
กำลังรุ่งๆ มาจาก Chronicle ผู้กำกับจอช แทรงค์ เลยถูกฟ็อกซ์ดึงมาทำหนัง Fantastic Four ใหม่ โดยหวังว่าจะเป็นการรีบูทหนังชุดนี้ขึ้นมาได้ หลังทำออกมาฉายได้แค่สองภาคก็ต้องพับโปรเจ็คท์ไป
หนัง Fantastic Four ของแทรงค์ เปิดตัวฉายในวันที่ 7 สิงหาคม 2015 โดยมีการประกาศกำหนดฉายภาคสองออกมาเรียบร้อย หากอนาคตที่ดูสดใสก็พังลงไปในพริบตา เมื่อโดนนักวิจารณ์ถล่มยับอย่างเป็นเอกฉันท์ โดยเป้าหลักๆ อยู่ที่ บท, ทิศทางของหนัง, การขาดอารมณ์ขัน, โทนของหนังที่ดูทึมๆ, การไม่ยึดมั่นกับวัตถุดิบดั้งเดิม, เทคนิคพิเศษด้านภาพ, การตัดต่อที่ไม่ลื่นไหล ตัวละครหลักๆ ขาดพลังรับ-ส่งกัน, การเล่าเรื่องที่เนิบนาบ โดยมีไม่กี่อย่างที่ได้รับคำชม เช่น ความพยายามของนักแสดง และดนตรีประกอบ
คนดูเองก็ไม่อ้าแขนรับ เมื่อหนังคว่ำเละทะ ทำรายได้ทั่วโลกแค่ 168 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 155 ล้านเหรียญ โดยมีข่าวว่าฟ็อกซ์สูญเงินจากหนังเรื่องนี้ถึงกว่า 100 ล้านเหรียญ พร้อมทั้งการันตีความแย่ด้วยการได้รางวัลราสพ์เบอร์รีทองคำครั้งที่ 36 มากมายหลายรางวัล ได้แก่ ผู้กำกับห่วย, ภาคต่อ/ งานทำใหม่/ งานตอนแยก ที่แย่ที่สุด และหนังยอดแย่ร่วมกับ Fifty Shades of Grey
หลังจากนั้นก็มีรายงานข่าวออกมาว่า ไซมอน คินเบิร์ก ผู้อำนวยการสร้างที่เคยแจ้งเกิดให้กับหนังชุด X-Men ที่มาดูแล Fantastic Four ไม่แฮปปีกับผลลัพธ์สุดท้ายที่ออกมา และแย่งการควบคุมหนังมาจากแทรงค์ บีบให้แทรงค์เปลี่ยนแปลงทุกอย่างตามที่ต้องการ กระทั่งถ่ายทำใหม่ ซึ่งส่งผลกับสภาพจิตใจของเขา จนกระทั่งจิตหลุด กลายเป็นคนที่มีนิสัยชอบแยกตัวจากคนอื่น สภาพจิตใจตกต่ำ ซึ่งเหตุที่เกิดไม่ได้ส่งผลกับแค่ Fantastic Four แต่ยังทำให้แทรงค์ต้องแยกทางกับลูคัสฟิล์ม ที่เจ้าตัวตั้งใจจะทำหนัง Star Wars ให้
หลายวันก่อนหน้าหนังออกฉาย ก็มีเรื่องเกี่ยวกับคนทำงานออกมา เมื่อแทรงค์ทวีตข้อความว่า เขาภูมิใจกับหนังที่เขาทำ พร้อมเผยออกมาว่า ซึ่งไม่ใช่หนังฉบับที่เข้าโรงฉาย แล้วก็ลบทวีตทิ้งอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ทันการณ์ เพราะมันปรากฏต่อหน้าผู้คนทั้งโลกแล้ว
หลังเวลาผ่านไปสี่ปี จอช แทรงค์ที่ต้องทนเห็นหนังตัวเองได้ค่าความสดเพียงแค่ 9% บนเว็บมะเขือเน่า ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นกับหนัง Fantastic Four ที่ออกฉาย ด้วยการวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อน
“หนังมันน่าพอใจ!” แทรงค์เขียนไว้ในบทวิจารณ์หนัง Fantastic Four ที่เขาให้ดาวเพียงแค่สองดวง โดยระหว่างการถ่ายทำก็มีปัญหามากมายเกิดขึ้นกับหนัง ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทำใหม่, มีเรื่องดรามาในกองถ่ายจนควบคุมไม่ได้ แต่แทรงค์ก็พยายามจะทำหนังจบลงให้ได้ แต่ก็เจอปัญหาเรื่อง การควบคุมการสร้างสรรค์ผลงาน การยื่นมือเข้ามายุ่มย่ามของคนอื่นๆ
“ผมคาดไว้ว่ามันน่าจะแย่กว่าที่มันเป็น พูดกันตามตรงเลยนะ ผมไม่ได้ดูมัน จนสักราวๆ สองสัปดาห์ก่อนหน้าที่จะออกฉาย และผมก็…. อยู่ในสภาพโคตรทุกข์ใจสุดๆ ทำไม? น่าจะเก็บมันไว้ในเวลาอื่นไหม
“ยังไงก็ตาม หนังได้นักแสดงที่ดี ทุกคนในหนังเป็นนักแสดงชั้นเยี่ยม และโดยรวมๆ แล้วก็มีงานที่มีความเป็นหนังอยู่ ตรงไหนสักแห่ง และพวกนักแสดงก็สมควรก็สมควรอยู่ในหนังเรื่องนั้น” แทรงค์กล่าว โดยพาดพิงถึงทีมนักแสดง ที่ประกอบด้วย ไมลส์ เทลเลอร์, ไมเคิล บี. จอร์แดน, เคท มารา, เจมี เบลล์, โทบี เค็บเบลล์, เร็จ อี. คาเดย์ และ ทิม เบลค เนลสัน โดยใช้คำว่า หนังเรื่อง ‘นั้น’
“ทุกคนที่ทำงานใน Fantastic Four เห็นได้ชัดเจนเลยว่าอยากทำหนังเรื่องนี้ แต่… ท้ายที่สุด มันไม่ใช่ ผมเป็นคนทำหนังที่พวกเขาควรอยู่ในเรื่องไหม? พูดกันตรงๆ นะ ผมก็บอกไม่ได้”
แทรงค์แสดงความชื่นชมนักแสดง และย้ำว่าพวกเขาสมควรอยู่ในหนังทั้ง ‘สอง’ ฉบับ ที่สำเร็จออกมา ไม่ว่าจะเป็นฉบับของเขาหรือของพวกเขา ที่แทรงค์เรียก
แทรงค์ปิดท้ายเรื่องราวอื้อฉาวที่เกิดขึ้นด้วยการเปิดเผยถึงดรามาที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับฟ็อกซ์เข้าเต็มๆ
“สิ่งที่ผมสามารถบอกพวกคุณได้ก็คือ มีหนังสองเวอร์ชันที่แตกต่างกัน แย่งกันเป็นหนังเรื่องเดียวที่จะได้ออกฉาย” เขาย้ำ “มันมีแฮชแท็ก #releasethetrankcut ไหม? ไม่สำคัญหรอก” แทรงค์พูดพาดพิงถึงเรื่องหนัง Justice League ฉบับที่แซ็ค สไนเดอร์กำกับ กำลังถูกเรียกร้องให้ปล่อยออกมาฉาย โดยแฟนๆ และทีมงานที่เกี่ยวข้องพากันติดแฮชแท็ก #releasethesnydercut กันบนทวิตเตอร์ “ผมไม่ใช่แซ็ค สไนเดอร์ แล้วเรื่องของแซ็คก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เขาเป็นตำนาน, เป็นคนทำหนังคนสำคัญ ที่ทำอะไรต่างๆ ออกมาตั้งแต่ผมยังเรียนไฮสคูล” แทรงค์เล่า “ผมอายุ 29 ปี กำลังทำหนังเรื่องที่สองของตัวเอง แล้วก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ซับซ้อน มากกว่าผู้กำกับคนไหนก็ตามเจอตอนทำหนังเรื่องที่สองออกมา”
ท้ายที่สุด หลังจากฟ็อกซ์ถูกดิสนีย์ซื้อกิจการ Fantastic Four กลับมาอยู่ภายใต้การดูแลของมาร์เวลอีกครั้ง และพวกเขาตัดสินใจว่าจะพัฒนาหนัง Fantastic Four ขึ้นใหม่ ซึ่งแทรงค์ก็จบบทวิจารณ์ของตัวเอง ด้วยมุมมองในแง่ดี หวังว่าหนังน่าจะได้ เพย์ตัน รีด ผู้กำกับ Ant-Man เข้ามาดูแล ซึ่งเป็นสิ่งแฟนๆ ก็เฝ้าอ้อนวอนให้เกิดขึ้น ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องยุ่งยากไม่น้อย เมื่อดูจากตารางการทำงานของรีด ที่ยังง่วนอยู่กับหนัง Ant-Man 3 ที่หากเป็นรีดจริงๆ ก็น่าจะทำให้กำหนดฉายของ Fantastic Four ล่าช้าออกไปอีกหลายปี
สำหรับแทรงค์ ที่หายหน้าหายตาไปจากวงการหลังความล้มเหลวของ Fantastic Four ในที่สุดก็ปล่อยหนังเรื่องที่ว่าเอาไว้ในอดีต แล้วเดินหน้าต่อด้วยการทำหนังแก๊งสเตอร์ เรื่อง Fonzo ที่มีทอม ฮาร์ดีแสดงนำ ซึ่งหนังน่าจะออกฉายได้ในปีหน้า แต่ก็ยังไม่มีกำหนดการชัดเจนออกมา หลังถูกเลื่อนฉายไปเป็นปี 2020
คงต้องมาดูกันว่า แทรงค์จะกลับมาได้ทั้งร่างกาย และจิตใจหรือไม่ ที่สำคัญเขาจะพิสูจน์ตัวเองได้หรือเปล่าว่า ความล้มเหลวของ Fantastic Four ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องรับผิดชอบทั้งหมด และความสำเร็จของ Chronicle ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือฟลุคแต่ประการใด
หากอย่างน้อยๆ ในตอนนี้ บาดแผลที่หนัง Fantastic Four ได้รับ ก็ถูกเผยออกมาแล้วว่า ใครหรืออะไรที่ทำให้มันเป็นอย่างที่เห็น
โดย นพปฎล พลศิลป์ เรื่อง เมื่อผู้กำกับ จอช แทรงค์ วิจารณ์หนัง Fantastic Four ที่ตัวเองกำกับ คอลัมน์ หรรษา วันจันทร์ HAPPY MONDAY หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 2 ธันวาคม 2562