
“เมื่อนิตยสารโรลลิง สโตน ให้ศิลปิน 50 รายมาจัดเพลย์ลิสต์ ไล่ตั้งแต่ มิก แจกเกอร์ กับเพลงบลูส์ ไปจนถึงเดรกกับจิมิ เฮนดริกซ์ ศิลปินเหล่านี้ ชอบเพลงอะไร? ของใครบ้าง? และคราวนี้เป็นคิวของ คีธ ริชาร์ดส์ มือกีตาร์อมตะของวงดนตรีตำนาน ‘The Rolling Stones’
(แปลและเรียบเรียงจากเรื่อง The Playlist Issue นิตยสารโรลลิง สโตน)
“เมื่อคุณถูกขอให้ทำรายชื่ออะไรแบบนี้ คุณไม่ต้องเลือกเพลงอะไรที่มันเห็นกันโต้ง ๆ หรอก เรารู้จักพวกงานคลาสสิกกันดีอยู่แล้ว และเราก็เห็นลิสต์อะไรแบบนั้นเป็นพัน ๆ ลิสต์ ผมพยายามคิดถึงงานที่หล่นหายไปตามรอยแยก ลิสต์นี้จะเป็นเพลงแบบผสม เป็นเพลงที่บางอย่างมีเสน่ห์กับผมจริง ๆ ผมมองดูรายชื่อแล้วก็คิด…. ‘เป็นลิสต์ที่ดีเลยนะเนี่ย ผมสามารถใช้ชีวิตอยู่กับมันได้เลย’”
1. “Stagolee” – เจสซี ฟูลเลอร์ (1958): “เพลงนี้น่าจะบอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับความรู้สึกของผมได้ มันมีส่วนผสมของดนตรีหลายอย่างมากในตัวเขา แร็กไทม์, บลูส์, โฟล์ก และคันทรี แล้วเขาก็เป็นศิลปินแบบทั้งวงมีคนเดียว”
2. “When Did You Leave Heaven” – บิก บิลล์ บรูนซี (1951): “เขาเป็นศิลปินเพลงบลูส์อเมริกัน ที่รู้จักกันดีในอังกฤษช่วงยุค ‘50s มีฟุตเตจของเขากำลังร้องเพลง ในร้านขายเหล้าที่เบลเยี่ยม หรืออะไรทำนองนั้น ลองหาดู”
3. “It Hurts Me Too” – เอลมอร์ เจมส์ (1957): ไบรอัน โจนส์ เป็นคนแนะนำให้ผมรู้จักกับเอลมอร์ เสียงของเขาจับใจมาก ๆ แล้วการเล่นสไลด์ที่ไม่ธรรมดาของเขา ก็ดูเหมือนไม่ต้องพยายามอะไรเลย สิ่งที่ทำให้เขาโดนผมก็คือ ลักษณะของเขาที่ดูเหมือนพวกครูสอนในโรงเรียน มันน่าเคารพมาก ๆ”
4. “Blues Hangover” – สลิม ฮาร์โพ (1960): “เพลงที่เป็นเหมือนความชุ่มฉ่ำ ที่ต้องเป็นเพลงนี้ ก็เพราะว่าเขามันจะพาวงดนตรีทั้งวงแฮงก์โอเวอร์ไปด้วยในเวลาเดียวกัน”
5. “Key to the Highway” – ลิตเติล วอลเทอร์ (1958): “วิธีที่วงเล่นอยู่ข้างหลังของวอลเทอร์ ทำให้เพลงนี้ฟังสนุก นี่เป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของเพลงนี้ตลอดกาล”
6. “Piece of My Heart” – เออร์มา แฟรงคลิน (1967): “เจนิส จอปลิน คัฟเวอร์เพลงนี้ได้ดี แต่เออร์มาคือเจ้าของเพลง เธอคือน้องสาวของอารีธา เสียงของเธอจะหยาบกว่า ขณะที่เสียงของอารีธาจะฟังสะอาดมากกว่า”
7. “In Dis Ya Time” – The Itals (1998): ไม่มีคำอธิบาย
8. “Innocent People Cry” – เกรกอรี ไอแซ็กส์ (1974): “ดิ อิทัลส์ เป็นเร็กเก้ที่เสียงประสานเป็นไปตามแบบแผนของดนตรีเร็กเก เป็นหมุดหมายที่บอกว่าเร็กเกควรมีซาวนด์ออกมาแบบไหน และไอแซ็กส์ก็เขียนเพลงที่แสนมหัศจรรย์ขึ้นมา ผมต้องใช้เวลาอยู่หลายเดือนในจาไมกา กว่าจะหาเพลงนี้เจอ ผมถามหาเพลง “Chookie No Lookie” ไปทั่ว แล้วทุกคนก็ทำหน้างง ๆ ส่งสายตาที่ว่างเปล่ามาให้ จากนั้นมันก็ ‘อ่อ… คุณหมายถึงเพลง ‘Innocent People Cry’” ซึ่งชื่อเพลงมันกลายเป็นแบบนั้นได้ยังไง?” (* Chookie No Lookie คือท่อนคอรัสของเพลง “Innocent People Cry”)
9. “Memphis, Tennessee” – ชัก เบอร์รี (1958): “ผมคิดว่าเขาคงเล่นได้ทุกอย่าง ยกเว้นกลองกับเปียโนตัวเล็ก ๆ วิธีที่กีตาร์มันเข้ามาผสมกัน มีบางอย่างอยู่ในนั้น ทำเอาผมต้องถอดหมวกคารวะเลย สุดยอดจริง ๆ”
10. “32-20” – โรเบิร์ต จอห์นสัน (1936): “เฮ้… มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับปืนนี่”
สนับสนุนเราได้ที่ -:> https://facebook.com/becomesupporter/Sadaos/ หรือที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วส่งสลิปการโอนมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนคำขอบคุณ
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่