By Sadaos
นอกจากซีรีส์เรื่องเดิมที่ประสบความสำเร็จและได้สร้างต่อมาให้ได้ชมกันในปีที่ผ่านมา ปี 2015 ก็มีีซีรีส์ที่เปิดตัวใหม่อีกหลายๆ เรื่องให้ได้ชมกัน และนี่คือบรรดาซีรีส์หน้าใหม่ของปีที่แล้ว ที่ได้รับการยกย่องว่ายอดเยี่ยม
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านงานวิจารณ์หนัง และเพลง แบบนี้ ได้ด้วยการกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์กันไว้ก่อน ได้ที่นี่
UnREAL
สถานี: ไลฟ์ไทม์
ไม่น่าเชื่อว่านี่คือผลงานของสถานีที่ทำหนังย้วยๆ ให้ได้ชมกัน แต่ในปี 2015 สามารถทำซีรีส์ดีๆ ออกมาได้ ซึ่งจะพาผู้ชมไปพบกับ ราเชล โกลด์เบิร์ก (ชิริ แอปเปิลบี) โปรดิวเซอร์ของรายการเรียลิตี้คนโสด Everlasting ที่ช่วยให้สาวๆ ได้เจอรักแท้ ยกเว้นใครบางคน ซึ่งผู้ชมน่าจะเดากันได้ UnREAL เป็นการเสียดสีสิ่งที่รายการในแบบเรียลิตีโชว์เป็น ไม่ว่าจะเป็นการเทคซ้ำแล้วซ้ำเล่า หรือว่าการบังคับให้ผู้ร่วมรายการผู้ตามบทที่เขียนไว้ ไปจนถึงการสร้างเรื่องราวที่ไม่เกิดขึ้นจริง ซีรีส์ไม่ได้มีตัวละครที่น่าสนใจแค่ราเชลเพียงคนเดียว แต่ยังมีดปรดิวเซอร์ ควินน์ คิง (คอนสแตนซ์ ซิมเมอร์) รวมไปถึงบรรดาผู้ร่วมรายการทีีมีทั้งคนที่สถานีต้องการ หรือคนดูรายการอยากชม หรือทั้งสองอย่าง นี่คือซีรีส์แบบโซป โอเปรา ที่มาพร้อมกับการกระตุ้นความคิด
Grinder
สถานี: ฟ็อกซ์
ต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะรู้ว่า ซีรีส์เรื่องนี้ต้องการจะบอกเล่าอะไร เป็นงานในแบบไหน งานล้อเลียนที่ดูดี หรือเป็นส่วนผสมของเรื่องเสียดสีกับความไร้สาระ หรือว่าจะเป็นซิทคอมเหมือนซิทคอมทั่วๆ ไป กับเรื่องราวของอดีตนักแสดงที่กลับบ้านเกิด เพื่อจะเปลี่ยนชีวิตคนในครอบครัของเขาให้พลิกผัน และสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปมาของเรื่อง ก็มาพร้อมกับความสนุก มีเรื่องของการขับเคี่ยวกัน และเมื่อเรื่องเดินหน้าไปเรื่อยๆ Grinder ก็เริ่มหาตัวเองเจอ และกลายเป็นมากกว่าซิทคอมธรรมดาๆ ทั่วๆ ไป ขณะที่ร็อบ โลว์ ใช้เวลาไม่มากนักในการสร้างความน่าสนใจในตอนไพล็อต บรรดานักแสดงสมทบอย่าง แมรี เอลิซาเบธ เอลลิส, สตีฟ ลิตเติล และนาตาลี โมราเลส ก็มาช่วยเสริมพลังให้กับดูโอของหนังโลว์และเฟร็ด ซาเวจ ที่เล่นเป็นพี่น้องแซนเดอร์สัน หลายคนบอกว่าเรื่องราวแบบในซีรีส์เรื่องนี้ ยากที่คนดูจะชอบ แต่พอมาถึงตอนนี้ มันไม่ใช่แล้วล่ะ
Togetherness
สถานี: เอชบีโอ
Togetherness เป็นซีรีส์มหัศจรรย์ที่จับโน่น นี่ นั่น มารวมไว้ด้วยกัน แล้วก็เติมลงไปด้วยชัยชนะที่ยิ่งใหญ่และความล้มเหลวกระแทกใจ พี่น้องดูพลาสปั้นซีรี่ส์โดยมีตัวละครนำที่น่าพึงพอใจถึงสี่ราย ที่แรงกระตุ้นของแต่ละคนดูสมเหตุสมผล และทุกๆ เหตุการณ์ดูน่าเป็นไปได้ และทำให้ฤดูฉายแรกของ Togetherness น่าจะเป็นหนึ่งในงานที่ดีที่สุดของพี่น้องดูพลาส กับการเล่าเรื่องของพ่อ-แม่ในช่วงวัยเลขสาม, พี่น้อง และผองเพื่อนของพวกเขา ที่กระแทกใจผู้ชมด้วยคำถามที่หลายๆ คนไม่กล้าจะถาม แต่นำเสนอออกมาในมุมมองเชิงบวก ความจริงที่ปรากฏในเรื่องอาจจะช็อคคนดู แต่ก็มาพร้อมกับอ้อมกอดอันอบอุ่น ที่ทำให้รู้สึกดีไปพร้อมๆ กัน
Master of None
สถานี: เน็ทฟลิกซ์
ไม่ต่างไปจากผู้สร้างสรรค์และนักแสดงของเรื่อง Master of None เป็นงานที่มีสไตล์, ฉลาด และเฉลียว ซีรีส์เบาสมองความยาวแค่ครึ่งชั่วโมงเรื่องนี้ เป็นหนึ่งในรายการที่ทางเน็ทฟลิกซ์พยายามปั้น แม้จะมีลักษณะเป็นการทำตามกระแสที่สร้างขึ้นจากซีรีส์อย่าง Louie, Transparent, You’re the Worst และบรรดาซิทคอมยุคใหม่อีกหลายๆ เรื่อง แต่ที่ต่างไป อาซิซ แอนซารี กับอลัน ยัง สร้างสรรค์ซีรีส์เรื่องนี้ขึ้นมาโดยไม่แคร์ว่าเสียงหัวเราะจะเงียบหาย ไม่ใส่ใจว่าจะต้องใส่มุขลงไปเท่าไหร่ตามโควต้าที่ถูกสำรวจมา Master of None มาพร้อมกับเนื้อหาที่จะพาไปพบกับความเจ็บปวดท่ามกลางอารมณ์ขัน และถ้าบรรดาซีรีส์ที่มาก่อนจะบดบังรัศมีของเรื่องนี้ ก็ปล่อยไปเถอะ เพราะในที่สุดทุกคนก็จะรู้ซีรีส์เรื่องนี้สนุก และคุ้มค่ากับการชม ที่สำคัญที่สุดมาพร้อมกับการกระตุ้นความคิด
Mr. Robot
สถานี: USA
ไม่ใช่เรื่องที่ดูจำเจ เป็นคำพูดที่ได้ยินกันจนเหนื่อยสำหรับแวดวงโทรทัศน์ และถ้ามีซีรีส์ใหม่เรื่องไหน ที่แปะป้ายที่ว่าลงไปได้ ซีรีส์เรื่องนั้นก็คือเรื่องนี้ Mr. Robot เป็นหนึ่งในซีรีส์ไม่กี่เรื่องที่กลายเป็นหัวข้อในการพูดคุย นี่คือเรื่องราวของแฮคเกอร์ ที่มีอาการทางจิต ติดยา ที่กำลังหาทางเอาชนะพวกวายร้าย ที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ซึ่งมีแผนที่จะตัดระเบียบโลกใหม่ กับการรับบทนำครั้งแรก เรมี มาเล็ค ไม่เคยมีพัฒนาการที่ถดถอยเลย ยิ่งไปกว่านั้นซีรีส์ยังมีคริสเตียน สเลเตอร์ในบทที่โคตรดีที่สุดของเขาในรอบหลายๆ ปี การเล่าเรื่องก็เต็มไปด้วยความน่าติดตาม เมื่อมาพร้อมกับจุดหักมุมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งอาจจะรู้สึกคุ้นเคยมากไปหรือไม่ก็เดาทางได้ แต่ท้ายที่สุด คุณก็ต้องยอมรับให้ Mr. Robot เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของปี
Agent Carter
สถานี: เอบีซี
ตอนที่มาร์เวลมาลงจอแก้วด้วย Agents of S.H.I.E.L.D. ถ้าพวกเขาไม่ก้าวไปไกลเกินไป ก็ก้าวไปไม่พอ ขึ้นอยู่กับว่าจะมองกันมุมไหน แต่ถึงยังไงก็ต้องยอมรับว่า แม้ในจอใหญ่ชื่อของมาร์เวลจะหยั่งรากฝังลึกมานาน จากการวางแผนอย่างระมัดระวัง แต่ความพยายามลงจอเล็กของพวกเขากลับพลาดตั้งแต่ก้าวแรก ด้วยการพยายามใช้ชีวิตภายใต้เงาของ The Avengers ทำให้ Agents of S.H.I.E.L.D. ไม่มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง ซึ่งตรงข้ามกับ Agent Carter ที่ตอนแรกจะทำกันครั้งเดียวจบ แต่กลับได้ทำต่อเป็นซีซันที่สอง Agent Carter รู้ดีว่าตัวเองคืออะไร และต้องการอะไรตั้งแต่วันแรกที่ออกอากาศ เรื่องราวง่ายๆ มีตัวละครหญิงเป็นศูนย์กลาง และมีอารมณ์แบบย้อนยุค ที่สร้างขึ้นมาจากตัวละครสมทบที่คนรักมากที่สุดตัวหนึ่งของมาร์เวล เพ็กกี คาร์เตอร์ รักแท้ รักเดียวของสตีฟ โรเจอร์ส หรือกัปตัน อเมริกา สมาชิกคนสำตัญของหน่วยชีลด์ ในวันที่เพิ่งตั้งไข่
Unbreakable Kimmy Schmidt
สถานี: เน็ทฟลิกซ์
เอ็นบีซี สร้างข้อผิดพลาดหลายต่อหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ การแช่แข็งซีรีส์ของทินา เฟย์ และโรเบิร์ท คาร์ล็อค ที่สร้างตามหลัง 30 Rock และกลายเป็นการผลักไสไล่ส่งให้ไปอยู่ในมือของเน็ทฟลิกซ์ Unbreakable Kimmy Schmidt กลายเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของซีรีส์เบาสมองในปีที่ผ่านมา กระชับ ฉับไว มุขคมคาย และได้การแสดงที่ตีบทกระจายของเอลลี เคมเปอร์ ศิษย์เก่าจาก The Office ในบทคิมมีิ ชมิดท์ หญิงสาวที่พยายามปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในนิว ยอร์ค หลังรอดมาได้จากการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยเคราะห์ซ้ำกรรมซัดในอินเดียนา หนังมาพร้อมตัวละครที่เต็มไปด้วยสีสัน ตลอดการออกอากาศในปีแรก บรรดานักวิจารณ์ต่างอึ้ง เมื่อหาที่ติกับซีรีส์เรื่องนี้แทบไม่ได้ กระทั่งในตัวละครระดับรองๆ ก็ยังไม่พบ ขณะเดียวกัน Unbreakable Kimmy Schmidt ก็เป็นหนึ่งในซิทคอมที่มีความเป็นเฟมินิสท์มากที่สุดเท่าที่เคยถูกสร้างกันมา กับการที่ตัวละครหลักของเรื่อง นิยามการใช้ชีวิตด้วยตัวเอง และตามมาตรฐานของตัวเอง ทำให้การกลับมาในฤดูฉายที่ 2 ช่างน่าสนใจอย่างยิ่ง
(ยังมีต่อพรุ่งนี้)
จากเรื่อง 10 หนังทีวีใหม่ที่ได้ใจที่สุดของปี 2015 โดย นายสะเด่าส์ คอลัมน์ ดูหนังที่บ้าน นิตยสารเอนเตอร์เทนฉบับที่ 1199 ปักษ์แรกมกราคม 2559
What is your reaction?
