่กี่วัน แซม สมิธ และเพลงนี้ก็เกือบจะต้องเจอกับปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือพูดง่ายๆ ตามประสาบ้านเราก็คือ ก็อปเพลงซะแล้ว เมื่อไปคล้ายคลึงกับ I Won’t Back Down เพลงฮิตเมื่อปี 1989 ของทอม เพ็ตตี แอนด์ เดอะ ฮาร์ทเบรคเกอร์ส โดยทั้งสองเพลงนี้ ที่แต่งขึ้นห่างกันถึงราวๆ ทศวรรษ ต่างมีท่อนคอรัสที่คล้ายกัน ทำให้ผู้ดูแลเรื่องการพิมพ์เพลง I Won’t Back Down ที่แต่งโดยทอม เพ็ตตี และเจฟฟ์ ลีนน์ ได้ติดต่อไปทางผู้ดูแลเรื่องการพิมพ์เพลงของเพลง Stay With Me ซึ่งเป็นผลงานการแต่งของ สมิธ, เจมส์ นาเปียร์ และวิลเลียม ฟิลลิปส์ เพื่อจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย
หลังจากได้ฟังอย่างจริงๆ จังๆ แล้ว สมิธ, นาเปียร์ และฟิลลิปส์ ต่างก็ยอมรับว่า ทั้งสองเพลงนี้ “มีความคล้ายคลึงกัน” โดยทางตัวแทนของสมิธมีแถลงการณ์ออกมาว่า “ถึงแม้ว่าความคล้ายคลึงกัน จะเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็ได้มีการตกลงกันอย่างมิตรภาพ และอย่างรวดเร็วที่สุด โดยทอม เพ็ตตี และเจฟฟ์ ลีนน์ จะได้รับเครดิตในฐานะเป็นผู้แต่งร่วมในเพลง Stay With Me ร่วมกับ แซม สมิธ, เจมส์ นาเปียร์ และ วิลเลียม ฟิลลิปส์ รวมทั้งค่าโรยัลตี 12.5%
ทางสมิธออกมาเผยด้วยว่า เขาไม่เคยได้ยินเพลง I Won’t Back Down มาก่อน “มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ” สมิธกล่าว “ผมอายุแค่ 22 ปี ผมไม่เคยฟังเพลงนั้นมาก่อน” แต่เขาก็ยอมรับว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เพลงใหม่ๆ จะไปคล้ายคลึงกับเพลงที่ออกมาก่อนหน้า “ผมช็อคไปเลย” เขากล่าว “การแต่งเพลงนี้เป็นเรื่องธรรมดามากๆ ที่เกิดขึ้น โดยผมก็ไม่รู้สึกถึงความคล้ายคลึง และผมก็ยังคงต้องเรียนรู้เรื่องราวทำนองนี้อีก
“ผมเข้าไปในห้องอัด และ Stay With Me ก็คือผมที่นั่งเขียนเพลงเกี่ยวกับการหลับนอนกับผู้คนมากมาย และปรารถนาให้เขายังอยู่ที่นี่ต่อ นั่นคือที่อยู่ในหัวผมตอนเขียนเพลงนี้ แล้วผมก็ต้องอึ้งเมื่อรู้ว่าเมโลดีมันไปคล้ายกับอีกเพลง เพราะผมแค่อายุ 22 และไม่เคยฟังเพลงนั้นเลย”
เพ็ตตีเองก็ไม่ได้รู้สึกขุ่นข้องหมองใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น “ตลอดการทำงานในฐานะนักแต่งเพลง มันแสดงให้ผมรู้ว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้” เพ็ตตี เขียนเอาไว้ในเฟซบุ๊ค “แต่ส่วนใหญ่คุณจะจับได้ก่อนที่มันจะออกจากห้องอัด แต่ในกรณีนี้ มันออกมาแล้ว” โดยแถลงการณ์ทั้งหมดของเพ็ตตีมีเนื้อหาทั้งหมดดังนี้
“กับเรื่องของแซม สมิธ ผมอยากบอกว่า ผมไม่มีความรู้สึกที่ไม่ดีกับเขา ตลอดการทำงานในฐานะนักแต่งเพลง มันแสดงให้ผมรู้ว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ แต่ส่วนใหญ่คุณจะจับได้ก่อนที่มันจะออกจากห้องอัด แต่ในกรณีนี้ มันออกไปแล้ว คนของแซมก็เข้าใจสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเรา และเราก็สามารถตกลงกันได้ง่ายๆ การฟ้องศาลไม่เคยถูกพูดถึงและไม่อยู่ในความคิดของผม และไม่มีอะไรที่มากไปกว่าที่ผมพูด อย่างอื่นที่ออกไปตามสื่อต่างๆ มันเกินกว่าสิ่งที่ผมกับแซมทำ เขาทำในสิ่งที่ถูกต้องและผมก็คิดว่าไม่มีอะไรอีกแล้ว มันเป็นอุบัติเหตุทางดนตรี ไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น ตอนนี้เราตกเป็นข่าวแย่ๆ และผมหวังว่าแซมจะไปได้อย่างดีที่ีสุดสำหรับการทำงานของเขา ด้วยความรักและสันติภาพสำหรับทุกคน”
สมิธเสริมด้วยว่า เพ็ตตีได้เขียนจดหมายส่งตรงถึงเขา ย้ำว่าเข้าใจดีว่ามีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งสมิธรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่สุภาพมากๆ “ไม่ได้มีอะไรที่ดูเป็นการหาเรื่องกันเลย” สมิธกล่าว “และเราทุกคนก็พยายามจัดการกับเรื่องนี้ให้มีความเป็นสุภาพชนอย่างที่สุด” และเมื่อถูกถามถึงการได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี สมิธจอบว่า “ความฝันของผมเป็นจริงแล้ว พูดตรงๆ ผมรู้สึกว่าผมได้รางวัลแล้วละ และรู้สึกตื่นเต้นมากๆ”
และเขาก็กลับบ้านพร้อมกับรางวัลแกรมมีถึง 4 รางวัล
จากเรื่อง น้ำใจของรุ่นใหญ่ทอม เพ็ตตี กับความจริงใจของรุ่นหลาน แซม สมิธ โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558
สามารถกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่