FEATURESMusic Featuresวันนี้ ในโลกดนตรี

วันนี้ในโลกดนตรี 21 ตุลาคม

วันเกิดของมือกีตาร์คนสำคัญ ผู้อยู่เบื้องหลังอัลบัม ‘Thriller’ ของไมเคิล แจ็คสัน วันที่หนังสือสุดฉาวของมาดอนนา ออกวางจำหน่าย วันที่เลินเนิร์ด โคเฮนออกอัลบัมชุดสุดท้าย ก่อนเสียชีวิต วันที่ซิงเกิล “Candle in the Wind ‘97” ถูกบันทึกว่าเป็นซิงเกิลขายดีตลอดกาล และวันจากไปของมือกลองแห่งวงหญิงล้วนระดับตำนาน The Runaways

1957: สตีฟ ลูคาเธอร์ มือกีตาร์, นักร้อง, นักแต่งเพลง, มือเรียบเรียง และโปรดิวเซอร์ ชาวอเมริกัน สมาชิกของวง Toto ที่มี “Africa” เป็นเพลงฮิตอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา และอันดับ 3 ในอังกฤษ ถือกำเนิดขึ้น

ลูคาเธอร์ บันทึกเสียงกีตาร์ให้กับอัลบัมมากกว่า 1,500 ชุด ซึ่งรวมไปถึงกีตาร์โซโลในเพลงอันดับ 1 เมื่อปี 1981 ของโอลิเวีย นิวตัน-จอห์น “Physical”, “Beat It” ของไมเคิล แจ็คสัน และมีส่วนเกี่ยวพันในการทำงานอย่างเป็นรูปธรรมในอัลบัมชุด ‘Thriller’ ของแจ็คสันเกือบทั้งชุด

1992: หนังสือ Sex ของมาดอนนา ที่ทุกอย่างของหนังสือเต็มไปด้วยสิ่งที่ชวนช็อค โดยเฉพาะบรรดาภาพต่าง ๆ ในเล่ม ออกวางขายในราคา 50 เหรียญสหรัฐฯ โดยหนังสือมีปกเป็นเหล็กและอยู่ในซองพิเศษ

ภาพที่ถ่ายโดยสตีเวน ไมเซล แสดงให้เห็นเรือนร่างอันเปลือยเปล่าของมาดอนนา ในหลากหลายสถานการณ์ที่กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ และมีคนดังอีกหลายคนร่วมอยู่ในภาพด้วย อาทิ อิซาเบลลา รอสเซลลินี, นาโอมี แคมป์เบลล์ และวานิลลา ไอซ์

“ทุกสิ่งที่คุณได้เห็น และอ่าน เป็นเรื่องแฟนตาซี, ความฝัน, การแสแสร้ง” มาดอนนาเขียนเอาไว้ในบทนำ

ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องเพศ ไม่ใช่ประเด็นใหม่สำหรับมาดอนนา เพราะนี่คือผู้หญิงคนเดียวกับที่ร่ำร้องถึงการ “ถูกสัมผัสเป็นครั้งแรก” (touched for the very first time) ในเพลง “Like A Virgin” และบิดตัวด้วยท่วงท่าสุขสมบนเวทีประกาศรางวัลวิดีโอมิวสิก อวอร์ดส์ คนที่ถูกเป็ปซีปลด และถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยวาติกัน เมื่อจูบพระผิวดำ และเต้นรำหน้าไม้กางเขนที่ถูกเผาในมิวสิกวิดีโอเพลง “Like A Prayer” ผู้หญิงคนนี้แหละ ที่วิดีโอเพลงสุดล่อแหลมของเธอ “Justify My Love” ถูกแบนทางเอ็มทีวี ซึ่งทุกอย่างเหมือนกับเป็นของเล่น ก่อนหน้าที่เธอจะลงลึกไปสู่ความแปดเปื้อนยิ่งกว่านั้นในหนังสือ Sex

หนังสือเป็นขบวนการผจญภัยทางกามารมณ์ โดยนายหญิงของพวกเรา ดิตา พาร์โล (ชื่อของนักแสดงหญิงชาวเยอรมัน ในยุค 1930s) ซึ่งเป็นอีกร่างหนึ่งของมาดอนนาที่สวมใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น ภายในทุกหน้าของหนังสือที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อน ดิตาจะเล่าเรื่องราวความเพ้อฝันทางเพศที่แสนกระตุ้นความรู้สึก ที่เสริมด้วยงานด้านภาพที่มีขอบเขตตั้งแต่เรือนร่างที่เปลือยเปล่า โจ่งแจ้ง ไปถึงภาพของการเล่นรักแบบซาดิสม์และมาโซคิสม์ นอกจากแฟนหนุ่ม วานิลลา ไอซ์, นักแสดงอิซาเบลลา รอสเซลลินี จะมาร่วมสนุกกับนักร้องสาวด้วยเรือนร่างไร้สิ่งปกปิดในสระน้ำ นางแบบสาวนาโอมิ แคมป์เบลล์ และแร็ปเปอร์ บิก แดดดี เคน ก็จะปรากฏตัวในท่วงท่ารักใคร่ที่ไร้อาภรณ์เช่นกัน

หนังสือถูกใส่มาอย่างมิดชิดในถุงที่ทำจากวัสดุพิเศษ เพื่อปกปิดเนื้อหาอันน่าตื่นตะลึงจากสายตาของพวกอยากรู้อยากเห็น ซึ่งเป็นแพ็กเกจที่เลียนแบบซองใส่ถุงยางอนามัย นักวิจารณ์ต่างตำหนิมาดอนนาว่าเธอทำเกินไปในการหวังสร้างความตกตะลึง และบางคนก็บอกว่า สิ่งที่อยู่ในเล่มเป็นเหมือนเรื่องเล่นสนุกของเด็ก ๆ มากกว่าจะปฏิวัติอะไรได้

“ฉันไม่ได้มีปัญหาทางอารมณ์ในแบบเดียวกับที่คนอื่นมี และนั่นก็ทำให้ฉันพยายามทำหนังสือเล่มนี้ออกมา” มาดอนนาพูดปกป้องงานของตัวเองกับวานิตี แฟร์ “ฉันไม่คิดว่าเรื่องทางเพศเป็นอะไรที่แย่ ฉันไม่คิดว่าการเปลือยเป็นสิ่งเลวร้าย ฉันไม่คิดว่าการสัมผัสกับเรื่องเพศ และการพูดเกี่ยวกับมัน ถึงเรื่องทางเพศของคนนั้น ของคนนี้ เป็นเรื่องแย่ ฉันคิดว่าปัญหาคือ ทุกคนโคตรเครียดเวลาพูดถึงเรื่องนี้ ซึ่งพวกเขาทำให้มันกลายเป็นสิ่งที่แย่ ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่ และถ้าคนสามารถพูดถึงมันได้อย่างอิสระเต็มที่ เราก็จะมีคนมาสอนเรื่องเกี่ยวทางเพศที่ปลอดภัยมากขึ้น เราคงไม่มีคนคุกคามทางเพศกันและกัน เพราะพวกเขาจะไม่รู้สึกวิตก เวลาพูดออกมาว่าพวกเขาต้องการอะไร พวกเขารู้สึกอะไร”

‘Erotica’ อัลบัมล่าสุดของมาดอนนา (ในตอนนั้น) ก็ถูกใช้เป็นเครื่องเคียงคู่กับหนังสือ Sex โดยคุณหญิงดิตาเป็นคนกล่าวเปิดไทเทิลแทร็ค ด้วยคำสัญญาว่าจะ “ทำให้คุณตกอยู่ในภวังค์” มิวสิกวิดีโอของซิงเกิลชื่อเดียวกับอัลบัม ที่พาย้อนกลับไปสู่การถ่ายภาพเปลือยของหนังสือ ซึ่งมาดอนนาเปลือยท่อนบนนั่งตักของชายหนุ่ม และพาเรือนร่างที่ไม่มีอะไรปกปิดเดินทางไปบนอานมอเตอร์ไซค์ ถูกแบนทางเอ็มทีวี แต่ก็เป็นเหมือนที่เคยเป็นมา การสร้างประเด็นถกเถียงคือของโปรดของมาดอนนา อัลบัมไปได้ไกลที่สุดที่อันดับ 2 และ Sex กลายเป็นหนังสือภาพราคาแพง เล่มโต ที่ขายได้เร็วที่สุดตลอดกาล ด้วยยอด 1.5 ล้านเล่มทั่วโลก

1997: เพลง “Candle In The Wind ’97” ของเอลทัน จอห์น ถูกประกาศโดยหนังสือสถิติโลกกินเนสส์ว่า เป็นซิงเกิลที่ขายดีที่สุดในโลกตลอดกาล ด้วยยอดขาย 31.8 ล้านก็อปปีในเวลาไม่ถึง 40 วัน

เพลงนี้ถูกเล่นในพิธีศพของไดอะนา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 1997 และทำเงินให้กับองค์กรการกุศลได้ถึง 32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 20 ล้านปอนด์

 

2006: แซนดี เวสต์ นักร้อง, นักแต่งเพลง, มือกลองและสมาชิกผู้ก่อตั้งวงดนตรีหญิงล้วน The Runaways ร่วมกับโจน เจ็ตต์ เสียชีวิตในวัย 47 ปี ด้วยโรคมะเร็งปอด

เวสต์ได้รับการยกย่องจากแฟน ๆ และนักวิจารณ์ว่า เป็นหนึ่งในมือกลองที่มีความสร้างสรรค์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ดนตรีร็อค

2016: เลินเนิร์ด โคเฮน ออกอัลบัมชุดสุดท้าย ‘You Want It Darker’ 17 วันก่อนหน้าที่จะเสียชีวิต ด้วยวัย 82 ปี

สุขภาพของโคเฮนย่ำแย่อย่างหนักขณะที่ทำอัลบัมชุดนี้ และไม่เคยไปที่สตูดิโอบันทึกเสียงเลย เขาให้อดัม ลูกชายเป็นคนจัดการเรื่องการทำงาน และผสมผสานแทร็คต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

เพลงที่เป็นชื่อชุด ได้รับรางวัลแกรมมี ในสาขา การแสดงดนตรีร็อคยอดเยี่ยม ในเดือนมกราคม 2018

ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.