MALAVITA: ตามไปดูพฤติกรรมของครอบครัวมาเฟียใหญ่ต้องเข้่าโครงการพิทักษ์พยาน หลังจากเปิดโปงคนในแก็งที่เปรียบได้กับครอบครัวเดียวกัน จนหัวหน้าใหญ่ต้องเข้าไปในนอนในตะราง ซึ่งแม้จะตั้งใจกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี แต่ดูเหมือนว่าชีวิตในอดีตที่ผ่านมาของครอบครัวนี้มันจะฝังรากลงลึก จนยากจะแก้ไขและปรับตัว แถมแทนที่จะเป็นการใช้ชีวิตแบบเงียบๆ เก้บตัว พวกเขากลับกลายทำตัวอยู่ใต้สปอตไลท์อันโดดเด่นอีกต่างหาก
หนังเล่นสนุกอยู่กับมุขการตัดสินใจกับปัญหาบ้านๆ ขี้หมูรา ขี้หมาแห้ง แต่ด้วยวิธีการแบบมาเฟียอยู่พักใหญ่ ซึ่งก็เรียกเสียงหัวเราะได้ แต่กับการใช้เวลาในส่วนนี้จนมากเกินไป ก็ทำให้หนังนิ่ง และดูอืดๆ ไปหน่อย จนกระทั่งฝ่ายมาเฟียที่อยู่ในซังเตได้เบาะแสของพวกเขาหนังก็กลับมาสนุกอีกครั้งอย่างเป็นเรื่องเป็นราว แต่ก็แค่ทำให้หนังไม่ได้ปิดจบด้วยความรู้สึกแบบเรื่อยๆ เฉื่อยๆ เท่านั้นเอง
บทอาจจะมีปัญหา เหมือนไม่รู้ว่าจะไปทางไหนกันแน่ ระหว่างตลกเสียดสี หรือว่าดราม่าจริงจัง จนกลายเป็นหนังไม่สุดทาง แต่ว่าก็ต้องให้เครดิตกับการแสดงของรุ่นใหญ่สามรายในเรื่อง โรเบิร์ท เดอนีโร, มิเชลล์ ไฟเฟอร์ และทอมมี ลี โจนส์ ที่ต่างก็เล่นได้สมราคา กับมุขล้อเลียนวิธีคิด การจัดการแบบมาเฟีย ที่ทำให้หนังดูสนุกอยู่ช่วงหนึ่งเลยทีเดียว ก่อนจะปิดจบด้วยคำตอบที่ว่า สันดอนขุดได้ แต่สันดานขุดยาก แต่ที่คงยากจะกลับมาแล้วก็คือ การทำงานในแบบหนังยุคแรกๆ ของลุค เบสซง ไม่ว่าจะเป็น The Big Blue, La Famme Nikita หรือว่า Leon
รู้สึกได้ว่า หนังดูโรยรา พลังมาๆ หายๆ อย่างถนัดชัดเจน
โดย นพปฎล พลศิลป์