ด้วยความเคารพ / มณฑล จิรา
[ยูนิเวอร์แซล มิวสิค (ประเทศไทย)]
จากนายแบบที่ฮ็อตที่สุดของประเทศเมื่อเกือบๆ 30 ปีก่อนของบ้านเรา ที่มีผลงานตามออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง, วีเจ และแน่นอนออกอัลบัม ตามมาตรฐานนิยมของผู้คนในยุคนั้น งานชุด J กับโพลีแกรม ก่อนจะไปเรียนต่อในต่างประเทศ และมีผลงานต่างๆ ให้เห็นเป็นครั้งคราว
แล้วเมื่อถึงเวลาที่กลับมาอย่างจริงๆ จังๆ เจ มณฑล จิรากลับมาพร้อมบทบาทใหม่ในฐานะคนทำเพลง คนทำงานดนตรี ที่มีเครดิตการทำงานในต่างประเทศมากมายติดตัว ที่กลายมาเป็นคนทำเพลง เจ้าของงานดนตรีที่มีความเฉพาะตัว และแตกต่างไปจากสิ่งที่ได้ยินได้ฟังกันในวงการเพลงบ้านเรา ซึ่งเป็นภาพในการทำงานที่เปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิงก็ว่าได้
เพราะไม่ใช่นายแบบหรือนักแสดงอีกต่อไป และนอกจากมีภาพของคนทำงานดนตรีตัวจริงชัดเจน มณฑล จิรายังมีผลงานที่น่าสนใจอย่าง การทำดนตรีประกอบให้ภาพยนตร์หลายเรื่อง อาทิ เราสองสามคน, เก้าวัด ทำเพลงให้ศิลปินที่มีแนวทางแปลกไปจากตลาดเพลงไทยโดยรวม เช่น Nologo ของโดม ปกรณ์ ลัม, จอนนี อันวาร์ และที่โดดเด่นมากๆ ก็คือ การนั่งเก้าอี้โปรดิวเซอร์ให้กับ Slot Machine
ตลอดจนการทำงานกับฮูโก จุลจักร จักรพงษ์ และเป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ ที่มณฑลนำสัมผัสส่วนตัวบางอย่างไปมอบให้กับเนื้องานของทั้งสองราย
สัมผัสส่วนตัวที่รับรู้กันได้แบบเนื้อๆ เน้นๆ ใน ด้วยความเคารพ อัลบัมชุดที่สอง ซึ่งทิ้งช่วงห่างจากงานชุดแรกถึงกว่าสองทศวรรษ
งานที่อบอวล และเต็มไปด้วยเสน่ห์ของบรรยากาศแบบดนตรีไซคีดิลิกยุคใหม่ ที่แม้จะฟังล่องลอยในเรื่องของ ‘เสียง’ แต่ถ้าได้แตะต้องงานแบบถึงเนื้อถึงตัว 13 เพลงของ ด้วยความเคารพ จะพาอารมณ์ความรู้สึกดำดิ่งไปกับดนตรี เมโลดี เสียงร้อง และเรื่องราวในเพลงได้ไม่ยากเลย
โดยมีข้อแม้เพียงแค่ ต้องรับรู้เรื่องราว ลิ้มอรรถรสดนตรีของงานชุดนี้ แบบซึมซับกันตั้งแต่เพลงแรกไปจนถึงเพลงสุดท้าย เพราะนี่ไม่ใช่อัลบัมสร้างเพลงฮิต ไม่ใช่งานผลิตซิงเกิล แต่เป็นงานดนตรีที่นำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวพันกันทาง ‘อารมณ์’ ตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งโดดเด่นเหลือเกินในเรื่องการสร้างบรรยากาศเฉพาะตัว ที่โอบอุ้มความรู้สึกให้ไปอยู่ในภวังค์ที่มณฑลสร้างขึ้นมา
อาจจะดูเหมือนว่า เป็นคนทำงานที่เชี่ยวชาญและแข็งแรงในเรื่องของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ แต่ ด้วยความเคารพ ก็มีความหลากหลายให้สัมผัสในรายละเอียดดนตรี มีทั้งอารมณ์ หรือซาวนด์ในทางโฟล์ค, คันทรี ที่ถูกแทรกใส่เข้ามาอย่างถูกที่ถูกทาง
บางเพลงอาจจะทำให้นึกถึงงานของศิลปินที่เคยทำงานกับมณฑลอยู่บ้าง โดยเฉพาะฮูโก จุลจักรและเป้ อารักษ์ หากก็เป็นเพียงส่วนหรือเสี้ยวหนึ่ง ซึ่งเป็นผลจากเครื่องดนตรีอะคูสติกที่เข้ามามีบทบาท เช่น ที่ได้ยินใน “ยังไม่พร้อม” หรือ “เอาใจช่วยอยู่” โดยสรรพเสียงของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ยังคงปกคลุมเนื้องานเอาไว้ และเสียงร้องของมณฑลก็มี ‘ตัวตน’ ชัดเจน
ตัวตนที่คงบอกว่าเป็นเสียงของ ‘นักร้อง’ ไม่ได้ แต่ในแง่ของคนทำเพลง มณฑลแสดงให้เห็นว่า สามารถจัดการกับเสียงร้องบางๆ ที่ดูไม่มีแรงของตัวเองได้ ด้วยการทำดนตรีที่เข้ามารับพอดิบพอดี จนเสียงร้องไม่ต่างไปจากอีกซาวนด์หนึ่งที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้กับเพลง ซึ่งก็คงต้องหมายความรวมถึงการดีไซน์เสียงร้องของเจ้าตัวด้วยเช่นกัน
เมื่อเสียงที่เป็นหนัง โอบกอดอารมณ์ในการฟังได้อยู่หมัด เรื่องราวซึ่งเปรียบได้กับเนื้อ ก็ชัดเจน
ทั้ง 13 เพลงในด้วยความเคารพ ล้วนเป็นเพลงรักที่ไม่มีเรื่องอื่นๆ เข้ามาข้องแวะ และไม่ว่าจะเป็นความรักในแง่มุมไหน สมหวัง, ผิดหวัง, สุข หรือเศร้า, รอคอย หรือได้พบเจอ ส่วนใหญ่ก็มีดนตรีที่เหมาะเจาะมารองรับ อย่าง “สุดท้าย” ที่ดนตรีฟังเป็นห้วงๆ ขณะที่ตัวเพลงเหมือนงานประเภทค่อยๆ เผาความรู้สึกช้าๆ แต่ท้ายที่สุดก็จบลงแบบอั้นๆ เหมือนชะตากรรมของตัวละคร ที่ความรักไปต่อไม่ได้ทั้งที่ใจยังรัก ทำให้รู้สึกละล้าละลัง ไม่ตัดจบสะเด็ดน้ำ
หลายๆ เพลงก็มีอารมณ์คล้ายๆ กัน ค่อยๆ พาคนฟังดำดิ่งไปกับเรื่องราวที่ถูกเล่า ในบรรยากาศที่ฟังล่องลอย ชวนเคลิ้บเคลิ้ม แต่ดำลงไปเท่าไหร่ก็หาทางออกไม่เจอ อาจจะรู้สึกหม่นๆ บ้าง แต่ในความหม่นของด้วยความเคารพ ก็ไม่อึดอัดหรือบีบคั้น เมื่อยังรู้สึกโปร่ง โล่งในคราวเดียวกัน
มณฑลมีปัญหาอยู่บ้างกับการเขียนเนื้อร้องภาษาไทย เพราะเรื่องราวในบางเพลงก็ชวนสับสน แบบ “คนที่ดีกว่า” การใช้ภาษาอาจจะรู้สึกแปร่งๆ ทั้งการใช้คำหรือว่าสร้างประโยค แต่อาจจะรู้สึกเหมือนพูดเข้าข้าง ถ้าจะบอกว่า เป็นความแปลกที่เข้ากับดนตรีและเสียงร้อง ที่บางครั้งบางคราวก็ต้องอาศัยการตีความ หรือทำความเข้าใจที่มากขึ้นอยู่บ้าง แต่ก็ตอกย้ำความเด่นในเรื่องบรรยากาศเฉพาะตัวของอัลบัมมากขึ้น รวมไปถึงดึงคนฟังเข้าไปอยู่ในโลกแห่งความรักของมณฑล จิรา ได้แบบบูรณาการ (ตามภาษาสวยๆ ที่เขาชอบใช้กัน)
ถ้าไม่คิดไปไกลขนาดนั้น อย่างน้อยๆ เนื้อหาในเพลงของงานชุดนี้ ก็ชัดเจนในเรื่องราว
ถึงจะไม่ใช่งานที่มีเพลงป็อปติดหู แต่เมโลดีที่เป็นฝีมือของมณฑล ก็ฟังลื่นไหล พาคนฟัง ผ่านเพลงนั้น ไปสู่เพลงนี้ได้เรื่อยๆ
แน่นอนนี่ไม่ใช่แค่อัลบัมที่สมควรฟังกันตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ยังเป็นอัลบัมที่ต้องใช้เวลาในการสัมผัส เพื่อค้นพบความสวยงามของเรื่องราวความรักในมิติต่างๆ ที่ผู้ชายคนนี้เล่าให้ฟัง ตลอดจนอารมณ์ที่เก็บไว้ในเพลง
แล้วยังเป็นอัลบัมที่มาพร้อมความกล้าหาญของคนทำงาน ด้วยเนื้องานที่ท้าทายคนฟัง ในฐานะอัลบัมอีกชุดหนึ่งที่แตกต่างจากงานโดยทั่วๆ ไป ที่สามารถใช้คำว่าแปลกใหม่ด้วยได้อย่างไม่เคอะเขิน
ด้วยความเคารพ
โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ วิจารณ์-แนะนำ นิตยสารสีสัน ปีที่ 32 ฉบับที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564