STEP UP ALL IN: ดึงนักแสดงจากภาคก่อนๆ มากันเพียบ อย่างกับหนังไอ้มดแดงตอนสุดท้าย ที่ไอ้มดแดงทุกวีต้องมารวมพลังกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมากันครบ เอาแค่มาได้มากที่สุดเท่าที่จะมาได้เท่านั้นเอง
เรื่องราวแม้จะเป็นภาคที่ 5 แล้ว ถ้าจำไม่ผิด เพราะดูกี่ภาคๆ เรื่องราวก็มาคล้ายๆ กัน จนจำไม่ได้ว่าภาคไหนเป็นภาคไหน กับภาคนี้ ขนาดเริ่มต้นด้วยการมีทีมแล้ว หนังก็กล้าๆ ยุบทีมทิ้ง แล้วพอมีการประกวดครั้งใหญ่ ทำให้พระเอกของเราต้องเฟ้นนักเต้นร่วมทีมอีกครั้ง เหมือนที่พระเอกในทุกๆ ภาคทำกัน แล้วก็ต้องเจอปัญหาในการรวมทีมพอเป็นพิธี ก่อนจะได้ไปแข่ง ที่ในรอบสุดท้ายใครบางคนก็ต้องออกจากทีมกลางคันไปเคลียร์ปัญหา ซึ่งก็มักจะเป็น อดัม เซวินี ในบท มูสส์ และในภาคนี้ก็ไม่เว้น แต่ยังไงๆ ก็ไม่ให้แกเป็นพระเอกตัวจริงซะที ที่ขาดไม่ได้ก็คือ ทีมพระเอกต้องถูกกลั่นแกล้ง พระเอก-นางเอกต้องขัดใจกัน ก่อนที่ทุกคนจะกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในนาทีสุดท้ายก่อนขึ้นเวที
หักมุมที่สุด ก็ตรงที่หนังยังมาแบบเดิมเป๊ะๆ นี่แหละ
ขณะที่ท่าเต้น การเต้นก็เป็นการเต้นแบทเทิลบนเวที ที่ไม่มีทำให้รู้สึกตื่นตาได้เลย ทั้งๆ ที่โดยความรู้สึกแล้ว หนังดูจะยัดฉากเต้นรำเข้ามายาวกว่าเรื่องก่อนๆ ด้วยซ้ำ แต่กลับขาดเสน่ห์ หรือลีลาโดนๆ และทำให้หนังภาคก่อน Step Up: Revolution (จำได้อีกแฮะ) ที่เน้นการเต้นแฟลชม็อบ ดูเก๋ เท่ไปเลย
ส่วนตัวละครก็ไม่มีตื้นลึกหนานุ่มบางกรอบ กระทั่งพระเอกที่ดูแล้ว ก็ไม่น่าจะเป็นผู้นำในการทำอะไรได้
ถ้าคิดว่าดูแค่ฉากเต้น หนังเต้นจะไปเอาอะไรมากกับเรื่อง การแสดง เห็นทีอยู่บ้านเปิดทีวีดู So You Think You Can Dance ก็ไม่ต่างกัน
โดย นพปฎล พลศิลป์