ไมเคิล แจ็คสัน คว้าตำแหน่งศิลปินผู้จากไปทำรายได้มากสุดซ้ำปีที่แล้ว

คนตายใช่ว่าจะทำเงินไม่ได้ หากเป็นศิลปินดังๆ ที่รู้จักต่อยอดการทำงานของตัวเองเอาไว้ คนที่อยู่ข้างหลังก็สามารถเก็บเกี่ยวรายได้จากทรัพย์สิน มรดกต่างๆ ได้อีกยาวไกล โดยเฉพาะในเรื่องของค่าลิขสิทธิ์ต่างๆ ที่บ้านเขานั้น ดูแลกันดีกว่าบ้านเราเยอะ

และกับการจัดอันดับศิลปินปราศจากลมหายใจในปีนี้ของนิตยสารฟอร์บส์ ไมเคิล แจ็คสัน ราชาเพลงป็อปก็ยังครองแชมป์อันดับ 1 เหมือนเมื่อปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้ ไมเคิล แจ็คสันสามารถทำเงินได้มากถึง 160 ล้านเหรียญ ระหว่างเดือนตุลาคม 2012 – ตุลาคม 2013 รายได้หลักๆ นั้นมาจากการแสดง 2 ชุดของเชิร์ค ดู โซเลล์ ที่เอาเพลงของแจ็คสันไปใช้ ชุดแรกก็คือการแสดงที่เป็นการออกทัวร์ชื่อ Immortal ที่ทำเงินได้ถึง 300 ล้านเหรียญ นับตั้งแต่เปิดการแสดงครั้งแรกเมื่อปีกลาย ส่วนอีกชุดเป็นการแสดงที่ลาส เวกัสที่ชื่อ One ซึ่งจะมีโฮโลแกรมของแจ็คสันประกอบการแสดงด้วย การแสดงทั้งสองชุด ส่วนใหญ่บัตรในแต่ละรอบจะขายได้หมด และทางกองมรดกของแจ็คสันก็จะได้เงินจากเพลงทั้งของแจ็คสัน และเพลงของศิลปินอื่นๆ อีกหลายรายที่ถูกใช้ เพราะไมเคิล แจ็คสันนั้นมีหุ้นในบริษัทดูแลลิขสิทธิ์เพลง โซนี/เอทีวี ที่ทำหน้าที่ดูแลลิขสิทธิ์เพลงให้กับ เดอะ บีเทิลส์, เลดี้ กาก้า, เทย์เลอร์ สวิฟท์ เป็นต้น อยู่ครึ่งหนึ่ง

สำหรับศิลปินที่ทำเงินได้รองลงมา ก็ไม่ใช่ใครอื่น เอลวิส เพรสลีย์ ราชาเพลงร็อคแอนด์โรลล์นั่นเอง รองแชมป์รายเดิม ที่ทำเงินในปีนี้ 55 ล้านเหรียญ เท่ากับปีที่แล้ว รายได้หลักๆ มาจากอัลบั้มรวมเพลงฮิตจากยุค 50 ของเพรสลีย์ 50,000,000 Elvis Fans Can’t Be Wrong นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการเปิดคฤหาสน์เกรซแลนด์ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม รวมไปถึงขายของที่ระลึก และทางฟอร์บส์เองก็ยังยกเอลวิสให้เป็น “ภาพลักษ์ที่ได้รับความนิยมตลอดกาล” นั่นหมายความว่า ยังมีรายได้จากการขายภาพลักษณ์ของเอลวิสอีกด้วย

ในอันดับที่ 3 เป็นเจ้าเก่าเจ้าเดิม บ็อบ มาร์ลีย์ ศิลปินระดับตำนาน เจ้าของฉายา ราชาเพลงเร็กเก้ โดยในปีนี้มาร์ลีย์ทำเงินให้กับกองมรดกมากถึง 18 ล้านเหรียญมากกว่าปีที่แล้ว 1 ล้าน โดยรายได้หลักๆ มาจาก การอณุญาตให้ใช้ชื่อของมาร์ลีย์กับสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหูฟัง, กระเป๋า หรือกาแฟ

ศิลปินรายต่อมายังเป็นคนหน้าเดิม ในอันดับเดิมๆ ได้แก่ จอห์น เลนนอน กับรายได้ 12 ล้านเหรียญ ซึ่งมาจากยอดขายอัลบั้ม และการให้คณะเต้นรำเซิร์ค ดู โซเลล์ ใช้เพลงในการแสดงชุด Love! แต่อันดับ 5 ไม่ใช่จอร์จ แฮร์ริสันอย่างปีที่แล้ว แต่เป็น นักร้องเม็กซิกัน-อเมริกัน เจนนี ริเวร่า ที่ทำเงินหลังจากการเสียชีวิตเมื่อเดือนธันวาคม 2012 ได้ถึง 7 ล้านเหรียญ รายได้หลักๆ ก็คงไม่พ้น อัลบั้มที่ขายถึง 880,000 ก็อปปี้ และหนังสืออัตชีวประวัติ Unbreakable: My Story, My Way ที่วางจำหน่ายเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี่เอง แต่ขายได้มากกว่า 400,000 ก็อปปี้

เห็นศิลปินบ้านเขาทิ้งมรดกมากมายให้ลูกหลานเอาไปหารายได้แบบนี้ ก็ทำให้นึกถึงว่า บ้านเราคนทำงานเพลงจะมีโอกาสแบบนี้บ้างไหม เพราะแค่ออกปากว่าจะเรียกเก็บ ก็เกิดกระแสต่อต้านกันยกใหญ่แล้ว

จากเรื่อง ไมเคิล แจ็คสัน คว้าตำแหน่งศิลปินผู้จากไปทำเงินมากสุด โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2556