(อ่านตอนแรกได้ที่ http://bit.ly/11cV3c8) จากภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องคนๆ หนึ่งตั้งแต่เด็กจนโต ถ่ายทำกันตามเวลาจริง ทำให้ได้ Boyhood หนังที่ใช้เวลาถ่ายทำถึง 12 ปี กับการนำเสนอชีวิตของเด็กชายคนหนึ่งและครอบครัวตั้งแต่เขาอายุแค่ 6 ขวบ ที่ใช้นักแสดงชุดเดียวทั้งเรื่อง พัฒนาการของเวลาเป็นสิ่งที่มองเห็นได้จากตัวละคร และสภาพแวดล้อม รวมไปถึงเพลงที่ใช้ ซึ่งผู้กำกับริชาร์ด ลิงค์เลเตอร์ คัดสรรงานเพลงที่เป็นตัวแทนของยุคสมัยมาใส่ในเรื่องด้วย
แต่บางเพลงก็ไม่ใช่ หากเป็นเพลงจากความคิดของตัวละคร หรือบางเพลงก็เป็นเพลงที่มีหน้าที่ในการเล่าเรื่อง อย่าง เพลงจากอัลบั้ม The Suburbs ของอาร์เขด ไฟร์ “ผมเจอวิลล์ บัทเลอร์( สมาชิกของวง) เมื่อปีกลาย ผมบอกเขาไป ‘นี่… นายคงไม่รู้หรอกว่า อัลบั้มของพวกนายกินพื้นที่มากมายขนาดไหนในหนังช่วงสุดท้าย’” ลิงค์เลเตอร์เล่า และเพลง Deep Blue จากอัลบั้มที่ว่าก็คลอไปกับฉากปิดของหนัง
นั่นคือหนึ่งข้อยกเว้น เป็นหนึ่งเพลงที่ไม่ได้กระตุ้นความทรงจำของคนดู แล้วยังมีอีกเพลง ที่เป็นงานใหม่ของเจฟฟ์ ทวีดี แกนนำของวงวิลโค ที่แต่งให้กับหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งทำให้ผู้กำกับเป็นหนึ่งในไม่กี่คนบนโลก ที่อาจรู้สึกแตกต่างจากคนทั่วไปตอนเพลงดังขึ้นในช่วงเอนด์ เครดิต
จากในหนัง จะรับรู้ได้เลยว่า เพลงเกือบทั้งหมดจะถูกวางโดยเรื่องราวของหนัง จากวัยเด็กในตอนเริ่มต้น แล้วถูกแทนที่ด้วยวัยผู้ใหญ่โดยไม่รู้สึกตัว ซึ่งเป็นอุปสรรคที่แยกลิงค์เลเตอร์จากที่ปรึกษาด้านดนตรี ตัวเขาเองก็รู้เรื่องนี้ และนี่ก็กลายเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมเขาถึงห่วงเรื่องเพลงที่ใช้ เพราะการที่ตัวละครต้องผ่านยุคต่างๆ เพลงต้องมีพลังมากพอจะฝังตัวอยู่ในความทรงจำจากช่วงเวลานั้นๆ ในวัยเด็ก ทุกๆ เพลงจะบอกเวลาของเรื่อง แล้วพอมาถึงช่วงเพลงที่ลิงค์เลเตอร์เรียกว่า ไม่แตกต่าง ความรู้สึกถึงความเฉพาะตัวน้อยลงจะถูกปลุกขึ้น และสำหรับเป้าหมายทางศิลปะ เพลงก็มีประโยชน์น้อยลงเช่นกัน แต่ในเวลาเดียวกัน ประสบการณ์ส่วนตัวของลิงค์เลเตอร์ ก็ยังเชื่อในสิ่งที่เขาค้นพบ ความรู้สึกที่ผู้กำกับมีต่อเพลงทั้งหลายใน Boyhood ยังคงมีความเฉพาะตัวอย่างที่สุด
จริงๆ แล้วเพลง Hero ซึ่งที่ปรึกษาทางดนตรีของเขาจำได้ว่า เป็นเพลงปลอบใจตอนอกหักรักสลายนั้น เกือบจะไม่ได้อยู่ในหนังแล้ว นี่คือเพลงสุดท้ายที่ถูกใส่เข้ามา ตอนแรกลิงค์เลเตอร์คิดกับเพลงนี้คล้ายๆ กับเพลงของจอร์จ แฮร์ริสัน ที่ดูล้นๆ เกินไปสำหรับเรื่อง ก่อนจะเปลี่ยนใจ เพราะในฉากนั้นต้องการอะไรที่มัน “ล้นๆ” เพื่อให้ภาพที่ออกมาได้ผล
“คุณรู้เลยว่ามันใช้ได้” ลิงค์เลเตอร์พูดถึงเพลงที่ว่า “นั่นคือฉากที่ดี คุณจะรู้ เมื่อคุณได้ชม”
จากเรื่อง กว่าจะมาเป็น บทเพลงแห่งกาลเวลา ในหนังแห่งชีวิต Boyhood (4) โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 3 ตุลาคม 2557
Like & Follow