เป็นอีกวันที่เป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ ทั้งของตัวศิลปินเอง และวงการเพลง ที่เกี่ยวพันกับสองศิลปินระดับตำนาน เช่นเดียวกับเป็นวันเกิดของคนสำคัญในวงการเพลง
วันนี้ในโลกดนตรี 25 กรกฎาคม 1958: วันเกิดของเธิร์สตัน มัวร์ นักดนตรีชาวอเมริกันที่ทำงานร่วมกับวง Sonic Youth โดยเขากับวงมีอัลบัม ‘Goo’ ในปี 1990 ที่มีเพลง อย่าง “Kool Thing” เป็นเพลงดัง
นอกจากนี้ในช่วงต้นยุค 1990s มัวร์ยังฟอร์มวงดนตรี ทำงานนอกเหนือจากโซนิค ยูธ Dim Stars ร่วมกับริชาร์ด เฮลล์
โดยในการจัดอันดับ 100 มือกีตาร์ยอดเยี่ยมตลอดกาล ของนิตยสารโรลลิง สโตนในปี 2004 มัวร์รั้งอันดับ 4 ในการจัดอันดับ
วันนี้ในโลกดนตรี 25 กรกฎาคม 1965: บ็อบ ดีแลน เสียบปลั้กเป็นครั้งแรก ในงานเทศกาลดนตรีเดอะ นิวพอร์ต โฟล์ก ดีแลนแสดงโดยใช้เครื่องดนตรีไฟฟ้าเป็นครั้งแรก ซึ่งสร้างความตกอกตกใจให้กับแฟนเพลงโฟล์กทั่วทุกหนทุกแห่ง
การแสดงของดีแลนในงานนี้ ซึ่งจัดขึ้นที่นิวพอร์ต, โรด ไอส์แลนด์ เมื่อปี 1963 และ 1964 ทำให้เขากลายเป็นศิลปินโปรดของคอเพลงโฟล์ก และการกลับมาในครั้งนี้ ดีแลนก็ได้ขึ้นเล่นเป็นศิลปินหลักของงาน
แฟน ๆ พากันคาดหวังว่าจะได้ยินดีแลนร้องและเล่นกีตาร์อะคูสติกเหมือนเช่นเคย ในเพลงอย่าง “Mr. Tambourine Man” และ “Blowin’ In The Wind” แต่แล้วพวกเขาก็รู้สึกว่า ตัวเองน่าจะได้เจอกับบางอย่างที่แตกต่างไปจากเดิม เมื่อดีแลนเดินขึ้นเวทีด้วยการใส่ยีนส์สีดำ, รองเท้าบูตสีดำ และแจ็กเก็ตหนังสีดำ และความสงสัยของแฟน ๆ ก็ถูกทำให้กระจ่างแจ้ง เมื่อดีแลนเสียบ “ปลั้ก” เจ้ากีตาร์ เฟนเดอร์ สแตรโตคาสเตอร์ สีพระอาทิตย์เจิดจ้าสามโทนสี
วงดนตรีที่เล่นแบ็คอัปให้กับดีแลนในวันนั้นคือ the Paul Butterfield Blues Band ดีแลนเผยบนเวทีว่า “ผมคงไม่ทำงานในฟาร์มของแม็กกีอีกต่อไปแล้ว” แล้วก็เล่นเพลงด้วยเครื่องดนตรีไฟฟ้า ออกมาเป็นงานร็อคหนัก ๆ และบลูส์ รวม 16 นาที โดยเริ่มจาก “Maggie’s Farm” แล้วก็ตามด้วย “Like a Rolling Stone”, “Phantom Engineer” และ “It Takes a Lot to Laugh, It Takes a Train to Cry”
มีบางคนบอกว่า ในกลุ่มของผู้ชมมีการส่งเสียงโห่ขณะที่ดีแลนเล่นด้วย แต่ความจริงที่เกิดขึ้นก็คือ วงเล่นเสียงดังมาก ทำให้ปฏิกริยาของแฟน ๆ ไม่ชัดเจนว่าเป็นอย่างที่บอกต่อ ๆ กันมาหรือเปล่า จอห์น ฮอลล์ ที่ต่อมาเป็นคนตั้งวง Orleans และได้ทำงานในรัฐสภาก็อยู่ที่นั่นด้วย เขาเล่าว่า “บางที เพื่อน ๆ ที่นั่งแถวหน้า, พวกที่ตั้งตนเป็นผู้สถาปนาดนตรีโฟล์ก และนักข่าวสายดนตรี อาจจะผิดหวัง แต่กับผู้ชมในที่นั่งราคาถูก ที่อยู่แถวหลัง ๆ พวกเราลุกขึ้นยืนและสนุกกับมันมาก”
ขณะที่บางแหล่งก็บอกว่า ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า สาเหตุที่ผู้ชมแสดงอาการต่อต้านออกมานั้น เป็นเพราะโกรธที่ดีแลนละทิ้งการทำงานโฟล์ก หรือว่าเพราะคุณภาพของเสียงที่แย่มาก ๆ ในคืนนั้น หรือบางทีอาจจะรวมกันทั้งสองอย่าง
แต่ที่แน่ๆ ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า ปฏิกริยาต่อสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นแข็งแรงมาก บางคนถึงกับโกรธและมองว่าเป็นการทรยศความบริสุทธิ์ของดนตรีโฟล์ก พีต ซีเกอร์ถึงกับควานหาขวานอย่างบ้าคลั่ง เพื่อที่จะตัดสายไฟขณะที่การแสดงของดีแลนมาถึงกลางทาง และในอีกหลายปีต่อมา ซีเกอร์บอกว่า เขาคิดว่าเสียงมันฟังผิดเพี้ยนเกินไป
วันนี้ในโลกดนตรี 25 กรกฎาคม 1980: AC/DC ออกอัลบัม ‘Back In Black’ อัลบัมชุดแรกของวงที่ไม่มีนักร้องนำบอน สก็อตต์ ที่เสียชีวิตไปเมื่อ 5 เดือนก่อนหน้า
งานชุดนี้คืองานที่เป็นการสดุดีสก็อตต์ เปิดอัลบัมด้วย “Hell’s Bells” ที่มีเสียงของระฆังหนัก 1 ตัน ที่พวกเขาสั่งทำจากโรงหล่อในอังกฤษ และนำไปออกทัวร์ด้วยเพื่อใช้เล่นเพลงนี้
หลังจากสก็อตต์จากไป ทางวงไม่แน่ใจว่าจะเดินหน้ากันต่อดีไหม แต่แล้วในงานศพ พ่อของสก็อตต์ก็ยืนยันว่า พวกเขาต้องไปต่อ และนักร้องนำคนใหม่ก็คือคนที่สก็อตต์ชื่นชม ไบรอัน จอห์นสัน จากวงท้องถิ่นในอังกฤษ Geordie และงานแรกของเขาก็คือ เขียนเนื้อร้องเพื่อให้เข้ากับเพลงที่ทางวงกำลังทำงานกันอยู่
แล้วจอห์นสันก็ทำได้ในความเป็นเอซี/ดีซี เมื่อเขาให้เกียรติกับสก็อตต์โดยไม่ใช่ในเรื่องอารมณ์ แต่เป็นการเขียนเนื้อร้องเกี่ยวกับเรื่อง เซ็กซ์, การดื่ม (สก็อตต์เสียชีวิตหลังดื่มสุรามาทั้งคืน) และที่สำคัญที่สุด เป็นงานร็อคแอนด์โรลล์
เพลงที่เป็นหัวใจสำคัญก็คือ เพลงที่เป็นชื่ออัลบัม ซึ่งจอห์นสันถ่ายทอดความเป็นสก็อตต์จนกลบเสียงริฟฟ์มหากาฬของแองกัส ยัง ลืมรถแห่ศพไปได้เลย เพราะ “เขาไม่มีวันตาย” ขณะที่ปกอัลบัมสีดำสนิทก็คือการสดุดีเช่นกัน
อัลบัมบันทึกเสียงกันที่บาฮามาส์ กับโปรดิวเซอร์ มัตต์ แลงจ์ ที่ทำงานกับพวกเขามาตั้งแต่อัลบัมชุดก่อนหน้า ‘Highway To Hell’
‘Back In Black’ กลายเป็นหนึ่งในอัลบัมขายดีตลอดกาล โดยยอดขายอัลบัมทั่วโลกประมาณกันว่าเป็นรองแค่อัลบัม ‘Thriller’ ของไมเคิล แจ็คสัน ที่สำคัญเป็นงานที่ทำได้โดยปราศจากเพลงบัลลาดหรืองานที่ประนีประนอมกับตลาด
แฟนเพลงของเอซี/ดีซี อ้าแขนรับจอห์นสันอย่างเต็มใจ และแฟนเพลงของพวกเขาก็เติบโตมากขึ้นในยุคของเอ็มทีวี และหลังจากนั้น ส่งให้พวกเขากลายเป็นศิลปินตัวท็อปของวงการเพลงร็อค
ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่