
ALL MY DEMONS GREETING ME AS A FRIEND/ Aurora
[Decca]
ลืมตามาดูโลกก่อนเปลี่ยนศตวรรษแค่ 4 ปี แต่ก็ได้เซ็นสัญญากับสังกัดใหญ่อย่างเด็คคา ตอนอายุเพียง 17 ปี ตามด้วยการออกอีพีชุดแรกเมื่ออายุ 18 และปีนี้ ปีที่เธออายุ 19 ปี ออรอรา แอคเนส สาวนอร์วีเจียน ที่ใช้ชื่อในการทำงานว่า ออรอรา ก็มีอัลบั้มชุดแรกชื่อยาวแต่เก๋ All My Demons Greeting Me As A Friend ออกมาให้ได้ฟังกัน หลังจากปีที่แล้วเธอกลายเป็นจุดสนใจในวงการเพลง โดยเฉพาะฝั่งอังกฤษเป็นพิเศษ เมื่อร้องเพลง Half the World Away ของ Oasis ในสปอตโฆษณาช่วงคริสต์มาสของห้างจอห์น ลิวอิสได้อย่างสะกิดหู โดนใจ
ออรอราตีความเพลงใหม่ได้อย่างสวยงาม ทำให้เพลงมีความหมายใหม่ อบอุ่น และนุ่มนวลกว่าที่เคยเป็น แล้วเสียงร้องก็สวยงาม ราวกับเป็นเสียงของนางไซเรนยังไงยังงั้น
กับอัลบั้มชุดแรกในชีวิตของเธอ ออรอราปล่อยของ วางยาเสน่ห์ให้ลุ่มหลงอย่างเต็มที่ ดนตรีฟังสวยงาม เมโลดีน่าหลงใหล เสียงร้องฟังกังวานใส ที่เมื่อผสมผสานกันแล้ว สามารถสร้างบรรยากาศที่ชวนเคลิ้มฝัน ล่องลอยขึ้นมาได้ ซึ่งชวนให้นึกถึงงานในทางของชิลล์เอาท์ หรือทริป-ฮ็อพ แต่เพลงของออรอราฟังป็อปมากกว่านั้น
ในอีกมุมมองหนึ่ง บรรยากาศ และอารมณ์ในเพลงของเธอ ก็พาให้คิดถึงลอร์ด นักร้องสาววัยกระเตาะ ที่แจ้งเกิดได้อย่างมหึมาเมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่ก็แค่คิดถึง เพราะถ้าลงลึกในรายละเอียดของดนตรี เนื้องานจริงๆ แล้ว ทั้งคู่แตกต่างกันในความเป็นงานป็อปฟังเก๋ๆ อาร์ตๆ ที่เหมือนกัน
สรุปให้เห็นแบบง่ายๆ ก็คงเป็น เพลงของออรอราฟังโปร่ง ให้สัมผัสของแสงสีขาว ขณะที่งานของลอร์ด มาพร้อมกับแสงทึมๆ หนักๆ แต่ก็เป็นเพลงที่คนพร้อมจะรัก และให้คนรักทั้งสองคน
ด้วยความแข็งแรงในเรื่องดนตรี เพลงของออรอราแตกต่างจากงานทั่วไปในท้องตลาด มีลักษณะเฉพาะตัว และเมื่อไล่เรียงฟังไปทีละเพลงในอัลบั้ม จะเห็นถึงความเป็นเนื้อเดียว เกี่ยวพันกันของทั้ง โครงสร้างทางดนตรี, โทนเพลง, ซาวนด์ ส่วนเรื่องราว ที่สาว 19 รายนี้เอามานำเสนอ ก็สอดรับกับชื่อของอัลบั้มเป็นอย่างดี
เพราะที่อยู่บนดนตรีที่ฟังล่องลอย เคลิบเคลิ้ม ชวนฝัน มันเป็นงานที่ฟังหม่น ทึม และมีมุมมอง, เนื้อหา ของคนที่ราวกับผ่านโลกมามากกว่า 19 ปี ตั้งแต่เพลงแรก Runaway ที่ออรอราพูดถึงการหนีจากที่บางแห่ง เพื่อเผชิญโลกกว้าง หรือตามหาความฝัน ก่อนที่จะพบว่า ตัวเองกำลังหนีจากสิ่งที่ตามหา มายังที่ๆ เธอจากไป เพื่อ “… a soft place to fall” และ “… home where I belong” ที่น่าประหลาดใจก็คือ นี่คือเพลงที่เธอแต่งขึ้นมาตอนอายุเพียง 12 ปี
Conqueror ออรอราพาไปพบการตามหาฮีโร ที่จะมาช่วยปกป้องดูแลเรา ที่เอาเข้าจริงๆ แล้ว ก็ไม่มีฮีโรให้พบหา มีแต่ตัวเราเท่านั้นที่จะสร้างคนๆ นั้นขึ้นมา ขณะที่ Running with the Wolves ก็คือเพลงรักษ์โลก ที่ให้มนุษย์เราปล่อยให้สัญชาตญานได้ทำงาน ได้ออกท่าออกทางแบบสัตว์ป่า ซึ่งนัยในเพลงก็คือ การใช้ชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของโลก และธรรมชาติมากกว่าจะเป็นอะไรที่ลึกซึ้งกว่านี้ Through the Eyes of a Child ดนตรีไม่ต่างไปจากงานลัลลาบาย เนื้อหาพูดถึงการมองโลกด้วยสายตาสะอาดๆ สดใสของเด็กๆ ซึ่งคล้ายๆ กับออรอรากำลังพูด บอก ร้องขอกับตัวเอง ที่น่าจะทำให้มุมมองต่อโลกเปลี่ยน
ออรอรายังมองชีวิตของผู้คนไม่ต่างไปจากนักรบ หรือนักสู้ และนำเสนอออกมาให้ฟังใน Warrior ที่ตัวดนตรีรุกเร้าคึกคัก เข้ากับชื่อเพลง ขณะที่ Home เป็นอีกหนที่เธอพูดถึงบ้านและการใช้ชีวิตแบบปัจเจกชน ที่ไม่ว่าชีวิตจะแย่ย่ำ เจออะไรเลวร้ายแค่ไหน มีแต่เราเท่านั้นที่เป็น ‘บ้าน’ ที่จะให้ความอบอุ่น ปลอบใจตัวเราเอง
อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้า สาวน้อยคนนี้มองโลกด้วยสายตาของผู้ใหญ่ ตามความเป็นจริง มีหม่นทึม มากกว่าสดใส และยิ่งในเพลงอย่าง Murder (5, 4, 3, 2, 1) และ Under the Water โลกของออรอรา ขยับไปถึงความดำมืด โดยเพลงแรกจะพูดถึงการฆ่าด้วยความปราณี “Oh, he did it all to spare me from the awful things in life that come/ And he cries and cries / I know he knows that he’s killing me for mercy” ขณะที่เพลงต่อมาจะพาไปพบคนที่สภาพจิตใจอ่อนล้า ชีวิตหลงทาง จนพาตัวเองไปติดอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ต่างไปจากการจมอยู่ใต้น้ำ ยากจะหายใจ ยากจะดิ้นรน
ทั้งหมด ทั้งมวลล้วนบ่งบอกทัศนคติ มุมมองที่มีต่อชีวิต ของออรอรรา แม้เนื้อหาที่เกาะเกี่ยวกันจากเพลงหนึ่ง ไปสู่เพลงหนึ่ง อาจจะไม่ถึงเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวพันกันเต็มร้อย แต่ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันสำหรับความคิด และทำให้ตัวตนของออรอราปรากฏชัดเจนทั้งในส่วนของดนตรี ตลอดจนไอเดียที่มีต่อชีวิต
เมื่อได้ฟัง ได้สัมผัส งานของออรอรามากขึ้น ก็หาคำตอบได้ไม่ยากเลยว่า ทำไมบรรดาปีศาจร้ายของเธอ ถึงยินดีปรีดาที่ได้เธอมาเป็นเพื่อนอีกคนนักหนา อย่างที่ชื่อชุดว่าไว้ แล้วสิ่งหนึ่งที่ได้เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือ ความขัดแย้งในตัวเองของออรอรา ที่สัมผัสได้จากโทนของดนตรีที่ตัดกับเนื้อหาที่เธอนำเสนอออกมาโดยไม่มีอะไรที่จะมาปิดบังได้มิด
และก็ทำให้เห็นชัดเรื่องศักยภาพในการทำงาน ไอเดียในเรื่องต่างๆ ที่ All My Demons Greeting Me As A Friend ล้วนบ่งบอกว่า เด็กสาวชาวนอร์วีเจียนคนนี้ เก่งเกินวัย ไอเดียเกินตัว มีความสามารถที่เกินหน้า เกินตาผู้ใหญ่หลายๆ คน ในแบบที่เห็นออราปรากฏออกมาสว่างไสวเหลือเกิน
โดย นพปฎล พลศิลป์ จากคอลัมน์วิจารณ์-แนะนำ นิตยสารสีสัน