วงฟู ไฟเตอร์ส ของเดฟ กรอห์ล อายุครบ 20 ปีแล้ว หากมองย้อนกลับไป ถือว่าเวลาผันผ่านไปเร็วเหมือนกัน กับชีวิตหลังจาก Nirvana ของมือกลอง ที่กลายมาเป็นมือกีตาร์ในวันนี้
และเมื่อปี 2013 สองปีก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ consequenceofsound.net ได้ให้ทีมงานเลือกเพลงของฟู ไฟเตอร์สที่คิดว่าดีที่สุดขึ้นมา และนี่คือผลลัพธ์จากการเลือกสรรในครั้งนั้น
สามารถกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่
WHITE LIMO: มิวสิค วิดีโอเพลงนี้ได้เล็มมีจาก Moorhead มาเล่น และถ่ายทำให้เหมือนเป็นภาพจากวิดีโอเทปวีเอชเอส แต่ตัวเพลง บางทีอาจจะเป็นเพลงที่ดิบที่สุดของพวกเขา เมื่อดูจากเนื้อร้องที่ยากจะฟังรู้เรื่อง เสียงร้องแหลมบาดหู คอรัสแผดเสียงดังลั่น รู้สึกเหมือนกับเครื่องยนต์ที่รอบหมุนเร็ว เร่งความเร็วเพิ่มขึ้นตลอดทั้งเพลง เสียงกลองของฮอว์กินส์กระหน่ำตีรับกับเสียงกีตาร์ของกรอห์ล/ชิฟเล็ทท์ และสเมียร์ที่สาดเข้ามา แล้วก็เปลี่ยนทิศทางของเพลงเข้าไปในเส้นทางแบบงานของวง Iron Maiden แบบฉับพลัน
RAZOR: เพลงจากอัลบั้มคู่ชุด In Your Honor เมื่อปี 2005 ที่แสดงให้เห็นว่า เดอะ ฟูส์ก็ทำเพลงช้าๆ แต่ว่าหนักแน่น มั่นคงกับเขาได้ และแฟนเพลงก็รักมากพอๆ กับที่รักในเพลงมันส์ๆ ของพวกเขาเช่นกัน Razor คือเพลงปิดอัลบั้ม ที่โดดเด่นด้วยการเป็นหนึ่งในเพลงของพวกเขาที่เล่นกันแบบไม่เสียบปลั้ก เป็นเพลงนิ่งๆ ฟังดูครุ่นคิด ที่ระดับเสียงและจังหวะของเพลง ไม่ต่างไปจากเพลงหนักๆ ของวง แต่กับกีตาร์ที่นุ่มนวล นี่คือเพลงที่หม่นทุกข์ หรือไม่ก็พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว หรืออาจจะเป็นทั้งสองอย่าง แต่ที่แน่ๆ นี่คือเพลงที่ฟังนิ่งสงบ โดยมีเสียงของกีตาร์พาความคิดล่องลอยไปถึงดินแดนที่ถูกซ่อนไว้ในฤดูหนาว ก่อนที่จะปลุกให้ตื่นขึ้นในตอนท้าย เหมือนเมื่อคราวฤดูใบไม้ผลิมาเยือน
THE PRETENDER: เพลงแรกและเป็นเพลงที่ดีที่สุดในอัลบั้ม Echoes, Silence, Patience & Grace ที่มีทั้งโครงสร้างของงานและเสียงไวโอลิน จากงานชุดก่อนๆ ของวง ผสมผสานกับเนื้องานจากเพลงในอัลบั้ม In Your Honor กลายเป็นหนึ่งเดียวเพลงนี้ ถึงเสียงร้องที่ดุดันของกรอห์ล จะพร่ำร้องเนื้อหาที่ว่าด้วยการตั้งคำถามกับพวกผู้มีอำนาจ และตอกกลับสารพัดเรื่องผลประโยชน์ต่างตอบแทนกัน แต่พวกเขายังคงไม่วางตัวห่างเหินจากคนฟัง โดยที่ข้อความน่าคิดในเพลง ที่สื่อสารกับแฟนเพลง ก็ไม่ได้หล่นหายไปกับท่วงทำนองและดนตรี เพราะท่อนฮุคที่กรอห์ลเขียน เป็นยิ่งกว่าท่อนฮุคของบรรดาร็อคสตาร์ทั้งหลายในยุคนี้
STACKED ACTORS: กับคนที่เกลียดลอส แองเจลีส เมืองที่ว่ากันว่าเต็มไปด้วยคนที่มีแต่เปลือก ผู้คนจำนวนมากแออัดยัดทะนาน และระบบการขนส่งที่ขาดความสะดวกสบาย สิ่งเหล่านี้อาจทำให้คลั่งเอาได้ง่ายๆ หากต้องมาใช้ชีวิตที่นี่นานๆ แล้วกับคนที่ต้องอยู่ที่นี่ พวกเขาจัดการกับชีวิตแบบนี้กันได้ยังไง และความรู้สึกนี้ก็ทำให้ Stacked Actors เป็นมากกว่าเพลงอีกเพลงหนึ่งของฟู ไฟเตอร์ส เมื่อกรอห์ลถ่ายทอดความอึดอัดขัดเคืองอย่าง “Line up all the bastards all I want is the truth.” ออกมาในเพลง นอกเหนือไปจากท่อนเปิดที่เปรี้ยวโคตรๆ ไม่ว่าจะฟังเพลงนี้ในอัลบั้ม There Is Nothing Left to Lose หรือบนเวทีคอนเสิร์ท ต่างก็เหมือนเป็นความทรงจำแบบกรันจ์ถึงช่วงเวลาของพวกเขาในเมืองเทพยดา ราวกับเป็นเพลงของเนอร์วานาที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะเปิดแสดงในสนามกีฬาที่นี่ ซึ่งน่าจะเป็นฝันร้ายแน่ๆ หากเป็นจริงขึ้นมา
NEW WAY HOME: ตอนที่ฟังครั้งแรก หลายๆ คนคงคิดว่าเพลงสุดท้ายในอัลบั้ม The Colour and the Shape คงเป็น Walking After You ซึ่งก็เหมือนๆ เพลงปิดอัลบั้มอัลเทอร์เนถีฟตามมาตรฐานทั่วไป แต่ทันทีที่ความดงามของเพลงค่อยๆ เงียบลงไป เสียงกลองและกีตาร์ของ New Way Home ก็แผดออกมา และเมื่อ 6 นาทีของเพลงนี้จบลง หลายๆ คนก็ตกหลุมรักในทันที กับครึ่งแรกของเพลงที่เป็นเสียงกีตาร์แบบป็อป กังวานใส เมื่อผ่านจุดพัก เสียงกระซิบกระซาบก็ก่อตัวขึ้น แล้วก็นำไปสู่จุดสุดยอดที่ดุดัน แผดกร้าว แม้ทางวงจะไม่หยิบเพลงนี้มาเล่นในคอนเสิร์ทบ่อยนัก แต่จะว่าไปแล้วนี่คือเพลงที่นิยามถึงทุกอย่างของวง การนำเสนอความสมดุลย์ที่เท่าเทียมกันของจังหวะจะโคน
(ยังมีต่อพรุ่งนี้)
จากเรื่อง 10 เพลงดีของ Foo Fighters โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ วันที่ 9 กรกฎาคม 2558
สามารถกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่