Music ReviewREVIEW

ฟังไปแล้ว – US อัลบัมซาวนด์แทร็คหนังสุดหลอนของจอร์แดน พีล จากฝีมือการทำดนตรีของ ไมเคิล อเบลล์

US – ORIGINAL MOTION PICTURE SOUNDTRACK / Music Compsed by Michael Abels
[Back Lot Music]

ในหนัง Get Out นอกจากการเล่าเรื่องของจอร์แดน พีล จะมีจังหวะจะโคนที่ดีในการล่อหลอกผู้ชมแล้ว องค์ประกอบอื่นๆ ของหนังก็ส่งเป็นอย่างดี เช่น ดนตรีประกอบของ ไมเคิล อเบลส์ ที่แม้จะถึงกับหวือหวา แต่ก็มีเสน่ห์บางอย่างที่กระตุกหู โดยเฉพาะในธีมสำคัญๆ อย่าง “Sikiliza Kwa Wahenga (Main Title)” หรือ “Chris & Rose (Love Theme)” อย่างเพลงแรกก็เหมือนกับเป็นการผสมผสานงานในแบบชนเผ่าเข้ากับอารมณ์ดนตรีทางใต้ของสหรัฐ อเมริกา แล้วก็มาพร้อมกับความหลอนในตอนท้าย ขณะที่เพลงหลัง แม้จะมีเสียงเปียโนที่ฟังหวาน กับเสียงเชลโลที่ฟังอบอุ่น แต่อย่าลืมเสียงกระแทกเปียโนที่ชวนสะดุ้งในตอนเริ่มต้นกับลงท้าย ที่เหมือนกับบอกเป็นนัยๆ ว่า ความรักของหนุ่มสาวคู่นี้มีอะไรบางอย่างที่ไม่ธรรมดาซุกซ่อนอยู่

ที่น่าสนใจก็คือ อเบลส์ใช้เครื่องไม่มากชิ้น มาสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความน่าหวาดหวั่นอย่างได้ผล โดยเฉพาะเครื่องดนตรีที่เราๆ คุ้นเคยกันดีอย่าง เปียโน ที่เป็นต้นทางของแหล่งกำเนิดเสียงอันน่าพรั่นพรึง ที่พอเติมด้วยเครื่องดนตรีอีกชิ้น หรือเสียงบางอย่าง ที่แตกต่างกันสุดขั้วก็ว่าได้ เช่นใน “Ice Tea” ที่มีเสียงประสานกลุ่มใหญ่มารับ ทำให้ระดับของความหลอนเพิ่มดีกรีขึ้นไปอีก

เห็นได้ชัดว่า อเบลส์สามารถจับเครื่องดนตรีในแบบพิมพ์นิยมของงานซาวนด์แทร็ค แล้วเอาเครื่องดนตรีต่างขั้วมาผสมผสานได้ดี และลงตัว อาจจะไม่ใช่ลายเซ็น สำหรับการได้ยินจาก Get Out เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น

มาถึง Us อเบลส์ทำงานที่ใหญ่ขึ้น ซับซ้อนขึ้น และลูกเล่นที่โดดเด่นของเขาก็ชัดเจนยิ่งขึ้น และน่าจะพูดได้ว่าเป็นลายเซ็นเฉพาะตัว ที่สามารถสัมผัสได้ตั้งแต่ได้ยินในภาพยนตร์

ในอัลบัมซาวนด์แทร็ค อเบลส์ก็วาง ‘ของดี’ โชว์กันมาเลยตั้งแต่เพลงแรก “Anthem” ที่เป็นเสียงร้องประสานของเด็กๆ ที่ค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อย ซึ่งฟังแล้วหลอนในความรู้สึกตั้งแต่ต้น ที่พอรวมเข้ากับเพอร์คัสชันในแบบแอฟริกัน บีท แทนที่จะทำให้รู้สึกคึกคักไปกับจังหวะจะโคนที่รุกเร้า กลับกลายเป็นชวนตระหนกเพิ่มขึ้นไปอีก ยิ่งในช่วงท้ายมีการใส่เสียงร้องประสานที่ฟังไม่ต่างไปจากบทสวดเข้ามาด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้รู้สึกถึงการทำพิธีกรรมบางอย่าง ที่ชวนให้น่าสะพรึงกลัวเพิ่มขึ้นไปอีก

งานนี้ถือว่า อเบลส์ทำให้รู้สึกขนหัวลุกได้ตั้งแต่เปิดหน้า

ที่หากได้ชมภาพยนตร์ ก็น่าจะจำได้ว่า ทันทีที่ธีมนี้ดังขึ้นมา ก็เตรียมเผชิญหน้ากับสถานการณ์ลุ้นระทึกกันได้เลย ซึ่งเป็นไปในแบบเดียวกับธีมคลาสสิคของหนังสยองขวัญในอดีต ที่มีธีมจำ ได้ยินปุ้บ ภาพของความระทึก ชวนหวาดหวั่นก็ลอยมาในทันที ไม่ว่าจะเป็น ธีมของหนัง Pet Cemetary เมื่อปี 1989, The Omen ฉบับปี 1976 ที่ล้วนใช้เสียงคอรัสเป็นอาวุธสำคัญ หรือเสียงกระซิบ I… Kill… ของ Friday the 13th และเสียงเครื่องสายในโทนทุ้มต่ำสำหรับ Jaws

แล้วกับการที่กลุ่มเครื่องดนตรีที่มากชิ้นกว่าเดิม ก็ช่วยให้ดนตรีประกอบของ Us มีความซับซ้อน มีชั้นของอารมณ์ที่หลากหลาย มากขึ้น ซึ่งก็สามารถสนับสนุนตัวละครที่มีเงื่อนปมที่ลึกกว่าที่เคยเป็นใน Get Out ได้ดีขึ้นไปพร้อมๆ กัน โดยเสียงที่โดดเด่นมากๆ ในงานดนตรีของ Us นอกจากเสียงคอรัสใน “Anthem” แล้ว งานที่เปรียบได้กับตัวหลักในครั้งนี้ ก็คงไม่พ้นเพอร์คัสชัน ที่มีให้ได้ยินในแทบทุกธีม ขณะที่เครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ก็ได้เล่นบทบาทสำคัญในหลายๆ ธีม และเป็นส่วนหนึ่งในตัวสร้างบรรยากาศให้กับหนังอย่างได้ผล

สำหรับเครื่องดนตรีในกลุ่มเครื่องสาย พระเอกของงานก็คือ “Pas De Deux” ที่ใช้กับฉากเต้นบัลเลท์ของอเดเลดและเรด ซึ่งชั้นเชิงในการเรียบเรียง เพื่อให้รับกับภาพนั้นลงตัวมากๆ มีทั้งการบรรเลงที่ให้รู้สึกถึงการเล่นหยอกล้อ โต้ตอบกันไปมา ชวนให้ขบขัน แต่ก็ไม่ปล่อยความน่าพรั่นพรึงทิ้ง เมื่อเสียงซินธ์ที่รองพื้นอยู่ยังคงโผล่ตัวขึ้นมาเป็นระยะๆ จนระเบิดออกมา และถึงแม้ช่วงสุดท้ายจะให้รู้สึกถึงการคลี่คลายก็จริงอยู่

แต่ลองย้อนไปฟังดนตรีเมโลดีเดียวกันนี้ในช่วงแรก อารมณ์ขัน การเล่นหยอกล้อหายไป ทุกอย่างหลอมรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว ที่แสดงถึงบางสิ่งบางอย่างที่ภาพไม่สามารถนำเสนอออกมาได้

ไม่น่าเชื่อว่าอเบลส์เพิ่งผ่านงานทำดนตรีประกอบภาพยนตร์มาเพียงแค่สองเรื่องนี้เท่านั้น เพราะจากที่ได้ยิน ได้ฟัง ไอเดียต่างๆ นอกจากจะสดแล้ว ยังฟังเก๋า ราวกับเป็นมือทองที่คลุกคลีตรงนี้มานาน เอาอยู่ไม่ว่าจะเป็นงานที่ดูเล็ก อย่าง Get Out แล้วพอถึงคราวของงานที่ใหญ่ขึ้น อเบลส์ก็ทำได้เยี่ยมมากขึ้น ซึ่งไม่ต่างไปจากตัวหนัง ที่ไม่ได้ใหญ่แค่โปรดัคชัน พีลสามารถเล่าเรื่องราวที่ซับซ้อน และตีความได้หลากหลายมุมมองมากกว่าเดิม

US Track Listing: 1. “Anthem” 2. “I Like That” Performed by Janelle Monáe 3. “Outernet” 4. “Spider” 5. “Ballet Memory” 6. “I Got 5 on It” [ft. Michael Marshall] Performed by Luniz 7. “Beach Walk” 8. “First Man Standing” 9. “Back to the House” 10. “Keep You Safe” 11. “Don’t Feel Like Myself” 12. “She Tried to Kill Me” 13. “Boogieman’s Family” 14. “Home Invasion” 15. “Once Upon a Time” 16. “Run” 17. “Into the Water” 18. “Spark in the Closet” 19. “Escape to the Boast” 20. “Femme Fatale” 21. “Silent Scream” 22. “News Report” 23. “Zora Drives” 24. “Death of Umbrae” 25. “Somber Ride” 26. “Immolation” 27. “Down the Rabbit Hole” 28. “Performance Art” 29. “Human” 30. “Battle Plan” 31. “Pas de Deux” 32. “They Can’t Hurt You” 33. “Finale” 34. “Les Fleur” Performed By Minnie Riperton 35. “I Got 5 on It (Tethered Mix From US)” [ft. Michael Marshall] Performed By Luniz

โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ สะกิดร่องเสียง นิตยสารเอนเตอร์เทน 1278 ปักษ์หลัง เมษายน 2562

 

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:Music Review

Comments are closed.