1945: วันเกิดของคาร์ลี ไซมอน นักร้อง – นักแต่งเพลง ชาวอเมริกัน เจ้าของเพลงฮิตอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกาและอันดับ 3 ในอังกฤษ เมื่อปี 1973 “You’re So Vain”
ไซมอนยังมีเพลงฮิตอันดับ 5 ในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1974 จากเพลงที่ร้องกับเจมส์ เทย์เลอร์ “Mockingbird”
ในปี 2015 หลังจากเก็บเงียบมานานกว่า 4 ทศวรรษ ไซมอนก็ออกมายอมรับว่า “You’re So Vain” เป็นเพลงที่เธอแต่งเกี่ยวกับนักแสดง วอร์เรน บีตตี แต่เป็นเพียงแค่ท่อนเดียวเท่านั้น โดยท่อนอื่น ๆ ของเพลงนี้จะพูดถึงผู้ชายอีก 2 คน
1969: The Hollies บันทึกเสียงเพลง “He Ain’t Heavy, He’s My Brother” เพลงบัลลาดที่แต่งโดยบ็อบบี สก็อตต์และบ็อบ รัสเซลล์ ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งทั้งคู่ได้เจอกันจริง ๆ เพียงแค่สามครั้งเท่านั้น แต่สามารถร่วมกันแต่งเพลงนี้ได้
ในเพลงนี้คนที่เล่นเปียโนก็คือ เอลทัน จอห์น ถูกนำมาปล่อยเป็นซิงเกิลอีกหนตอนปลายปี 1988 ในอังกฤษ หลังจากถูกนำไปใช้ในโฆษณาเบียร์มิลเลอร์ ไลต์ ทางโทรทัศน์ และขึ้นไปถึงอันดับ 1
1988: เด็บบี กิบสัน กลายเป็นเจ้าของเพลงอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกาจากเพลง “Foolish Beat” ทำให้เธอซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 17 ปี กลายเป็นศิลปินหญิงเดี่ยวอายุน้อยที่สุด ที่เขียน, โปรดิวซ์ และบันทึกเสียงเพลงอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา
สำหรับเพลงนี้ขึ้นไปถึงอันดับ 9 ในอังกฤษ
2009: ไมเคิล แจ็คสันเสียชีวิตด้วยอายุ 50 ปีหลังเกิดอาการหัวใจล้มเหลว ที่บ้านซึ่งเขาเช่าไว้ในเบฟเวอร์ลี ฮิลล์ส, แคลิฟอร์เนีย ข่าวการเสียชีวิตของแจ็คสันแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปตามโซเชียล มีเดีย โดยเขาได้รับการสดุดีในหลากหลายรูปแบบไปอีกหลายสัปดาห์ต่อจากนี้
แจ็คสันเป็นลูกคนที่ 8 ในครอบครัวแจ็คสัน และเปิดตัวในฐานะศิลปินร่วมกับพี่ ๆ ในฐานะสมาชิกวง The Jackson 5 เมื่อปี 1964 แจ็คสันได้รับเครดิตอย่างมากในการเปลี่ยนมิวสิกวิดีโอให้กลายเป็นงานศิลปะในอีกรูปแบบหนึ่ง รวมไปถึงเป็นเครื่องมือในการโพรโมต อัลบัมเดี่ยวของเขาสี่ชุด Off the Wall (1979), Bad (1987), Dangerous (1991) และ HIStory (1995) เป็นหนึ่งในอัลบัมขายดีของวงการเพลง ขณะที่อัลบัมเดี่ยวในปี 1982 Thriller คืออัลบัมขายดีที่สุดตลอดกาลด้วยยอดขายมากกว่า 50 ล้านก็อปปี
ร่างของแจ็คสันถูกพบว่าหมดสติและไร้การตอบสนองใด ๆ บนเตียง โดยนายแพทย์ส่วนตัว ดร. คอนราด เมอร์เรย์ ที่พยายามกระตุ้นการทำงานของร่างกายแจ็คสันขึ้นมาอีกครั้งแต่ไม่ได้ผล ทีมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เดินทางมาถึงเดอะ โฮล์มบี ฮิลล์สอย่างรวดเร็ว หลังจากเมอร์เรย์โทรแจ้ง 911 และพยายามกู้ชีพตลอดการเดินทางนำร่างของแจ็คสันไปที่ศูนย์พยาบาล โรนัลด์ เรแกน ยูซีแอล และเขาก็ได้รับการประกาศว่าเสียชีวิตที่นี่
ข่าวคราวการเสียชีวิตของแจ็คสันส่งผลกระทบต่อการให้บริการอินเทอร์เน็ตอย่างรุนแรง เว็บไซต์หลายแห่งทำงานช้าลงหรือล่มเมื่อมีคนจำนวนมากพยายามค้นหาข้อมูลของราชาเพลงพ็อปรายนี้ เว็บไซต์วิกิพีเดียรายงานว่า ในเวลาแค่ 1 ชั่วโมงมีคนเข้ามาค้นประวัติของแจ็คสันถึงเกือบล้านคน เว็บไซต์ของทีเอ็มซีและเดอะ ลอสแอนเจลีสไทม์สล่ม ส่วนบริการสนทนาเอโอแอล อินสแตนต์ เมสเซนเจอร์ หน้าจอดับไปถึง 40 นาที ระหว่างนั้น 15% ของโพสต์บนทวิตเตอร์ หรือราว ๆ 5,000 ทวีตต่อนาที เป็นเรื่องของแจ็คสัน
คำถามที่อยู่ในใจของทุกคนก็คือ เกิดอะไรขึ้น? เจ้าหน้าที่ขันสูตรศพของท้องที่ลอส แอนเจลีสพบว่า มีปริมาณยาที่ใช้กับอาการซึมเศร้าสูงมากในร่างกายของแจ็คสัน รวมถึงยาในกลุ่มของยาระงับความรู้สึก ซึ่งทำให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทางกฎหมายได้มีการดำเนินการสืบสวนดร.เมอร์เรย์ ผู้ที่ให้คำปรึกษาและอนุมัติใช้ยาก่อนหน้าที่ราชาเพลงพ็อปจะเสียชีวิต และเขาก็ถูกตัดสินว่ามีความผิดข้อหาทำให้มีผู้เสียชีวิตโดยไม่เจตนาในปี 2010
สองเดือนหลังการเสียชีวิตของไมเคิล แจ็คสัน สารคดีเรื่อง Michael Jackson’s This Is It ก็ออกฉาย พร้อม ๆ กับอัลบัมรวมเพลงชื่อเดียวกัน โดยก่อนจะจากไปแจ็คสันมีแผนที่จะเดินสายทัวร์ที่เป็นการกลับมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการผลักดันตัวเองให้ทำงานหนักมากขึ้น และจำเป็นต้องพึ่งยาต่าง ๆ เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด ตลอดจนจัดการกับอาการนอนไม่หลับจนติดเป็นนิสัย ซึ่งมีรายงานว่า เขาเคยใช้ชีวิตถึง 60 วันโดยไม่ได้นอนหลับอย่างจริง ๆ จัง ๆ หนังสารคดีเรื่องนี้แสดงให้เห็นการซ้อม การเตรียมงานของแจ็คสัน และกลายเป็นหนังคอนเสิร์ตที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาล และทำให้นักร้องผู้จากไปแล้วประสบความสำเร็จมหาศาลไปอีกปี เมื่ออัลบัมขายได้ถึงกว่า 35 ล้านก็อปปีทั่วโลก และทุบสถิติยอดขายดาวน์โหลด เมื่อใช้เวลาเพียงสัปดาห์เดียวในการขายไปถึง 1 ล้านชุด นอกจากนี้อัลบัมของเขาถึงสามชุดสามารถขายได้มากกว่างานใหม่ ๆ ที่ออกมาในช่วงเวลานั้น ขณะที่อัลบัมใหม่ชุดแรกของแจ็คสันที่ปล่อยออกมาหลังการเสียชีวิตของเขา Michael สามารถทำยอดขายติดท็อปเท็นทั่วโลก
ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่