สังคมบิดเบี้ยว…

Distort…แปลว่า บิดเบือน ผิดรูปผิดร่าง ทำให้ผิดรูป ทำให้เข้าใจผิด…และ บิดเบือน..

ท่านผู้อ่านรู้สึกไหมครับว่า…ตอนนี้ ”สังคมไทย” ทั้งองคาพยพ หมายถึง คนไทยทุกผู้ทุกนาม และถ้าใช้ศัพท์ทางการที่เขียนให้มันอ่านไม่สะดวกปากและต้องมานั่งแปลไทยเป็นไทยก็คือ ”คนไทยทุกภาคส่วน”…ฮา กำลังตกอยู่ในภาวะถูกทำให้ ”บิดเบือน  ทำให้ผิดรูปผิดร่าง ทำให้เข้าใจผิด” กันในทุกๆ เรื่อง ตั้งแต่ การเมือง เศรษฐกิจ ศิลปวัฒนธรรม และปัญหาในวิถีชีวิตประจำวัน

เมื่อก่อน..เราเคยพูดกันว่า มีอะไรขึ้นมานี่อย่างน้อย..ประชาชนยังสามารถ ”พึ่งพา” สื่อมวลชนได้ แต่มาถึงวันนี้ ขนาด สนจ. เป็น ”สื่อ” เอง สนจ. ยังไม่ค่อยจะแน่ใจเลยว่า เอาเข้าจริงๆ ”สื่อ” นี่มันพึ่งได้จริงๆ หรือเปล่าวะ เพราะมาถึงวันนี้ สื่อมันกลายเป็น ”ธุรกิจ” ”เลือกข้าง” กันไปหมดแล้ว ทำกันชัดๆ จะจะ ไม่เป็นอีแอบกันอีกต่อไป เอาว่าเมื่อก่อนถ้าจะมีวาระซ่อนเร้นหรือผลประโยชน์ทับซ้อน ก็ยังทำกันแบบเนียนๆ ไม่โฉงฉางกะละมังแตก

แต่มาถึงวันนี้..ถ้าเป็น ”ตลกร้าย” และเอามา ”อำ” กันละก็..ต้องบอกว่า ถ้าอยากทำให้อะไรๆ ผิดรูปผิดร่างไปจาก ”ของจริง” ที่เห็นและเป็นอยู่ หรืออยากทำให้ผู้คน ”เข้าใจผิด” ในเรื่องอะไร..

ขอให้เขี่ยหรือส่งมอบเรื่องเหล่านี้ให้ไปอยู่ในอุ้งมือของ ”นักการเมือง” และ ”สื่อมวลชน” โดยเฉพาะ ทีวี และ นสพ.รายวัน…ฮา

กรณีนักแสดงสาวกับการเสพยาไอซ์ กรณีโศกนาฏกรรมของคู่บ่าวสาวที่เพิ่งจะแต่งงานแต่ต้องไปประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตโดนฟ้าผ่าที่สหรัฐฯ ไปจนถึงกรณี ”ถ่ายทอดสด” ฟุตบอลหงส์แดง..ที่ช่อง 3 โดน ”ด่าเช็ด” ร้อนถึงไอ้หนุ่มหน้ามนคน ”ขอนแก่น” อย่าง กิตติ สิงหาปัด ต้องออกมา ”กระตุก” ผู้คนในสังคมว่า..เฮ้ย ก่อนจะด่าหรือตำหนิอะไร หัดทำ ”การบ้าน” กันสะมั่งสิโว้ย ช่อง 3 แค่รับสัญญาณ..เจ้าของงานเขาจ้าง ”เอาท์ซอร์ส” ซึ่งไม่ใช่ซอสพริกศรีราชาหรือซอสตราเด็กสมบูรณ์ มาเป็น ”ผู้ดำเนินการถ่ายทอดสด” หมายถึง ทีมงานกล้อง และสวิทชิ่งในรถโอบี..ดูเหมือนจะชื่อ สปอต มาสเตอร์..

เรื่องเหล่านี้..แรกที่เกิดเหตุ ก็เป็นแค่เหตุการณ์ปกติธรรมดาเหตุการณ์หนึ่ง แต่พอมันตกไปอยู่ในมือ ”สื่อ” และ ”นักการเมือง” คราวนี้ก็เละสิครับ..ฮา

มันเละแบบที่เหน็บแนมแกมประชดประเทียดและแดกดันกันว่า เมืองไทยมันดราม่านั่นแหละ หรือไม่ก็สุดยอดครีเอทีฟ ก๊อปปี้ ไรท์ ”อยู่เมืองดัดจริต ชีวิตต้องป๊อป”… บ้านนี้เมืองนี้ ทุกอย่างถูก ”ทำแม่งให้ยุ่งเข้าไว้” และเกือบจะทุกๆ เรื่อง มาจาก ”เรื่องไม่เป็นเรื่อง” แทบจะทั้งสิ้นทั้งปวง..

เราละเลยเรื่องหลัก แล้วไปให้ความสำคัญเรื่องหยุมหยิมกันเสียเกือบจะทุกๆ เรื่อง

หรือไม่เราก็ลักปิดลักเปิด ชักเข้าชักออก..จะเอาอย่างไรก็ไม่เอากันสักอย่างให้มันชัดๆ กันไป

สนจ. มี ”ตัวอย่าง” ครับ..กรณีน้องนักแสดงสาววัยรุ่น ตามหลักการ กฎ กติกาและมรรยาท..สากล ที่ ”สื่อ” ที่มีมาตรฐานและมาตรการในการ ”ปกป้องเด็กและเยาวชน” เขาทำกัน ”ทั้งโลก” ก็คือการ ”ปิดบังใบหน้าที่แท้จริง” ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด อาทิ ใส่ลายเส้นหรือสกรีนเข้าไปบนใบหน้าให้ดูไม่ออกด้วยตาเปล่าว่า ”หน้าตาของ น้อง” เขาเป็นอย่างไร ถ้าบนจอ ”ทีวี” ก็ใส่ ”โมเสส” หรือการบังภาพให้พร่ามัว..

แต่ลองไปไล่เรียงดูเถิดครับ นสพ.บางฉบับทำ บางฉบับตีพิมพ์กันจะจะ ชัดแจ๋ว..

หันกลับไปที่ สื่อ ทีวี..มีทั้งที่ทำให้ภาพมัว มองไม่ออกว่าหน้าตาเป็นอย่างไร กับไม่ได้ทำอะไรเลย ถ่ายมายังไงออกยังไง หรือบางช่อง ภาพใกล้..บัง ภาพเป็น ภาพไกลลองช็อต ไม่บัง..อ้าว..ทั้งๆ ที่ มันจะโคลสอัพ มีเดียมช็อต หรือ ลองช็อต..มันต้อง ”บัง” ทุกเฟรมที่มีหน้า ”น้องนักแสดง” เขา..

ทั้งหมดนี้มันก็เข้าง่าม..ที่ สนจ. เขียนถึงนั่นแหละ..

สนจ. ยังนึกไม่ออกนะว่า สังคมไทยมันจะต้องอยู่กันแบบบิดๆ เบี้ยวๆ อย่างที่เห็นและเป็นอยู่นี้ไปอีกนานเท่าไหร่..

ถ้าคิดแบบเข้าข้างตัวเองและตัดช่องน้อยแต่พอตัว..ก็เอาน่ะ..สนจ. คงไม่ต้องทนดูและรับสภาพมันอีกนานเท่าไหร่…ฮา

จากเรื่อง สังคมบิดเบี้ยว… คอลัมน์ โลกมายา โดย สนานจิตต์ บางสพาน หนังสือพิมพ์ สยามดารา วันที่ 30 กรกฎาคม 2013