FEATURESMusic Featuresอัลบั้มคลาสสิค - Classic Album

อัลบัมคลาสสิก ‘DISINTEGRATION’ พิมพ์เขียวกอธิคร็อคของเดอะ เคียวร์

boris_williams_1989_08_19 copyช่วงปลายยุค ’80s The Cure ภายใต้การนำของโรเบิร์ต สมิธ กำลังประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากอัลบัม ‘Kiss Me, Kiss Me, Kiss Me’ ที่ส่งให้พวกเขากลายเป็นวงอารีนา ร็อก แต่แทนที่จะก้าวต่อในทิศทางนั้น สมิธกับเพื่อนๆ กลับหาจุดเปลี่ยนให้ตัวเอง ลดกระแสลง ซึ่งแทนที่ความนิยมจะน้อยกว่าเดิม อัลบัมชุดที่ 8 ของพวกเขา ‘Disintegration’ ดันเป็นงานที่ส่งพวกเขาไปถึงจุดสุดยอดของความนิยม ด้วยงานดนตรีที่มีเสน่ห์ยั่วยวนจากความหม่นมืด กับความรู้สึกเคลิ้มฝัน ที่ทำให้ลุ่มหลง ดื่มด่ำราวกับถูกมนตร์สะกด

‘Disintegration’ มีทั้งงานมหากาพย์ท้าหูคนฟัง ท้าทายการทำงานของวง อย่าง “Pictures of You” มีทั้งเพลงพอปรุ่มรวยเสน่ห์ กระชับ ลงตัว เช่น “Love Song” แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คือ บรรยากาศหม่นทึม อาจจะฟังหลอน ๆ ล่องลอย หากก็มีแรงดึดดูดบางอย่าง ทุกเพลงสร้างสรรค์มาอย่างประณีตบรรจง และล้วนฝังอยู่ในความรู้สึก

ทำให้ ‘Disintegration’ ไม่ใช่แค่ประสบความสำเร็จทางการตลาด แต่ยังเป็นจุดสุดยอดของทิศทางดนตรีที่เดอะ เคียวร์ นำเสนอมาตั้งแต่แรก เมื่อพวกเขากลับไปหาดนตรีกอธิก ร็อก ที่เริ่มไว้จากอัลบัมที่ 2 ‘Seventeen Seconds’ เมื่อปี 1980 ตอนนั้นเดอะ เคียวร์ฉายความเป็นวงกอธิก ร็อกออกมาอย่างชัดเจน ตรงข้ามกับอารมณ์ดนตรีที่มัวๆ ทึมๆ รวมไปถึงภาพลักษณ์ชวนขนลุกของสมิธ

แต่ผลงานหลังจากนั้นกลับแตกต่าง พวกเขากลายเป็นวงพอปฮิต อัลบัม ‘Kiss Me, Kiss Me, Kiss Me’ ในปี 1987 ทำให้พวกเขาเป็นวงอารีนา ร็อก ออกทัวร์ยาว ๆ จนเกิดเครียด ขนาดลอล ทอลเฮิร์สต์ มือคีย์บอร์ดส์หันไปหาเหล้า จนทำงานทำการไม่ได้

robert smithสมิธในฐานะมือกีตาร์ และนักร้องนำก็กดดันกับความสำเร็จแบบพอป ๆ ของวง ทั้งยังชิงชังกับชื่อเสียงในอีกรูปแบบหนึ่งที่พวกเขาได้รับ ทำให้พาตัวเองเข้าไปสู่โลกของยาหลอนประสาท และอิทธิพลของมันก็ส่งผลกับการทำงานของวงเต็ม ๆ เมื่อพาผลงานของวงกลับไปสู่โลกแห่งความมืดของกอธิก ร็อกอีกครั้ง

ด้วยวัยที่อีกเพียงปีเดียวจะครบ 30 ทำให้สมิธเกิดหดหู่ ด้วยความที่รู้สึกว่า บรรดางานมาสเตอร์พีซทั้งหลายนั้น จะเกิดขึ้นก่อนศิลปินจะอายุเข้าเลขสาม เขาลงมือแต่งเพลงเพียงคนเดียวโดยปราศจากความช่วยเหลือของเพื่อน ๆ ซึ่งวัตถุดิบก็มีที่มาจากเบื้องลึกในจิตใจของเขาในตอนนั้น อารมณ์ ความรู้สึกของคนอายุจะ 30

สมาชิกในวงได้รับรู้ถึงอัลบัมก็ช่วงหน้าร้อนปี 1988 เมื่อสมิธเอาเดโมไปให้ฟังที่บ้านของบอริส วิลเลียมส์ – มือกลอง พร้อมถามว่า พวกเขาโอเคกับมันไหม ถ้าไม่ ทั้งหมดจะกลายเป็นงานเดี่ยวของเขาเอง “ผมดีใจสุดๆ ที่ทำเพลงพวกนี้ด้วยตัวเอง ถ้าวงไม่คิดว่ามันได้ มันก็ดี” แต่ผิดคาด ทุกคนชอบ และก็เริ่มเล่นดนตรีตามเดโม จากนั้นก็อัดเสียงทั้ง 32 เพลงที่บ้านของวิลเลียมส์ด้วยเครื่องอัด 16 แทร็คในช่วงซัมเมอร์นี้นี่เอง

เมื่อเข้าห้องอัด วงเอือมกับทอลเฮิร์สต์ ที่กลายเป็นขี้เมาหมดสภาพ สมิธเองก็มีความไม่พอใจเกิดขึ้น โดยมีสาเหตุจากความต้องการจะทำอัลบัมที่นิยามตัวตนของเดอะ เคียวร์ และการที่อายุจะครบสามสิบ แล้วกลายเป็นความไม่พอใจบรรดาเพื่อนร่วมวง ทำให้เข้าห้องอัดโดยไม่พูดไม่จากับใคร ซึ่งเขาบอกในภายหลังว่า “ผมเกือบจะเป็นพระแล้ว ไม่พูดกับใครหน้าไหน มันอาจจะฟังเหมือนโอ้อวดนะ แต่พอมองย้อนกลับไป จริง ๆ แล้วผมอยากให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความไม่พึงพอใจ” ซึ่งเป็นบรรยากาศที่เขาทิ้งไปตอนทำ ‘Kiss Me, Kiss Me, Kiss Me’ หรือพวกเพลงพอปๆ ทั้งหลาย ความคิดเรื่องการฆ่าตัวตายแว่บเข้ามาในหัวสมิธอยู่หลายหน

ไม่นานก่อนการอัดเสียงจะเริ่มต้น เด็กวัยรุ่นในเมืองใกล้ ๆ 2 คนฆ่าตัวตาย ยิ่งไปกว่านั้นทั้งคู่เปิดอัลบัมของเดอะ เคียวร์ยุคแรก ๆ ฟังไปด้วยขณะกระทำอัตวินิบาตกรรม สมิธเอาข่าวนี้มาติดบอร์ดในห้องอัด “ผมรู้ว่ามันน่าเศร้า แต่มันก็เป็นความหดหู่ที่ดูรื่นรมย์ เพราะเห็น ๆ กันเลยว่า ไม่มีอะไรมาเล่นพวกเราได้อีกแล้ว พวกเราถูกเลือกแล้ว”

4 T กลับมาที่ทอลเฮิร์สต์ สถานการณ์ของเขาย่ำแย่หนัก ในวงไม่มีใครเอาเขา ส่วนสมิธที่ไม่ทำอะไรก็เพราะนี่คือเพื่อนเก่าที่ร่วมตั้งวงกันมา

จนในที่สุดทุกคนบอกว่าจะลาออก หากทอลเฮิร์สต์ไม่โดนไล่ออก และเขาก็ต้องไปในช่วงที่ทางวงกำลังมิกซ์เสียงงานชุดนี้ โดยสมาชิกทุกคนย้ำด้วยว่า ทอลเฮิร์สต์ ไม่มีส่วนทำอะไรในอัลบัมเลย ต่างไปจากคนอื่นๆ ที่สมิธออกมาบอกตอนหลังว่า ทุกคนในวงต่างมีส่วนร่วมในการทำงานมากกว่าครึ่งของอัลบัม

เมื่ออัลบัมเสร็จเรียบร้อย ซาวนด์ และบรรยากาศ ทำให้อีเล็กตรา เรคอร์ดส์ ต้นสังกัดของวงในอเมริกาถึงกับอึ้ง เมื่อตัวงานเต็มไปด้วยความหม่น ทึม ในแบบงานจากช่วงต้นยุค ’80s ของเดอะ เคียวร์ ผู้บริหารของอีเล็กตราขอให้สมิธเลื่อนการออกอัลบัมออกไป พร้อมกับย้ำว่า อัลบัมชุดนี้คือการฆ่าตัวตายทางธุรกิจของวง แต่สมิธไม่ยอม และเมื่อออกวางจำหน่าย ‘Disintegration’ กลายเป็นจุดสูงสุดในเรื่องธุรกิจของเดอะ เคียวร์

ในทางดนตรี ‘Disintegration’ มีลักษณะเฉพาะตัวจากการใช้ซินธิไซเซอร์ และคีย์บอร์ดส์ เสียงกีตาร์ที่เล่นเนิบช้า ให้เสียงและทางเดินคอร์ดโทนต่ำ ๆ กับเสียงร้องที่เหมือนกับการรำพึงรำพัน คร่ำครวญอยู่กับความคิดตัวเองของสมิธ โดยเพลงเปิดอัลบัม “Plainsong” คือเพลงที่วางอารมณ์ให้กับเพลงที่เหลือในอัลบัมได้อย่างลงตัว ขณะที่ “Closedown” ก็อัดเสียงคีย์บอร์ดส์มาหนาตึ๊บ ก่อนจะเติมเต็มด้วยเสียงกีตาร์ทึม ๆ ที่เนิบนาบ

ท่ามกลางความหม่นมัว มืดทึมของอัลบัม ก็ยังมี “Lovesong” ที่มาพร้อมกับความสดใส เป็นความแตกต่างในงาน และกลายเป็นเพลงฮิตในอเมริกา นี่คือเพลงที่สมิธแต่งให้กับแมรี พูล ภรรยาเป็นของขวัญในวันแต่งงาน จึงไม่น่าแปลกใจที่อารมณ์ของงาน หรือกระทั่งเนื้อเพลงจะแตกต่างไปจากเพลงอื่น ๆ สมิธเองก็รู้ถึงความจริงตรงนี้ และยอมรับว่า หากไม่มี “Lovesong” อัลบัม ‘Disintegration’ คงจะส่งผลกระทบที่แตกต่างออกไป “เพลงนี้ทำให้หลาย ๆ คนต้องกลับมาคิดอีกที ถ้าไม่มีเพลงนี้ เป็นเรื่องง่ายที่จะเมินอัลบัมชุดนี้ กับการที่มันมีอารมณ์แน่นิ่งอยู่เพียงทางเดียว แต่ถ้าจับเพลงนี้ไปให้พวกคนที่กำลังทุกข์ทนฟัง พวกเขาจะคิดขึ้นมาทันที เพลงนี้มันไม่เข้าพวกนี่”

the-cure-4eba9665cd6e1 copy ส่วน “Pictures of You” และ “Lullaby” ก็ได้รับความนิยมไม่น้อย เพลงแรกแม้จะมีจังหวะสนุก ๆ แต่เรื่องราวในเพลงก็ปวดร้าว นี่คือเพลงที่ใช้ซินธิไซเซอร์สองคอร์ด ตบไหลไปทั้งเพลง แล้วทอด้วยเสียงกีตาร์ กับไลน์เบส ร้องเนื้อหาในทางโรแมนติก ด้วยอารมณ์ปรารถนา

“Lullaby” เสียงคอร์ดของกีตาร์ริธึมจะตอกเข้ามา พร้อมกับเสียงกระซิบของสมิธ ที่แต่งเพลงนี้มาจากความทรงจำถึงเพลงกล่อม ที่พ่อเขาร้องให้ฟังยามที่เขานอนไม่หลับ

‘Disintegration’ ออกวางตลาดในเดือนพฤษภาคม 1989 และขึ้นถึงอันดับ 3 ในอังกฤษ ซึ่งเป็นอันดับสูงที่สุดที่ทางวงทำได้ ส่วนซิงเกิลแรก “Lullaby” ก็เป็นเพลงของเดอะ เคียวร์ที่ติดอันดับสูงที่สุดในบ้านเกิด และขึ้นถึงอันดับ 5 ในอเมริกา อีเล็กตราต้นสังกัดปล่อย “Fascination Street” เป็นซิงเกิลแรก แล้วก็ตามด้วย “Lullaby” จากนั้นก็ถึงเวลาของ “Lovesong” เพลงของเดอะ เคียวร์ที่ขึ้นอันดับในอเมริกาสูงที่สุด เมื่อขึ้นถึงอันดับ 2 และในปี 1990 “Pictures of You” ซิงเกิลสุดท้ายของอัลบัมก็ขึ้นถึงอันดับ 24 ในอังกฤษ ทั้ง ๆ ที่ตัวงานออกขายมาแล้วร่วม ๆ ปี

นับมาถึงวันนี้ ‘Disintegration’ ยังคงเป็นอัลบัมของเดอะ เคียวร์ที่ขายดีที่สุด ด้วยยอดกว่า 3 ล้านก็อปปีทั่วโลก ได้รับคำวิจารณ์ที่ดี และถูกยกย่องจากนิตยสารโรลลิง สโตน ให้อยู่ในอันดับที่ 326 ของ 500 Greatest Albums of All Time

ที่สำคัญที่สุด อัลบัมชุดนี้คืออัลบัมที่แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นเฉพาะตัวในเนื้องานของเดอะ เคียวร์ได้ดี และชัดเจนที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนฟัง หรือสมาชิกของวงเอง “นับตั้งแต่นั้น ผมก็รู้ว่า บรรดาบริษัทเพลงไม่รู้ห่าอะไรเลยว่า เดอะ เคียวร์ทำอะไร และมีความหมายยังไง”

Cure-DisintegrationDeluxeเมื่อปีที่แล้ว (2012) ฟิคชัน เรคอร์ดส์ ต้นสังกัดของเดอะ เคียวร์ ได้ออกอัลบัม ‘Disintegration’ แบบดีลักซ์ เอดิชันออกมา มีซีดีบรรจุถึง 3 แผ่น คือ งานต้นฉบับที่มีเพลงทั้งหมด 12 เพลง อยู่ในซีดีแผ่นแรก ซีดีแผ่นที่ 2 จะเป็นงานหาฟังยากของวง (Rarities) ที่ออกมาในช่วงปี 1988 – 1989 ซึ่งก็มีทั้งเดโมที่เป็นเวอร์ชั่นบรรเลง, งานที่อัดเสียงจากการซ้อม, งานที่เป็นการร้องไกด์ให้กับดนตรี, งานมิกซ์แบบหยาบ ๆ มีทั้งเพลงที่อยู่ในอัลบัม ‘Disintegration’ และไม่ได้อยู่รวมทั้งหมด 20 เพลง ที่หลาย ๆ เพลงก็คืองานเดโม ที่สมิธเอาไปให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกันในหน้าร้อนของปี 1988 ที่บ้านของบอริส วิลเลียมส์นั่นเอง ซึ่งทำให้เห็นถึงพัฒนาการของเพลงได้อย่างชัดเจน

ส่วนซีดีแผ่นสุดท้ายเป็นบันทึกการแสดงสดรวม 12 เพลงจากการแสดงที่เวมบลีย์ อารีนา เมื่อเดือนกรกฎาคม 1989

ทั้งสามแผ่นอยู่ในแพ็คเกจแบบดิจิแพ็ค มีบุ๊กเล็ตพิมพ์สี่สีสวยงาม บอกเล่าความเป็นมาของอัลบัม, เครดิตในการทำงาน และเนื้อร้องของเพลงต่างๆ

สมค่าความสำคัญของอัลบัม ที่ไม่ใช่เป็นเพียงหลักไมล์สำคัญของเดอะ เคียวร์ หากยังเป็นพิมพ์เขียวให้กับงานกอธิก ร็อกรุ่นใหม่ ๆ ในเวลาต่อมา

ALBUM PROFILE
the cure-disintegration-cover copyอัลบั้ม: Disintegration ศิลปิน: เดอะ เคียวร์ แนวเพลง: กอธิค ร็อค ออกจำหน่าย: 1 พฤษภาคม 1989 บันทึกเสียง: พฤศจิกายน 1988 – กุมภาพันธ์ 1989 ที่ ฮุคเอนด์ เรคอร์ดิง สตูดิโอ, เชคเคนดอน, ออหศ์ฟอร์ ไชร์, ประเทศอังกฤษ ความยาวของอัลบั้ม: 71:47 สังกัด: ฟิคชั่น โปรดิวเซอร์: เดวิด เอ็ม อัลเลน, โรเบิร์ท สมิธ ซิงเกิ้ล: 1989 – Lullaby (อันดับในอังกฤษ 5 / อันดับในอเมริกา 74), Fascination Street (- / 46), Lovesong (18/ 2), 1990 – Pictures of You (24/ 71) อันดับสูงสุดในชาร์ท: UK Chart 3 / The Billboard 200: 12

จากเรื่อง DISINTEGRATION พิมพ์เขียวกอธิคร็อคของเดอะ เคียวร์ คอลัมน์ อัลบั้มคลาสสิค โดย ลุงทอย นิตยสาร Hip

What is your reaction?

Excited
0
Happy
1
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.