เกร็ดหนัง: ความโกรธของวัล คิลเมอร์ ที่ทำให้แม็ทธิว โมดีนได้บทใน Full Metal Jacket

FULL METAL JACKET (1987) | ผู้กำกับ: สแตนลีย์ คูบริค

Full Metal Jacket เป็นหนึ่งในงานมาสเตอร์พีซของสแตนลีย์ คูบริค หนังเล่าเรื่องกลุ่มนาวิกโยธินหนุ่มในสงครามเวียตนาม ที่ต้องเจอความยากลำบากจากการฝึก การรบในพื้นที่จริงอันโหดเหี้ยม จนสภาวะจิตใจแตกร้าว นำไปสู่การสูญเสียและความทุกข์ทรมาน ผ่านสายตาของเจ.ที. “โจกเกอร์” เดวิส นักข่าวนาวิกโยธินสหรัฐ ซึ่งรับบทโดยแม็ทธิว โมดีน ที่ก่อนหน้า Full Metal Jacket มีบทดี ๆ ให้เล่นมากมาย อาทิ บทนำใน Streamers (1983) ที่เขารับบททหารหนุ่ม ซึ่งเขากับเพื่อน ๆ ต้องเจอกับความรู้สึกในเชิงอคติ ปีต่อมาก็เป็น Birdy ที่เขาสวมบทบาททหารผ่านศึกเวียตนามป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง (PTSD – post-traumatic stress disorder) แล้วก็เป็นลอเดน สเวน ในหนังดรามา โรแมนติก Vision Quest เมื่อปี 1985

แต่โมดีนก็ไม่ได้อยู่ในเรดาร์ของคูบริค โดยตัวเลือกแรกในบทโจกเกอร์ก็คือ แอนโธนี ไมเคิล ฮอลล์ นักแสดงขาประจำของผู้กำกับจอห์น ฮิวจ์ส แต่เพราะตกลงกันไม่ได้เรื่องเงื่อนไขในการทำงาน คูบริคเลยต้องมองหานักแสดงคนใหม่ ก่อนที่มาลงเอยที่โมดีน ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า ต้องให้เครดิตกับวัล คิลเมอร์

“วัล คิลเมอร์ อาจเป็นคนที่ต้องได้รับเครดิตจากการที่ผมได้บทใน Full Metal Jacket เพราะผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้เลย ซึ่งคุณต้องทดสอบบท โดยส่งวิดีโอเทปไปให้สแตนลีย์ คูบริค เพื่อทดสอบการแสดง”

เรื่องราวเริ่มต้นที่ร้านอาหารในลอส แอนเจลิส โมดีนไปกินมื้อเช้ากับเดวิด อลัน เกรียร์ นักแสดงและเพื่อนสนิทที่เล่น Streamers ด้วยกัน แล้วสังเกตเห็นวัล คิลเมอร์นั่งอยู่ที่อีกโต๊ะ ทำท่าทางน่ารังเกียจ ไม่ใช่แค่นั้น ยังพึมพำอะไรหยาบคายมาทางเขา โมดีนเลยบอกกับเกรียร์ “เดวิด ถ้านักแสดงคนนั้นไม่ได้กำลังท่องบท หรือเป็นโรคทูเร็ตต์ (Tourette – โรคความผิดปกติทางระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อกระตุก หรือเปล่งเสียงซ้ำ ๆ) เขาคงกำลังบอกฉันว่า ‘ช่างหัวมึงซิ’” เกรียร์จำคิลเมอร์ได้ และยินดีที่จะแนะนำโมดีนให้รู้จักกับเขา แต่พอปะหน้ากันเป็นเรื่องเป็นราว คิลเมอร์กลับพูดว่า “เห่ย… ฉันรู้ว่านายเป็นใคร แล้วก็เบื่อหน้านายเต็มที”

หลายปีที่ผ่านมาคิลเมอร์เคยเข้าชื่อเป็นนักแสดงในหนังที่โมดีนได้บทอยู่หลายเรื่อง และเขาก็ดันเชื่อข่าวลือที่ว่าโมดีนกำลังจะได้บทใน Full Metal Jacket “ตอนนี้นายจะได้เล่นหนังคูบริคนี่” คิลเมอร์พูดกับโมดีน โดยฝ่ายหลังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหนังที่ถูกเอ่ยชื่อขึ้นมาเลย ยกเว้นว่า ผู้กำกับรายนี้กำลังเตรียมงานสร้างหนังเรื่องหนึ่งที่วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ก็แค่นั้น เห็นได้ชัดว่า คิลเมอร์กำลังคิดเองเออเอง “คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมไม่ได้กำลังจะเล่น Full Metal Jacket” โมไดน์ตอบ

“ย้อนไปตอนนั้น เป็นยุคที่คนไม่ได้มีกล้องหรืออะไรแบบนั้น มันเป็นเทคโนโลยีใหม่ เห็นได้ชัดว่า วัลทดสอบบทหนังเรื่องนี้ โดยส่งเทปไปแล้ว เขาโกรธผม แล้วอยากอัดผม เพราะผมไม่ใช่แค่ได้บทในหนังเรื่อง Vision Quest (1985) กับ Mrs. Soffel (1984) ซึ่งเป็นหนังสองเรื่องที่บางที… เขาคงไปทดสอบบทด้วย และตอนนี้ผมกำลังจะได้เล่นหนังคูบริค เขาโมโหมากแล้วคงอยากซัดผมเต็มแก่ ผมบอกเขาว่า ผมจะไม่ขอโทษนะ แล้วถ้าอยากมีเรื่องออกไปข้างนอกกัน ผมยินดีที่จะทำแบบนั้น เพราะร่างกายอยู่ในสภาพจากหนัง Vision Quest (โมไดน์เล่นเป็นนักกีฬามวยปล้ำ) ผมน่าจะอัดเขาได้”

หลังรู้ข่าวโดยบังเอิญจากคิลเมอร์ โมดีนโทรหาตัวแทนทันที “ผมวิ่งออกไปหน้าร้าน ตอนนั้นเราอยู่ในลอส แอนเจลิส โทรหาผู้จัดการผม ถามว่ารู้อะไรเกี่ยวกับบทในหนัง Full Metal Jacket บ้างไหม ซึ่งเขาก็ไม่รู้อะไรเหมือนกัน อลัน พาร์เคอร์กำลังตัดต่อหนัง Birdy (1984) อยู่ที่ลอนดอน และ Vision Quest เป็นหนังของวอร์เนอร์ คูบริคก็ทำหนังกับวอร์เนอร์ ผมเลยบอก ‘โทรไปหาวอร์เนอร์ ให้ส่งหนัง Vision Quest กับขอให้อลัน พาร์เคอร์ส่งฟุตเทจ (ของ Birdy) ไปให้คูบริคที่ลอนดอน’ แล้วผมก็ได้บท” โดยบทหนัง Full Metal Jacket ส่งตรงมาถึงโมดีนในอีกหนึ่งเดือนต่อมา “ถ้าวัล คิลเมอร์ ไม่โกรธ แล้วท้าตีท้าต่อยผมที่ร้านอาหาร ด้วยความโกรธว่าผมได้บทใน Full Metal Jacket ผมคงไม่รู้เรื่องนี้ (การทดสอบบท)”

เพื่อให้เข้าถึงบทนักข่าวของกองทัพ แม็ทธิว โมดีนจะพกกระดาษโน้ตแล้วก็กล้อง เพื่อเขียนถึงและถ่ายภาพสิ่งต่าง ๆ ที่เขาเจอในกอง คูบริคสนับสนุนให้เขาทำแบบนี้ แล้วยังให้เขาอ่านสมุดบันทึกประจำวันของตัวเองในกองถ่ายดัง ๆ อยู่บ่อย ๆ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ก็กลายเป็นที่มาของหนังสือบันทึกความทรงจำเรื่อง “Full Metal Jacket Diary”

วินเซนต์ ดีโอโนฟรีโอ เล่าด้วยว่า การทำงานของหนังลากยาวไปชนงานแต่งงานของโมดีน จนภรรยาเขาตั้งท้อง-คลอด แล้วลูกอายุครบ 1 ปี ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นระหว่างถ่ายทำหนังเรื่องนี้

Full Metal Jacket ทำเงินไปถึง 120 ล้านเหรียญสหรัฐ และเข้าชิงอะคาเดมี อะวอร์ด สาขาบทดัดแปลงยอดเยี่ยม ซึ่งแน่นอนว่าย่อมทำให้คิลเมอร์ไม่พอใจยิ่งขึ้นไปอีก แต่อย่างน้อย ๆ ก็คงเสียใจไม่มาก เพราะเขาก็ได้บททหารในตำนาน ทอม “ไอซ์แมน” คาซานสกี ใน Top Gun (1986) ที่ประกบกับทอม ครูซ

ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์หรือกดติดตามเพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่