Music ReviewREVIEW

ฟังไปแล้ว – TWO OF A KIND ความคมคายของดนตรี ความเขี้ยวของเสียงร้อง ที่มีแต่ความเข้มข้น ซึ่งถูกห่อด้วยลูกกวาดให้สัมผัส จากโนวันเอลส์

TWO OF A KIND/ No One Else
[Spicy Disc]

วงทรีโอที่เป็นการรวมตัวกันของสมาชิกจากสองวงดนตรี สองหนุ่มจากลิปตา – จิตติพล ถาวรกิจ (คีย์บอร์ด) กับจิรุตถ์ ตันติวรอังกูร (กีตาร์) ที่เป็นเพื่อนและเล่นดนตรีด้วยกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ส่วนอีกราย กิติวัฒน์ แสงประทีป (ร้องนำ) เป็นสมาชิกวง เดอะ บีกินส์ ที่มาเจอะเจอกัน ตอนที่จิตติพลกับจิรุฒน์กำลังทำเพลงของตัวเอง และได้กิติวัฒน์ ที่ตอนนั้นยังอยู่กับเดอะ บีกินส์มาร้องไกด์ให้ ระหว่างที่สองหนุ่มกำลังมองหานักร้องนำ

ไป ๆ มา ๆ ด้วยความชอบในเสียงร้อง จิตติพลและจิรุฒน์ ก็ชวนกิติวัฒน์มาทำหน้าที่นักร้องนำของพวกเขา

เพลงที่ทำซึ่งวางไว้เป็นโปรเจ็กต์พิเศษ ท้ายที่สุดก็กลายเป็นงานของวงทรีโอถาวร อย่างที่เห็นเต็มตัว และเพราะการที่ทั้งสามคน ทำงานทุกอย่างตั้งแต่การเริ่มต้นทำเพลง ไปจนเสร็จสมบูรณ์พร้อมปล่อยให้ได้ฟังกัน ก็เลยกลายเป็นที่มาของชื่อวง โน วัน เอลส์ (No One Else)

หลังเริ่มต้นด้วย “ยังไม่ลืม” ซิงเกิลแรกเมื่อปี 2556โน วัน เอลส์ มีเพลงปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่าง “คนที่ยังไม่รู้ว่าใคร”, “คำตอบของทุกอย่าง”, “โนบิตะ”, “รักที่ไม่เห็นทาง” หรือ “อาจจะเรียกว่ารัก” ที่หลาย ๆ เพลงกวาดยอดคลิกบนยูทูบผ่านหลักล้านไปแล้วเรียบร้อย

ด้วยความชัดเจนของเพลงที่ทำออกมา เนื้อหาเป็นเรื่องราวของความรัก ไม่ว่าจะสมหวัง หรือผิดหวัง ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาไหนของความรัก หรือความสัมพันธ์ ที่บอกเล่าด้วยดนตรีพ็อปโซล นุ่ม ๆ อารมณ์ละมุน ที่มีทั้งงานสนุก ๆ อย่าง “คนที่ยังไม่รู้ว่าใคร” หรือเพลงซึ้ง ๆ “คำตอบของทุกอย่าง”

อาจจจะบอกว่า โน วัน เอลส์ คือ ศิลปินเพลงสายโรแมนติก เป็นศิลปินที่อยู่ในกลุ่มซึ่งเรียกได้ว่า เป็น เจ้าพ่อเพลงรัก ได้เต็มปาก

ซึ่ง Two of a Kind ที่ความหมายแบบง่าย ๆ หมายถึง คนสองคนที่มีอะไรเหมือน ๆ กัน อาจจะเป็นความคิด ทัศนคติ ที่พอนำมาใช้เป็นชื่ออัลบัมชุดแรกของโน วัน เอลส์ ก็ช่วยให้การเป็นนักเล่าเรื่องราวความรักของพวกเขา ชัดเจนขึ้นไปอีก เพราะการที่คนสองคนจะไปต่อได้ใช้ชีวิตร่วมกัน มันก็น่าจะต้องตั้งต้นจากสิ่งหนึ่งที่มีเหมือนกัน นั่นคือ ความรัก

และทำให้งานชุดนี้ ที่เต็มไปด้วยเพลงรักมากมาย และสัมผัสถึงกลิ่นไอเหล่านั้นได้ตั้งแต่ชื่อ “เธอคือกาแฟในตอนเช้า”, “แค่มีเธอไปเดินเตะคลื่นทะเลด้วยกัน”, “ปีนี้ไม่ต้องเหงาคนเดียวแล้วโว้ย” หรือ”เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ คือการได้พบกับเธอ” มีคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจนไปพร้อม ๆ กัน

ที่มาของแต่ละเพลง ก็ผูกเรื่องราวขึ้นมาจากมุมมองที่เรียบง่าย เน้นความรู้สึก อิงกับมุมมองที่ตรงไปตรงมา การใช้ถ้อยคำภาษาก็ไม่ต่างกัน หากก็มีความสละสลวยจากสัมผัส แล้วบางเพลง ก็เป็นการเปรียบเทียบ เปรียบเปรยกับสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว กับกิจกรรมที่คนรักกันมักทำร่วมกัน อาจทำให้นึกถึงงานของบอย โกสิยพงษ์ อย่าง Home ที่มีลูกเล่นคล้าย ๆ กัน ซึ่งทำให้คนในโลกสีชมพู หรืออบอุ่นกับการที่มีใครสักคนอยู่ข้าง ๆ อดยิ้มให้กับตัวเองได้โดยไม่รู้ตัว เมื่อบางครั้ง บางคราว เขาหรือเธอก็อาจจะเคยคิด รู้สึกแบบในเพลงที่ได้ยิน

กับบางเพลง ก็สามารถขยายความไปได้มากกว่าความรักแบบหนุ่ม-สาว เป็นเรื่องราวที่ไปไกลได้มากกว่านั้น​

ด้วยจำนวน 15 เพลง กับนักฟังที่ไม่ใช่สายโรแมนติก หรือเป็นคนที่ชีวิตรักให้ตรรกะอยู่เหนืออารมณ์ อาจรู้สึกว่า Two of a Kind น่าจะฟังย้วยเอาการ หรือน่าจะเป็นงานที่ทำให้เลี่ยน

แต่ความรู้สึกจริง ๆ ที่ได้จากการฟังนั้น… กลับเป็นคนละเรื่อง

ท่วงทำนอง และดนตรี ของโน วัน เอลส์ มีเสน่ห์ และมีบางอย่างให้ค้นหา จนเนื้อหา หรือว่าเรื่องราวที่ดูเผิน ๆ ก็เหมือนกันไปหมด ถูกมองข้ามหรือว่าละเลย

พวกเขาไม่ใช่เป็นแค่เจ้าพ่อเพลงรัก หรือศิลปินสายโรแมนติก แต่ยังมีความเป็นเซียนเพลงพ็อป กับศิลปินสายรื่นรมย์ พอ ๆ กัน

ทุกเพลงมาพร้อมท่วงทำนองสวย ๆ ฟังละมุน แม้จะมีเพลงเศร้าแซมบ้าง เพลงที่ผิดหวังผสมอยู่ด้วย แต่โดยความลื่นไหลของเพลง งานของโน วัน เอลส์มีความอบอุ่น ความสวยงามให้รู้สึก ราวกับกำลังจะบอกว่า ไม่ว่าจะสมหวัง หรือเป็นไปในทางตรงกันข้าม ความรักก็สวยงามเสมอ

ทางดนตรีก็มีเสน่ห์ การเรียบเรียง ก็ส่งตัวเพลงเต็มที่ โดยโน วัน เอลส์ ยังคงเหนียวแน่นในความเป็นพ็อปโซล และอาร์แอนด์บี เช่นที่เคยเป็นจากตอนเริ่มต้น มีอิทธิพลของศิลปิน อย่าง Boyz II Men หรือ All-4-One ตลอดจนเบบีเฟซ ให้นึกถึง

โดยหากฟังเทียบกับเพลงในช่วงแรก ๆ ของพวกเขา งานใน Two of a Kind เต็มอิ่ม และสมบูรณ์แบบกว่า สมกับที่เจ้าของเพลงผ่านการเคี่ยวกรำของเวลา สะสมประสบการณ์มายาวนาน

การเลือกแขกรับเชิญมาร่วมงาน การใช้เสียงของกิติวัฒน์ จะร่าย-จะร้อง รับกับบีท-ท่วงทำนอง หรือเรื่องราว ในแต่ละเพลง ก็ส่งตัวงานเต็มที่ เพราะนอกจากช่วยเล่าเรื่อง ยังทำให้เพลง ๆ นั้น มีความเฉพาะตัว ทั้งในแง่ของดนตรี และอารมณ์ แล้วไม่ต้องพูดถึงคุณภาพในการใช้เสียงของกิติวัฒน์ ที่อยู่ในระดับเอาตาย เอาอยู่

ซาวนด์ดนตรีปรับจูนจนฟังเนียนสนิทจากเพลงแรกไปจนถึงเพลงสุดท้าย ให้ผ่านหูต่อเนื่องได้อย่างรื่นรมย์ ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงจุดจบ แม้หลาย ๆ เพลงในอัลบัมจะเป็นเพลงฮิตไปแล้ว แต่เมื่อฟังร่วมกับเพลงอื่น ๆ ก็กลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งในอัลบัม

ชั้นเชิงของดนตรี ซับซ้อนสมเป็นงานของนักดนตรี รู้สึกถึงความซับซ้อน แต่ทำนองสวย ๆ เรื่องราวที่เข้าหู เสียงร้องที่ได้อารมณ์ กับซาวนด์ที่ละมุน ก็ปกปิด หรือทำลายความยาก ความซับซ้อนต่าง ๆ ไปจนหมด แล้วก็มีกิมมิคจากเสียงกีตาร์เก๋า ๆ ที่ดึงหูได้แรง ๆ อย่างที่ได้ยินใน “รู้มั้ย”

ภายใต้ความหวานของเรื่องราว ความโรแมนติกของเนื้อหา บรรยากาศสีชมพูจะหม่นบ้าง สดบ้างก็แล้วแต่ Two of a Kind คือความคมคายของดนตรี ความเขี้ยวของเสียงร้อง ที่มีแต่ความเข้มข้น ซึ่งถูกห่อด้วยลูกกวาดให้สัมผัส

โดย นพปฎล พลศิลป์
จาก คอลัมน์ วิจารณ์-แนะนำ นิตยสารสีสันปีที่ 34 ฉบับที่ 9 พฤศจิกายน 2566

ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:Music Review

Comments are closed.