By Sadaos
หยิบเอา Beyoncé อัลบั้มล่าสุดของบียอนเซ มาพูดถึงหลายหน แต่ยังไม่เคยหยิบเอาตัวอัลบั้มจริงๆ มาผ่าเลยว่า ออกมาเป็นยังไงมายังไง หนนี้เลยหยิบเอางานชุดนี้มาเล่าสู่กันฟัง เพราะมีวางจำหน่ายในบ้านเราเรียบร้อยแล้วโดยโซนี มิวสิค ปล่อยออกมาเป็น ซีดี + ดีวีดี ซีดีมีเพลง 14 เพลง ส่วนดีวีดี มีมิวสิค วิดีโอ 17 เพลง มี Grown Woman และ Ghost กับ Yonce’ ทีถูกร้อยเข้ามากับอีกสองเพลงที่มีในอัลบั้มแล้ว เพิ่มมาให้ได้ชมกัน
[one_half][/one_half]
แม้จะได้รับการพูดถึงในเรื่องการทำการตลาด การวางจำหน่ายไว้มาก แต่เรื่องเนื้องาน Beyoncé ก็เป็นงานคุณภาพ ตัวเพลงที่เป็นงานอาร์แอนด์บี, โซล การเรียบเรียงดนตรี การวางโครงสร้างของงานฟัง “สด” ดนตรีฟังล้ำกว่างานอาร์แอนด์บีทั่วๆ ไป แล้วบรรดาแขกรับเชิญก็ล้วนแล้วแต่เป็นเอ-ลิสท์ ไม่ว่าจะเป็นสามีของเธอ เจย์ ซี, เดรค, แฟรงค์ โอเชียน ที่มาร่วมร้อง แต่ถ้าลงไปถึงคนทำงานเบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็น แต่งเพลง หรือโปรดิวซ์ ก็ยังมี จัสติน ทิมเบอร์เลค, ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์, ทิมบาแลนด์, ฮิต-บอย หรือว่า เดอะ ดรีม ที่มามีส่วนร่วมด้วย
ขณะที่เนื้อหา เรื่องราวของอัลบั้ม แม้จะวางอยู่บนเรื่องของความสัมพันธ์ ความรัก รวมไปถึงความเป็นมาของตัวเองเป็นหลัก แต่ในมุมหนึ่ง การที่บียอนเซ่เอาคำพูดของนักรณรงค์เรื่องสิทธิสตรีชาวไนจีเรีย ชิมาแมนดา เอ็นโกซี มาใช้ในเพลง ***Flawless ก็ทำให้ภาพความเป็นเฟมินิสท์ในตัวของเธอ โดดเด่นชัดเจนมากขึ้น
แต่ในมุมหนึ่ง Beyoncé ก็ไม่ใช่งานฟัง “ง่าย” สำหรับคอป็อปทั่วไป ดนตรีมาพร้อมจังหวะจะโคนที่ฟังขัดๆ การเรียบเรียงที่มีชัดเชิง มีอารมณ์และมูฟเมนท์ดนตรีีที่หลากหลาย หรือซับซ้อน หากจะพูดถึงเพลงที่กลุ่มคอป็อปแท้ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในตลาดเพลงอาร์แอนด์บี, ฮิพ-ฮ็อพครองตลาดแบบอเมริกา อย่างน้อยๆ ก็มีเพลงอย่าง Blow งานสนุกๆ ที่ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ หนุ่มฮ็อตของวงการเพลงเป็นโปรดิวเซอร์, XO ที่เด่นด้วยเสียงร้องประสานเสียงหนาๆ ที่ทำให้นึกถึงงานกอสเพล โซล แต่ดนตรี บีททันสมัย, Heaven งานบัลลาดฟังซึมๆ เศร้าๆ ที่บียอนเซ่ร้องได้อย่างถึงอารมณ์ และเพลงสุดท้าย Blue ที่ได้เสียงลูกสาว – บลู ไอวี มาแจม ก็ฟังหวาน น่ารักๆ มีอารมณ์แบบงานลัลลาบาย ซึ่งจัดเป็นงานตามสูตรที่สุดก็ว่าได้ของ Beyoncé
ขณะที่มิวสิค วิดีโอทั้ง 17 เพลง ล้วนเป็นงานที่ไม่ใช่ว่า สักๆ แต่ถ่ายศิลปินมายืนร้องเพลงเหมือนที่ค่ายเพลงในบางประเทศทำ เพื่อที่จะพ่วงใช้เป็นคาราโอเกะในตัว ทุกเพลงถ่ายทำออกมาอย่างดี โดยผู้กำกับมิวสิค วิดีโอมีชื่อ และบางเพลงก็เป็นฝีมือของบียอนเซ่เอง หรือเพื่อนๆ อย่างเดรค แต่ก็ไม่ได้ออกมาแบบงานโฮม วิดีโอพื้นๆ นอกจากนี้ยังมีนักแสดงมีชื่ออย่าง ฮาร์วีย์ ไคเทล มาร่วมแสดงด้วย ที่สำคัญงานเหล่านี้ทำให้เพลงต่างๆ คลี่คลายมากขึ้น หรือถูกขับเน้นเรื่องราวให้เข้าถึง เข้าใจได้ง่ายขึ้น หากจะพูดว่า มิวสิค วิดีโอนั้นมาช่วยให้สัมผัสกับเพลงของเธอง่ายขึ้นก็คงไม่ผิด โดยเพลงสุดท้าย Grown Woman นั้น เปรียบได้กับเพลงที่บันทึกความเป็นมาของบียอนเซ่เลยก็ว่าได้
และนั่นก็น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บียอนเซ่ตัดสินใจงานชุดนี้เป็น ซีดี + ดีวีดี หรือถ้าเป็นดาวน์โหลดแบบยกชุด ก็จะงานแบบวิชวล อัลบั้ม คือ มีเพลง 14 เพลงให้ฟัง กับอีก 17 เพลงให้ดูไปด้วยกัน เพื่อให้งานที่เข้าถึงไม่ง่าย มีตัวช่วยมาย่อยข้อมูลให้เสร็จ แล้วในแง่เนื้อหานี่คือก้าวที่ไปข้างหน้าของศิลปิน ส่วนเรื่องดนตรีก็แสดงให้เห็นว่า เธอมาครบ ความสวย ความสามารถ ความฉลาด และไอเดีย
จัดอยู่ในกลุ่มอัลบั้มชั้นดี มีการตลาดครบ สมกับเป็น วิวัฒน์อัลบั้ม กันเลยทีเดียว
จากเรื่อง ผ่าอัลบั้ม Beyoncé วิวัฒน์อัลบั้มของบียอนเซ โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ วันที่ 4 มีนาคม 2557
What is your reaction?
