ได้ยินงานของเพนทาโทนิกซ์ครั้งแรก ก็เมื่อปี- 2 ปีก่อน ที่พวกเขาซึ่งเป็นกลุ่มนักร้องประสานเสียงอะแคพเพลา เอาเพลงของศิลปินดังๆ มาเรียบเรียงใหม่ ร้องและโพสท์ขึ้นยูทิวบ์ของตัวเอง ที่ชื่อ PTXOfficial (ใครสนใจก็ลองไปหาชมกันได้ โดยค้นหาจากชื่อที่ให้มานี่ละ) ซึ่งคลิปที่เปรี้ยงปร้างที่สุด ก็คงเป็นการเมดลีย์เพลงของไมเคิล แจ็คสัน กับดาฟท์ พังค์ ที่คลิปหลังทำยอดถึงกว่า 200 ล้านวิว แต่หากย้อนเวลาไปถึงตอนพวกเขาอัพโหลดคลิปแรกขึ้นยูทิวบ์ ก็กินเวลาถึง 4 ปีเลยทีเดียว
สมาชิกของวงประกอบด้วย อาวี แคปแลน, สก็อทท์ ฮอยอิง, คริสติน มัลโดนาโด, เควิน โอลูโซลา และมิทช์ กราสส์ ฟอร์มกันมาตั้งแต่ปี 2011 เคยคว้าแชมป์รายการร้องเพลง The Sing-Off ของช่องเอ็นบีซี จนได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง แต่ก็ถูกยกเลิก เลยเปิดยูทิวบ์ แชนเนล ทำเพลงกับค่ายเล็กๆ อย่าง เมดิสัน เกท เรคอร์ดส์ และแจ้งเกิดอย่างจริงๆ จังก็บนยูทิวบ์นี่ละ เมื่อมีคนติดตามกว่าสิบล้านคน และยอดวิวรวมพันกว่าล้านวิว หลังจากออกอัลบั้มเพลงคัฟเวอร์มาสามชุด พวกเขาก็ออกอัลบั้มที่เป็นเพลงใหม่ล้วนๆ Pentatonix ออกมา
ตัวเพลงในอัลบั้มนี้ เป็นเพลงป็อป, อาร์แอนด์บี ที่เข้าถึงได้ไม่ยาก แน่นอนว่าเป็นงานอะแคพเพลา ไม่มีเครื่องดนตรีบรรเลง แต่ใช้เสียงและร่างกายของสมาชิกในวงนี่ละ ซึ่งก็มีทั้งเพลงสนุกๆ คึกคักอย่าง Na Na Na หรือ เพลงหวานๆ เช่น Misbehavin’ ทำให้เห็นความสามารถของเพนทาโทนิกซ์มากขึ้นว่า ไม่ได้มีดีแค่เรียบเรียง ทำเพลงคัฟเวอร์ กับเพลงที่เป็นของตัวเองก็ทำได้ดี และหลายๆ เพลงก็ได้รับความนิยมเหมือนกันอย่าง Sing หรือ Ref ที่มาพร้อมอิทธิพลของอีดีเอ็ม
ทั้งหมดมาพร้อมกับดนตรีสวยๆ ติดหู ติดใจได้ไม่ยาก หลายเพลงฟังน่ารัก และลืมไปเลยว่า นี่คืออัลบั้มที่ไม่ใช้เครื่องดนตรีเลยก็ว่าได้
จากยูทิวบ์ มาเป็นอัลบั้ม แฟนเพลงในบ้านเรา โชคดีมากๆ ที่มีโอกาสได้ชมการแสดงสดของพวกเขา ในคอนเสิร์ต Soundbox: Pentatonix the World Tour 2016 เมื่อ 13 กันยายน ที่เมืองไทยจีเอ็มเอ็ม ไลฟ์เฮาส์ ทำให้ได้เห็น ได้สัมผัสความสามารถของเพนทาโทนิกซ์แบบตัวเป็นๆ เสียงจริงๆ ซึ่งก็ไม่ผิดหวังในเรื่องของความสามารถในการแสดง ที่อดตื่นตา ตื่นใจไปกับความสามารถของพวกเขาไม่ได้ โดยโปรดัคชันของคอนเสิร์ตในวันนั้น ก็สนับสนุนตัววงเป็นอย่างดี ระบบเสียงใช้ได้ แต่ปัญหาในวันนั้น อยู่ที่การเป็นวงอะแคพเพลาของพวกเขาเอง ด้วยความที่เป็นมนุษย์ไม่ใช่อุปกรณ์ เครื่องดนตรี การแสดงของพวกเขาจึงรีดอารมณ์ของคนดูให้พีคไปได้ไม่สุด โดยเฉพาะในเรื่องของความหนักแน่น การรุกเร้าใส่ผู้ชม ที่ดูมีขีดจำกัด
ตัวเพลงมีบีท อารมณ์ที่ใกล้เคียงกันมาก ทำให้เมื่อเวลาผ่านไป โชว์ของพวกเขาจะหนืด และเนือยลง แม้จะใส่เพลงเมดลีย์ฮิตๆ ของไมเคิล แจ็คสัน กับดาฟท์ พังค์มาช่วย แต่การหยิบเพลงมาใส่ในเพลงก็สั้นและเปลี่ยนเร็ว ชนิดที่คนดูไปกับเพลงไม่ติด ฟัง Beat It สนุกๆ อยู่เปลี่ยนไปเป็นอีกเพลง ที่บางเพลงก็มาแค่ประโยค – 2 ประโยคซ้ำ ตัวฮอลล์เอง ก็ดูใหญ่เกินไปสำหรับการแสดงของวงอะแคพเพลา เวลาในการแสดงก็ดูจะเนิ่นนานไปอีก คอนเสิร์ตเลยจบลงแบบไม่เคยอิ่มอารมณ์นัก
ซึ่งไม่ได้หมายความว่า พวกเขาไม่เก่ง หรือไม่เจ๋ง แต่กับดนตรีบางแบบ บางประเภท สถานที่, เวลาในการแสดง ก็จำเป็นต้องนึกถึงเช่นกัน หากมีวงหลักอีกวง แล้วลดการแสดงของพวกเขาเหลือสัก 30 – 45 นาที โชว์ของพวกเขาน่าจะอิ่ม และฟินมากกว่านี้แน่นอน
จากเรื่อง จากยูทิวบ์ เป็นอัลบั้ม มาถึงเวทีคอนเสิร์ต ของ Pentatonix คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ โดย นพปฎล พลศิลป์ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ วันที่ 12 ตุลาคม 2559
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านงานวิจารณ์หนัง และเพลง แบบนี้ ได้ด้วยการกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์กันไว้ก่อน ได้ที่นี่