
แม้จะเป็นค่ายเพลงของคนผิวดำ แต่เพลงจากสังกัดโมทาวน์ เป็นงานป็อปที่ได้รับความนิยมในวงกว้าง ฟังกันได้ทุกสีผิว แต่ถ้าย้อนไปถึงตอนแบร์รี กอร์ดี ตั้งโมทาวน์ เรคอร์ดส์เมื่อปี 1959 นั้น มีไม่กี่คนหรอกที่คิดว่า สังกัดเพลงนี้จะสร้างเพลงฮิตได้มากอย่างที่เห็น และเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมดนตรีแทบทั้งหมดก็ว่าได้
กอร์ดีเอง ได้รับการยอมรับในรื่องของ “หู” ซึ่งทำให้เขาพบยอดฝีมือที่มากไปด้วยพรสวรรค์หลายต่อหลายคน ในไม่กี่เดือน เขาก็ได้นักแต่งเพลง, นักดนตรี และนักร้องฝีมือเยี่ยมของประเทศมาร่วมงาน ก่อนบริษัทจะครบรอบ 1 ปี โมทาวน์ก็มีเพลงฮิตเพลงแรก นั่นก็คือ Money (That’s What I Want) ของบาร์เร็ทท์ สตรอง และนับจากนั้นอีกหลายๆ ทศวรรษที่ผ่านมา สังกัดเล็กๆ แห่งนี้ก็มีเพลงดังๆ ในรายการวิทยุ และบนชาร์ทเพลงตรึม รวมไปถึงเป็นจุดเริ่มต้นของศิลปินระดับซูเปอร์สตาร์ตั้งแต่ ไดอานา รอสส์, ไมเคิล แจ็คสัน ไปถึงบอยซ์ทูเมน
และทางนิตยสารโรลลิง สโตน ก็ได้ให้แฟนๆ หนังสือโหวตหา 10 เพลงของโมทาวน์ ที่พวกเขาชอบมากที่สุด ซึ่งผลลัพธ์ออกมาอย่างที่เอามาเล่าสู่กันฟัง โดยทุกเพลงสามารถหาฟัง-ชมได้จาก www.youtube.com
เริ่มกันที่ Let’s Get It On ของมาร์วิน เกย์ ซึ่งความสำเร็จระดับมหาศาลของอัลบั้ม What’s Going On ในปี 1971 ที่มีเนื้อหาเกี่ยวพันกับการเมือง แสดงให้เห็นว่าเกย์ทำได้มากกว่าเพลงรัก อย่างที่ได้ยินกันในยุค 60 แต่กับงานชุดต่อมา เขาปรารถนาจะตอกย้ำงานแบบสูตรสำเร็จเพียงเล็กน้อย เมื่อเลือกทำอัลบั้มเพลงฟังค์ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางเพศแทน
เพลงที่เป็นชื่ออัลบั้ม คือซิงเกิลของเกย์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด เมื่อขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ทได้ 2 สัปดาห์ “ผมไม่เห็นว่ามีอะไรผิดในเรื่องเซ็กส์ ที่เป็นการสมยอม” เกย์ เขียนไว้ในปกอัลบั้ม “ผมคิดว่าเราพาเรื่องนี้ไปไกล เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด ผมคิดว่าอวัยวะเพศเป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญ และงดงามที่สุดในร่างกายมนุษย์”
Dancing in the Street ของมาร์ธา แอนด์ เดอะแวนเดลลาส คือเพลงต่อมา ที่ในช่วงหน้าร้อนของปี 1964 ไม่ว่าจะไปไหนก็ต้องได้ยิน ทีแรกคนส่วนใหญ่มองเพลงนี้ว่าเป็นเพลงเต้นรำฟังง่ายๆ เพลงหนึ่ง แต่พอมีการเคลื่อนไหวเรื่องความเท่าเทียมกันทางสังคม Dancing in the Street ก็กลายเป็นเพลงธีมของการเคลื่อนไหว สถานีวิทยุบางแห่งเอาเพลงนี้ออกจากสถานี
มิค แจกเกอร์กับคีธ ริชาร์ดส์ชอบเพลงนี้เป็นพิเศษ และเพลง Street Fighting Man ของพวกเขาก็คือ เสียงสะท้อนที่มีต่อเพลงนี้ ซึ่งถูกนำมาร้องใหม่อีกหลายต่อหลายครั้ง มีทั้งเวอร์ชั่นของแวน เฮเลน ไปจนถึง มิต แจกเกอร์ ที่ร้องกับเดวิด โบวี
อันดับที่ 8 เป็นเพลง Ain’t No Mountain High Enough ที่มาร์วิน เกย์ และแทมมี เทอร์เรลล์ ร้องคู่กัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะฟังเพลงฮิตจากปี 1967 เพลงนี้ โดยปราศจากความเสียใจ แม้ตัวเพลงจะมีทั้งการมองโลกในแง่ดี และความรื่นรมย์ แต่คนที่ร้อง ต่างก็เสียชีวิตอย่างน่าเศร้า ด้วยวัยยังไม่มาก เกย์ถูกยิงโดยพ่อของตัวเองตอนอายุ 44 ส่วน เทอร์เรลล์เสียชีวิตด้วยเนื้องอกในสมองตอนอายุแค่ 24
ในแง่มุมของความสุข ทั้งคู่ต่างอัดเสียงเพลงร้องคู่กันเยี่ยมๆ เอาไว้มากมายให้กับโมทาวน์ สำหรับ Ain’t No Mountain High Enough แต่งโดย คู่ชีวิตนักแต่งเพลง แอชฟอร์ด และซิมป์สัน เพลงนี้กลายเป็นเพลงฮิตระเบิด ส่วนเกย์กับเทอร์เรลล์ทำงานร่วมกันจนปัญหาสุขภาพของฝ่ายหญิงทำให้ทำงานไม่ได้
(ยังมีต่อ)
จากเรื่อง 10 เพลงขวัญใจมหาชนของโมทาวน์ โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ วันที่ 14 สิงหาคม 2556