BLACK WIDOW (ORIGINAL MOTION PICTURE SOUNDTRACK) / Music Composed bv Lorne Balfe
(Hollywood Records)
งานตอนแยกของตัวละครมนุษย์มนา ที่เป็นส่วนหนึ่งในทีมซูเปอร์ฮีโร อเวนเจอร์ส ที่เรื่องราวบอกเล่าทั้งความเป็นมาของเธอ และเติมเต็มช่วงเวลาที่หายไปของตัวละครรายนี้ ระหว่าง ‘Captain America: Civil War’ และ ‘Avengers: Infinity War’
ทำให้หนังมีความเป็นงานภาคต่อแบบหลวม ๆ อยู่ในคราวเดียวกัน
และถึงจะเน้นเรื่องราวในช่วงเวลาที่เธอหนีการตามล่าของผู้การรอสส์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในหนังก็ไม่ได้ไปกวนความเป็นไปของหนังในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลเรื่องหลัก ๆ ที่ตามมา หรือไปกระทบกับเหตุการณ์ก่อนหน้าจะมีทีมอเวนเจอร์ส เพราะชีวิตในอดีตของนาทาชา โรมานอฟฟ์ ที่เห็นในหนังนั้น ก็เป็นชีวิตที่สาหัสสากรรจ์ไม่น้อย เมื่อถูกเลี้ยงดูในฐานะ สายลับ มาตั้งแต่เด็ก ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวกำมะลอ ที่ในหนังปมตรงนี้คือประเด็นสำคัญ ที่ถูกนำไปเปรียบกับชีวิตของทีมอเวนเจอร์ส รวมไปถึงความสัมพันธ์ของพ่อลูกตัวร้ายในคราวเดียวกัน
ซึ่งทำให้รู้สึกได้เลยว่า เพราะอะไร? นาทาชาถึงผูกพันกับทีมอเวนเจอร์สนัก ก่อนที่จะมีโอกาสได้ปรับความเข้าใจกับพ่อ-แม่ และน้องสาวปลอม ๆ ในหนังเรื่องนี้ ที่ช่วยให้ ‘Black Widow’ มีความอบอุ่นในตัว ก่อนที่จะปิดฉากตัวละครรายนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมกับสานต่อเรื่องราวไปให้กับหนัง (หรือซีรีส์) เรื่องที่จะตามมาได้แบบสวย ๆ
แม้จะเป็นงานตอนแยก แต่บรรดานักแสดง โปรดักชั่นก็มาเต็ม นักแสดงมีทั้งราเชล ไวสซ์, ฟลอเรนซ์ พิวจ์ รวมถึงเดวิด ฮาร์เบอร์ ส่วนงานโปรดักชั่น ที่จะมาหยิบมาวิพากษ์วิจารณ์กัน อย่าง งานดนตรีประกอบ ก็เป็นฝีมือของ ลอร์น บัลเฟ ที่เคยอยู่ในทีมรีโมต คอรโทรล โปรดักชั่นส์ของฮานส์ ซิมเมอร์มาก่อน ขณะที่เครดิตในการทำงานก็เคยผ่านงานใหญ่ ๆ อย่าง ‘13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi’, ‘Terminator Genisys’, ‘Mission: Impossible – Fallout’ มาแล้ว
จากข่าวคราวในการทำงาน บัลเฟไม่ใช่ตัวเลือกแรกในการทำงานนี้ หากเป็นอเล็กซองดร์ เดสพลาท์ คอมโพเซอร์เจ้าของรางวัลออสการ์จาก ‘The Grand Budapest Hotel’ กับ ‘The Shape of Water’ แต่เมื่อดูจากผลงาน ในฐานะตัวสำรองหรือมวยแทน บัลเฟสามารถทดแทนการจากไผของเดสพลาท์ได้เป็นอย่างดี เมื่อดนตรีที่ออกมา มีลักษณะเฉพาะตัว มีบรรยากาศ และคอนเซ็ปต์ร่วมกับหนังชัดเจน โดยเฉพาะ ความเป็น ‘รัสเซียน’
ที่ทั้งเหตุการณ์ ทั้งตัวละครในเรื่อง ล้วนเกิดขึ้น และเกี่ยวพันกับ ประเทศหลังม่านเหล็กประเทศนี้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้กลุ่มนักร้องประสานเสียง ทั้งการใช้ดนตรีมาร์ช ซาวด์ดนตรีแบบยุโรปตะวันออก ที่มีสัมผัสของดนตรีแห่งกองทัพแดง ฟังขึงขัง ใหญ่ อลังการ และให้ความรู้สึกเย็นยะเยียบในบางที และบางครั้งก็มาพร้อมกับความลึกลับ เช่นที่ได้ยินในช่วงเปิดของธีม “Yelena Belova”
ถือได้ว่างานดนตรีของบัลเฟ ก็คืออีกองค์ประกอบหนึ่งที่ช่วยให้ ‘Black Widow’ มีความเป็นตัวของตัวเองชัดเจน นอกเหนือไปจากแนวทางของหนัง ที่วางตัวเป็นงานสายลับ ซึ่งแตกต่างไปจากหนังส่วนใหญ่ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล
ไม่ใช่แค่มีสัมผัสของรัสเซีย หรือยุโรปตะวันออก งานที่บัลเฟทำยังลงลึกไปถึงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร ที่มีปมเรื่องความสัมพันธ์ ความผูกพันในครอบครัว ซึ่งทำให้หนังมีความอบอุ่น ความนุ่มนวล ที่คำตอบของบัลเฟต่อเรื่องราวเหล่านี้ ก็คือธีมอย่าง “Blood Ties” หรือ “Hand in Hand”
ที่น่าสนใจก็คือ แม้จะจัดเต็มบรรยากาศแบบรัสเซียน แต่บัลเฟกลับเลือกไม่ใช้เครื่องดนตรีพื้นบ้านรัสเซีย ซึ่งเขาบอกว่า “มันไม่เข้ากับหนัง” และน่าจะทำให้ “กลายเป็นงานล้อเลียน”
ด้วยความเฉพาะตัวที่มี หลาย ๆ ธีมของ ‘Black Widow’ คืองานที่น่าสนใจ เริ่มตั้งแต่ธีมแรก “Natasha’s Lullaby” เลยก็ว่าได้ ที่หากเปิดฟังไปเรื่อย ก็จะทำให้ต้องลุกมาดูชื่อเพลงเป็นระยะ ๆ ด้วยความ ‘เตะ’ หูของงาน
น่าเสียดายที่ในอัลบั้มซาวนด์แทร็ก ไม่ได้ใส่เพลง “Smells Like Teen Spirit” ของ เนอร์วานา ที่นำมาเรียบเรียงและร้องใหม่โดย ธิงก์ อัพ แองเกอร์ กับมาเลีย เจ ที่ถูกใช้ในเครดิตเปิดหนัง เข้ามาให้ด้วย รวมไปถึงเพลง “American Pie” ของดอน แม็คลีน ที่ตัวละครร้องกันระหว่างเดินทางไปสนามบิน ที่น่าจะทำให้ตัวอัลบั้มมีความสมบูรณ์มากขึ้น
แต่แม้จะขาดพร่องอยู่บ้าง หากแง่ของการเป็นอัลบั้ม ‘ดนตรี’ ประกอบภาพยนต์ อัลบั้มซาวด์แทร้กของ ‘Black Widow’ ก็ตอบโจทย์ในสิ่งที่ตัวเองเป็น
ส่วนการทำงานของบัลเฟ… น่าเสียดายเหมือนกันที่เรื่องราวของนาทาชา โรมานอฟฟ์จบลงแค่นี้ ไม่เช่นนั้นน่าจะได้เห็นอะไรดี ๆ มากกว่านี้ หรือบางทีสิ่งที่เขาเริ่มต้นไว้ อาจจะได้รับการสานต่อในเรื่องราวที่เข้ามารับจากช่วงท้ายเครดิตของหนังก็เป็นไปได้
Track listing: 1. “Natasha’s Lullaby” (3:24) 2. “Latrodectus” (2:40) 3. “Fireflies” (3:13) 4. “The Pursuit” (2:53) 5. “The First Bite Is the Deepest” (3:05) 6. “Last Glimmer” (4:19) 7. “Dreykov” (3:34) 8. “You Don’t Know Me” (2:01) 9. “Yelena Belova” (3:36) 10. “From the Shadows” (3:44) 11. “Hand in Hand” (2:46) 12. “Blood Ties” (2:54) 13. “Whirlwind” (3:28) 14. “Arise” (2:13) 15. “Natasha’s Fragments” (1:55) 16. “A Sister Says Goodbye” (4:14) 17. “I Can’t Save Us” (1:51) 18. “Red Rising” (3:57) 19. “The Betrayed” (5:38) 20. “The Descent” (2:05) 21. “Faces to the Sun” (1:51) 22. “Natasha Soars” (2:19) 23. “Last Love” (1:59) 24. “Into the Past” (4:55) 25. “Broken Free” (3:09) 26. “A Calling” (2:10) Total length: 79:53
โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ สะกิดร่องเสียง นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1337 ปักษ์แรก ตุลาคม 2564
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่