คุณนายโฮ [2012]: อุปทานเดี่ยวของคนเจ้าน้ำตา
โดย สกก์บงกช ขันทอง
จาก https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10151300580500904&set=a.10151147837105904.432361.650825903&type=1&theater
สำหรับคนที่คิดว่าข้าพเจ้าจะมากระหน่ำใส่เรื่องนี้ ผิดหวังหน่อยนะ…เพราะคิดผิดว่ะ
แต่สำหรับคนที่คิดว่าเราจะมาอวยหนังเรื่่องนี้ ก็บอกกันตรงนี้นะว่า มันก็ไม่ใช่
ยอมรับนะครับ ลำบากใจมากที่จะตัดสินฟันธงหนังเรื่องนี้ว่่าอยู่ในระดับไหน คือช่วงชีวิตที่ผ่านมาผมทำโปรโมทหนังให้กับพี่ยอร์ชมาโดยตลอด จนได้ค้นพบสิ่งๆหนึ่งที่อยู่กับหนังพี่ยอร์ชนั่นก็คือ
“กูไม่เคยขำกับหนังพี่ยอร์ชเลยว่ะ เวลาดูคนเดียว”
คือผมอาจจะเป็นคนขำอะไรง่ายๆนะ ดูพี่ยุทธแซวใส่น้องไบรท์ …ก็ขำ ดูพี่เอ๊าะกิรติโชว์มุกอันแสนเต็มกลืนในทูไนท์โชว์ …ก็ขำ คือคนขำง่ายอย่างผมแทบร่างหลุดจากวิญญาณเมื่อดูหนังพี่เค้าตอนต้องตัดตัวอย่าง จนหลงเข้าไปดูในโรงก็เห็นคนขำกันท้องคัดท้องแข็ง ด้วยความที่ดูก่อนหน้านี้แบบแห้งๆ ก็แทบจะสวมวิญญาณเป็นน้าค่อมอยากตะโกนลั่นโรงฯเลยว่า “พวกมึงขำเหี้ยอะไรกัน ? ป็อปคอร์นรอบนั้นผสมยาบ้าเหรอ ? รึกันตนาแอบมิกซ์เสียงหัวเราะใส่ไว้ในหนังเลยเหรอ ?”
คือก็นึกไม่ออกและหาคำตอบไม่ได้ซะทีกับมุขตลกของพี่เค้า จนพาลนึกไปถึงการอุปทานหมู่ของคน แต่ในทางกลับกัน หนังพี่เค้าไม่ได้เสียงหัวเราะซักแอะจากผม แต่กลับได้ใจเต็มๆในทฤษฎีการมองโลกของแกนะ เพราะหลายครั้งก็ยอมรับนะว่าประเด็นของแกแต่ละอัน มันโด้นน โดนนนน กับคนดูอย่างน่าเหลือเชื่อ เหมือนแกมีสเตตัสโดนใจแทบทุกเรื่องของแกนะ เพียงแต่ในทางหนัง แกสอบตกนะ คือเหมือนตำราฮาวทูที่อ่านสนุก แต่รูปเล่มมันขาดๆ เกินๆ ไปหน่อย
จนได้มาดูเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องแรกที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับหนัง (คือพูดง่ายๆก็คือ…เค้าเลิกจ้างกูแล้วจร้าาา) แต่ฉายโรงผมก็ไม่คิดจะเหลียวแลนะ คือดูจากโปรโมทก็เห็นแววความพินาศย่อยยับอยู่รำไร ดีใจแทนแอน ทองที่ไม่แสดงเรื่องนี้ และเลือกไปฉลองปีใหม่กับนมตราหมี ดีกว่ามีเครดิตไรแย่ๆ ติดตัว คือแม้ได้บัตรฟรีก็กลัวว่าจะเสียเวลาอ่ะ เรามันไม่ใช่ทาร์เก็ต ไม่ใช่ฟิลลิ่ง ขอไปขำกับพี่เอ๊าะ กิรติดีกว่า
แต่เมื่อได้ดูเรื่องนี้ทางดีวีดีผี ก็ค้นพบว่า “เฮ้ยยยยยย ชอบว่ะ” แม้จะดูด้วยจิตใจที่อคติสุดขีด ก็ไม่พบอะไรที่อี๋แหวะอย่างที่คาดการณ์เอาไว้เลย แต่กลายเป็นว่าหนังเรื่องนี้คือ 1 ใน Top 5 ของแกด้วยซ้ำ
คือมันรวมตัวละครที่เต็มเปี่ยมด้วยสีสันในแบบลุ่มลึกแบบแสบสนิท / มีชั้นเชิงและปมบางอย่างที่รอสะสางเหมือนโหดหน้าเหี่ยว / มีทฤษฎีและมุมมองอันแสนคมคายและไม่ยัดเยียดพอๆ กับ 32 ธันวาฯ และมีลูกบ้าไม่แคร์สื่อในแบบสุดเขตเสลดเป็ดพึงมี จนเรียกได้ว่านี่คืองานรวมฮิตชั้นดีของพี่ยอร์ชเลยเชียว
เรื่องเล่าของโฮ หญิงสาวที่มีเรื่องอะไรก็ร้องไห้ รวมความน่ารำคาญไว้ในคนๆ เดียว หัวโบราณ น่าเบื่อหน่าย นางมีชีวิตที่เลวร้าย ตรงที่ต้องรองรับครอบครัวที่ประสาทแดก ไม่ว่าจะเป็นพ่อที่บ้าเครื่องแบบทหาร และน้องชายที่เป็นตุ๊ดหัวโปก คือรวมความชิบหายไม่ต่างกับที่ได้เห็นในหนังของเดวิด โอ. รัสเซลล์ และนั่นแหละที่โฮต้องรับความกดดัน ไม่ต่างกับณเดชน์ต้องแบกหนังคู่กรรมไว้ทั้งเรื่อง ซึ่งพอดูแล้วก็ดีมากที่ชมพู่มารับบทแทนแอน ไม่งั้นก็คงไม่ต่างจากดูกี่เพ้าแบบไม่มีนมปนัดดาแน่ๆ ชมพู่เล่นดีจนผมกลัวใจจัง…
โอเคเข้่าเรื่องต่อ คือโฮไปตรวจร่างกายแล้วพบว่า เป็นโรคมดลูกเก่าที่ต้องรีบเผด็จศึกกับผัวเพื่อมีลูก ปัญหาของเธอคือ มีแฟนแต่ยังไม่สามารถเรียกผัว เพราะไม่เคยอะแจ๊ะอ่ะแจ๊ะกัน เพราะนางอยากเก็บซิงไว้ให้ถึงวันวิวาห์ และนั่นคือการจำต้องเสียตัวเพื่อให้มดลูกของเธอได้ทำงานก่อนต้องตัดมันทิ้ง
พล็อตมีแค่นี้แหละ คือถ้าเป็นหนังคนอื่นทำไม่ต้องให้ตัวเอกร้องไห้ก็ได้มั๊ง นางก็ไม่มีอะไรที่ต้องเสียน้ำตาขนาดนั้น น่ารำคาญว่ะ แต่โลกของพี่ยอร์ชคือโลกที่ต้องแสดงทุกอย่างให้เห็น ผ่านการแสดงออกแบบเวอร์ๆ และคำพูดโดนๆ กล้องไม่ต้องจ้าง DP ดีๆ มาก็ได้ ให้นักแสดงเหนื่อยกับการแสดงไป ไคลแมกซ์ไม่ต้องใส่ เอาแต่จับเวลาดูว่าใกล้เวลาเมื่อไหร่ ปมที่วางไว้ก็แก้ง่ายเหมือนนิทานความยาวสามบรรทัดซะ การตั้งความหวังหมดไปตั้งแต่พี่ทำซะเละกับหนังชุดสวีตตี้สองเรื่ิองนั้นแล้ว สิ่งที่เห็นจากหนังเรื่ิองนี้คือความพอดี ดีพอของพี่เค้า ที่เลือกจับจุดเล็กๆ ของคนมาเสนอ นั่นคือการจมจ่ออยู่กับอดีตของครอบครัวที่เกินจะเยียวยา เราพบเหตุการณ์สั้นๆ ตอนต้นเรื่องที่เล่าเพียงประโยคเดียวของน้าค่อม ที่เป็นพ่อถึงการจากไปของแม่และลูกสาวคนโต ไม่มีดนตรีซึ้งมาคลอให้ฉากนั้นต้องเมโล แต่มันกลับลอยวนอยู่ในหนังทั้งเรื่อง เรื่องปมของพ่อที่ทำเพื่อนตายแม้เกษียณไปแล้วแต่ก็ยังถอดอดีตออกไม่ได้ น้องชายที่เป็นตุ๊ดที่พยายามจะกลับมาเป็นแมนอย่างเต็มกลืน หนือแม้กระทั่งที่โฮร้องไห้กับรูปแม่ตัวเองว่า ทำไมถึงไม่เป็นเธอที่ควรจะตาย ทั้งหมดนี้เล่าด้วยความตลกแต่ถ้ายกมุขออก มันเศร้ามาก
โดยเฉพาะตัวละครน้าค่อม ครั้งที่สามแล้วที่ต้องมารับบทตัวละครที่จมอยู่กับอดีต ไม่ว่าจะเป็นโหดหน้าเหี่ยวที่ดื้อด้านเปิดร้านวีดีโอ ในวันที่โลกหมุนเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว พ่อที่มีปมชีวิตอันแสนเจ็บปวดในสุดเขตเสลดเป็ด และมาเรื่องนี้ที่ดูเหมือนคนบ้าที่ต้องพรางตัว เพราะนัยยะหนึ่งแกอาจจะอยากหนีความเป็นจริง และหวาดกลัวต่อสิ่งที่จะเกิดจึงทำตัวไม่ต่างกับกิ้งก่า งานนี้น้าค่อมจึงฝากผลงานที่สุดยอดจะมาสเตอร์พีชไว้อีกแล้ว ส่วนโก๊ะตี๋ก็จัดการกับหนังได้อย่างเต็มที่ เหมือนทุกๆ ครั้งที่ทำงานร่วมกับพี่ยอร์ชจนรู้สึกว่่า ต่อให้แต่งเฟอร์บี้หรือโดเรม่อนป่วยๆ แบบตอนอยู่กับสรยุทธ ถ้ามาอยู่ในหนังเรื่องนี้ผมก็เชื่อว่าฮา
และที่ต้องชมก็คือการได้เห็นอีกลุคส์ของชมพู่อารยาที่สอบผ่านกับบทตลกและทำให้คาแรคเตอร์ที่ควรจะน่าเอาที่ใส่รองเท้าลูบหน้า กลายเป็นเอามือแตะแก้มนางเบาๆ ด้วยความเอ็นดู และเซอร์ไพร้ซ์โคตรๆ ก็ต้องเร แมคฯ ที่เหมือนไปจุดธูปเรียกวิญญาณตั๊ก บริบูรณ์มาเข้าร่าง เล่นเยอะเล่นท่วมแต่โดนสุดๆ
จะเรียกว่าอุปทานรึไรก็ได้นะ แต่ถ้าคิดจะหยิบหนังเรื่องนี้ดู โปรดเข้าใจโลกและวิถีจักรวาลของพี่ยอร์ชเสียก่อน และจะพบความสนุกแบบเหลือเชื่อ และคิดว่าพี่เค้าหากินกับอาชีพนี้ได้อีกนานจร้าาาาา