FIFTY SHADES OF GREY โรแมนซ์วิปริต เซ็กส์ซาดิสม์ ความรักมาโซคิสม์

นี่คือภาพยนตร์ที่เป็นการผจญภัยในโลกโลกีย์ ที่สร้างมาจากนวนิยายขายดีในระดับที่สร้างปรากฏการณ์ Fifty Shades of Grey ที่เมื่อประกาศสร้าง คำถามที่ถูกตั้งขึ้นก็คือ หนังจะทำได้ในระดับเดียวกับหนังสือ หรือว่าเป็นอีกหนึ่งหนังที่ได้รับความสำเร็จ และคำวิจารณ์ในระดับเดียวกับ Showgirls

ทันทีที่ตัวอย่างฉบับแรกของหนังถูกปล่อยออนไลน์ ผลลัพธ์ก็กระจ่างชัดออกมาทันทีว่า ความสนใจที่มีต่อ Fifty Shades of Grey นั้น ไม่ได้จำกัดวงอยู่แค่ในกลุ่มของคนอ่านที่ทำให้นิยายเรื่องนี้กลายเป็นงานขายดีติดอันดับของนิว ยอร์ค ไทม์ส ด้วยจำนวนผู้ชมที่มากถึง 34 ล้านวิวในสัปดาห์แรก และเมื่อถึงสิ้นปี 2014 ยอดผู้ชมพุ่งไปถึง 93 ล้าน กลายเป็นทีเซอร์ที่มีผู้ชมมากที่สุดของปี 2014 มากกว่ากระทั่งทีเซอร์ของ Star Wars: Episode VII จนดูเหมือนว่าวันวาเลนไทน์จะมาถึงเร็วไม่พอ สำหรับแฟนพันธุ์แท้ของนิยาย ที่อยากจะเห็นเรื่องเซ็กส์ซาดิสม์และมาโซคิสม์ของอี.แอล. เจมส์ ขึ้นจอเต็มแก่

ตัวหนังสือนั้น เริ่มต้นชีวิตของตัวเองในโลกออนไลน์ ในฐานะนิยายของแฟนๆ (Fan Fiction) ที่เหตุการณ์เกิดขึ้นในโลกของ Twilight ภายใต้ชื่อเรื่องว่า Master of the Universe ตัวเรื่องดั้งเดิมเป็นการเอาชีวิตของเบลลา และเอ็ดเวิร์ดส์ ในซีแอตเติลมาจินตนาการใหม่ โดยตัดเรื่องราวเหนือธรรมชาติออกไปทั้งหมด แล้วนำเสนอความสัมพันธ์ที่แสนเร่าร้อนของ มหาเศรษฐีหนุ่มวัย 27 ปี คริสเตียน เกรย์ และนักศึกษาสาวที่แสนบริสุทธิ์ อานาสตาเซีย สตีล หลังจากล่อลวงและคร่าพรหมจรรย์ของเธอเรียบร้อย เขาก็เผยให้เห็นความสนใจในเพศรสที่มาพร้อมกับความรุนแรง และปรารถนาให้เธอเซ็นสัญญาที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ ด้วยการเป็นหญ้าอ่อนของเขา

ในปี 2011 ความนิยมในวงแคบๆ แบบคัลท์ขยายวงขึ้นเรื่อยๆ เจมส์ตัดสินใจเอานิยายเรื่องนี้ลงจากเว็บ แล้วให้สำนักพิมพ์เล็กๆ ในออสเตรเลียตีพิมพ์จำหน่าย ปีถัดมาสำนักพิมพ์วินเทจ คว้าสิทธิ์ตีพิมพ์มาอยู่ในมือ โดยเจมส์เพิ่มเรื่องราวภาคต่อเพิ่มอีก 2 ตอน คือ Fifty Shades of Darker และ Fifty Shades Freed โดยในช่วงที่พีคสุดๆ ของนิยายชุดนี้ ว่ากันว่านิยายชุดนี้จะถูกจำหน่าย 2 เล่มต่อวินาที แล้วก็กลายเป็นนิยายในรูปแบบของหนังสือ และในรูปแบบของคิดเดิล บุ๊ค ที่ขายได้เร็วที่สุดตลอดกาล ปีที่แล้ว ยอดขายของนิยายชุดนี้ผ่านหลักร้อยล้านเล่มไปแล้ว ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์อย่างเป็นทางการ

แน่นอนว่ามีชอบ ก็ต้องมีติ บาร์บารา เทย์เลอร์ แบรดฟอร์ด นักวิจารณ์นวนิยาย ไม่ได้รู้สึกอะไรกับพันธะแบบทาสสวาทระหว่างคริสเตียนกับอนาเลย โดยให้ความเห็นว่า “ซ้ำซาก, น่าเบื่อ” ขณะที่เพื่อนนักเขียนด้วยกัน อย่าง ซัลแมน รัชดี ถึงกับบอกว่า นิยายเรื่องนี้ “ทำให้ Twilight เป็นเหมือนเรื่อง War and Peace เลย” แน่นอนว่าเจมส์ คุณแม่ชาวอังกฤษลูกสอง อดีตโปรดิวเซอร์รายการโทรทัศน์ ไม่ใช่ตอลสตอย และประโยคอย่าง “เขาเป็นไอศกรีมแท่งรสคริสเตียน เกรย์ของฉัน” ขณะที่อนากำลังลิ้มรสความเป็นชายของเขา ก็ไม่ใช่ประโยคที่จะทำให้นิยายเรื่องนี้ กลายเป็นนิยายระดับรางวัล หากเป็นการแปะป้าย ‘เรื่องโป๊สำหรับคุณแม่’ ให้กับนิยายฝันเฟื่องคลายความเซ็งของบรรดาแม่บ้าน ในบ้านแถบชานเมืองเรื่องนี้

นอกจากนี้ Fifty Shades of Grey ยังทำให้เซ็กส์แบบวิตถารกลายเป็นเรื่องปกติสามัญ เมื่อทำให้ยอดขายของอุปกรณ์สร้างความบันเทิงทางเพศขายดิบขายดี และพาหญิงสาวอารมณ์เปลี่ยวทั้งหลาย คลิกเข้าไปในเว็บไซต์หาคู่เพิ่มมากขึ้น ความสุขทางเพศแบบซาดิสม์และมาโซคิสม์ ไม่ได้กลายเป็นเพียงของเล่นๆ อย่าง การใส่ชุดหนัง, สวมหน้ากากพิลึกๆ อีกต่อไป กระทั่งสำนักพิมพ์อย่าง มิลล์สแอนด์บูนก็ยังโดดลงมาเล่นเกมนี้ เมื่อตีพิมพ์นิยายชุด 12 Shades of Surrender ของตัวเองออกมา โดยมีชื่อตอนอย่าง ‘เคทอีหนูกุญแจมือ’ หรือ ‘ภายใต้มือของเขา’

การมาถึงของยุคสมัยที่เข้าถึงเซ็กส์แบบซาดิสม์และมาโซคิสม์ ทำได้อย่างง่ายดายเพียงคลิกกูเกิล ทำไมเรื่องโรแมนซ์ที่ผิดแปลกถึงประสบความสำเร็จได้? เห็นชัดๆ ว่า เพราะเอาเซ็กส์มาขาย แต่ก็มีอะไรที่มากกว่านั้น นั่นคือเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ชาย ที่มีอำนาจครอบครอง ซึ่งเกือบจะเป็นอะไรเชยๆ ในสังคมทุกวันนี้ แคตี รอยฟี จากนิวสวีค บอกว่า “เรามองไปที่ประเด็นเฉพาะในตอนนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงแทบจะเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว” เธอกล่าว “คุณได้เห็นอำนาจของผู้ชายถูกสั่นคลอน และถูกคุกคาม”

การนำนิยายเรื่องนี้มาขึ้นจอภาพยนตร์ เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ แม้จะมีอะไรระหว่างทางมากมาย แต่การเดินทางก็ถือว่าราบเรียบ ลื่นไหล ชาร์ลี ฮันแนม จาก Pacific Rim เป็นนักแสดงคนแรกที่ถูกเลือกมารับบทคริสเตียน เกรย์ ก่อนที่จะถอนตัวไป เนื่องจากรู้สึกกังวลใจ และคนที่ก้าวเข้ามาแทน ก็คืออดีตนายแบบ เจมส์ ดอร์แนน ที่แสดงด้านมืดในตัวออกมาให้เห็นเรียบร้อยแล้ว จากบทฆาตกรต่อเนื่องใน The Fall ซีรี่ส์ดรามาของบีบีซี เขาต้องมาเล่นประกบกับ สาววัย 25 ปี ดาโกตา จอห์นสัน ลูกสาวของดอน จอห์นสัน และเมลานี กริฟฟิธ ที่เอาชนะนักแสดงอย่าง เฟลิซิตี โจนส์ และไชลีน วูดลีย์ เพื่อมารับบทอนา

ดอร์แนนถึงกับเข้าร้านขายอุปกรณ์ทางเพศ สำหรับพวกซาดิสม์และมาโซคิสม์ เพื่อสังเกตุการณ์ และเตรียมตัวสำหรับบทนี้ “ผมรู้ว่ามันจะกลายเป็นหนังที่สร้างข้อถกเถียงขึ้นมา แต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องต่อต้านสิทธิสตรี อย่างที่หลายๆ คนตั้งข้อสงสัยหรอกนะ” เขากล่าว “เรื่องเซ็กส์ และความสัมพันธ์ระหว่างคริสเตียนกับอนา เป็นเรื่องที่ยินยอมพร้อมใจร่วมกัน” แล้วกับการที่ได้ผู้กำกับหญิง แซม เทย์เลอร์-จอห์นสัน จาก Nowhere Boy มากำกับ และมีผู้เขียนบทหญิง เคลลี มาร์เซล จาก Saving Mr. Banks เป็นผู้เขียนบท Fifty Shades of Grey ยากจะเป็นหนังต่อต้านสิทธิสตรีกันเห็นๆ

ข้อสงสัยที่มีก็คือ หนังของเทย์เลอร์-จอห์นสัน จะกลายเป็นอะไรที่จิ๊บๆ กว่าหนังหนุ่ม-สาวจีบกันไหม หรือจะกลายเป็นหนังที่นำเสนอเรื่องราวทางเพศได้ถึงๆ ภายใต้ขอบเขตของการเซนเซอร์ และทำให้เรื่องแบบนี้กลายเป็นงานกระแสหลักได้หรือไม่? อย่าลืมว่าในฉบับนิยาย Fifty Shades of Grey เริ่มต้นฮิตในแบบคัลท์ แล้วปากต่อปากก็ช่วยกระพือ และขยายวงไปกว่าเกินกว่าที่เจมส์และสำนักพิมพ์ของเธอจะคิดถึง

กับการขึ้นจอ ผู้อำนวยการสร้างและผู้เกี่ยวข้องต่างก็พยายามทำให้หนังจบที่ เรทอาร์ ทำให้ฉากเซ็กส์ซาดิสม์และมาโซคิสม์ทั้งหลาย ถูกลดดีกรีลงจากหนังสือ เพื่อเลี่ยงเรทเอ็นซี-17

บางที Fifty Shades of Grey อาจจะเป็นงานกระแสหลักเกินไป สำหรับการเอาเรื่องเซ็กส์ซาดิสม์และมาโซคิสม์ไปสู่คนจำนวนมากๆ เพราะถ้าอยากสัมผัสกับเรื่องราวทำนองนี้ หนังอเมริกันของสตีเวน ไชน์เบิร์ก Secretary ที่แม็กกี จิลเลนฮาล รับบทที่เป็นชื่อหนัง ซึ่งเป็นหญ้าอ่อนที่พยายามกระตุ้นเจ้านายที่มีอำนาจ ซึ่งรับบทโดยเจมส์ สเปเดอร์ หรือดูหนังอย่าง The Duke of Burgundy ของผู้กำกับชาวอังกฤษปีเตอร์ สตริคแลนด์ ที่ว่าด้วยเรื่องความสัมพันธ์แบบซาดิสม์และมาโซคิสม์ ของหญิงสาวสองคน น่าจะเต็มที่มากกว่า

ขณะที่หนังเรื่องหลัง นำเสนอการปฏิบัติภารกิจในที่แปลกๆ Fifty Shades of Grey จะว่าด้วยของอย่าง กุญแจมือขนสีชมพูฟูฟ่อง ซึ่งที่สุดแล้วการชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ไม่ต่างไปจากการอ่านหนังสือ “ที่ไม่ได้มีความเสี่ยง หรือมีความเป็นขบถ หรือทำให้กระวนกระวาย มากไปกว่า การไปช็อปปิงรองเท้าบูทสีดำสักคู่หนึ่ง” เช่นที่ แคตี รอยฟี ว่าเอาไว้

ไปๆ มาๆ การได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นอะไรที่คุ้นๆ เคยๆ ซึ่งจะให้รู้ได้ก็ต้องไปพิสูจน์กันในโรงภาพยนตร์

จากเรื่อง FIFTY SHADES OF GREY โรแมนซ์วิปริต เซ็กส์ซาดิสม์ ความรักมาโซคิสม์ โดย ฉัตรเกล้า จากนิตยสาร เอนเตอร์เทนฉบับที่ 1177 วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558

สามารถกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่