The Secret Life of Walter Mitty [2013 / Ben Stiller]: เทพนิยายวัยกลางคน
โดย สกก์บงกช ขันทอง
มานั่งนึกๆดูแล้ว เราจำไม่ได้แล้วนะว่าว่าเราหยุดความฝันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
ความฝันในนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราหลับและนึกถึงมัน เราหมายถึงฝันกลางวันในแบบที่เราเคยนั่งนึกในวัยเยาว์
เท่าที่เราจำได้…วัยเด็กเราถูกหล่อหลอมด้วยเรื่องเทพนิยายชวนฝัน
โตขึ้นมาหน่อยก็ถูกการ์ตูนลายเส้นฉูดฉาดมันหล่อหลอม
กระทั่งเป็นวัยรุ่น เพลงจากศิลปินที่เราชอบ ก็เหมือนจะผลักดันความคิดของเราบางอย่าง
ตัดมาปัจจุบัน ความฝันเหือดหาย โลกแห่งความจริงมันทำลายชั้นบรรยากาศฟุ้งเฟ้อแสนหวานที่เราเคยสร้างมันพร้อมกับหนัง / การ์ตูน / นิทาน / เพลง ไปจนหมดสิ้น
มานึกขึ้นได้อีกที เรากลายเป็นคนมนุษย์วัยกลางคนที่วันจมจ่ออยู่กับความจริง
เพลงที่ฟังไม่เคยเพราะเหมือนเมื่อก่อน
รอยเชี่ยวกรากของกาลเวลามันช่างน่ากลัว
เมื่อเราเดินผ่านไปแล้ว พบว่า ไอ้ความลึกซึ้งเพ้อฝันเป็นเพียงลมที่พัดมาให้เย็นแต่ไม่อาจจะจับต้องมันได้
เราตื่นมาด้วยความจืดชืด ใช้ชีวิตตามครรลองที่มันควรจะเป็น ตามที่สังคมขีดไว้
กระทั่งได้ดู The Secret Life of Walter Mitty ความรู้สึกเดียงสาในวัยเยาว์มันก็มาโดยที่เราไม่ตั้งตัว…
หนังเล่าเรื่องของผู้ชายที่ชีวิตเรียบง่ายและน่าเบื่อ
เขาอยู่ในยุคสมัยที่คาบเกี่ยวระหว่างยุคเก่าและยุคใหม่
ด้วยอาชีพพนักงานประจำห้องฟิล์มเนกกาทีฟประจำนิตยสาร LIFE ซึ่งกำลังจะเปลี่ยนเป็นนิตยสารอีบุ๊คในไม่ช้า
ไม่มีการแสดงอาการใดๆสำหรับเขาที่กำลังจะกลายเป็นคนว่างงานในไม่ช้า
มีเพียงหน้าปกฉบับกระดาษเล่มสุดท้ายกับ รูปถ่ายรูป 25 ที่หายไป ที่เขาต้องตามค้นหา
และหลังจากนั้นชีวิตอันแสนเรียบง่ายกลับกลายเป็นความโลดโผนโจนทะยานอย่างน่าเหลือเชื่อ
หนังเริ่มต้นด้วยคำถามว่า…
“คุณหยุดใช้ชีวิตที่เดินตามความฝันตัวเองเมื่อไหร่ ?”
เปลี่ยนมาเป็นการตั้งคำถามว่า
“แล้วทำไมคุณไม่ออกไปเดินตามความฝัน ?”
เมื่อมิตตี้ออกเดินทาง หลายสิ่งหลายอย่างที่เราฉุกคิดระหว่างที่ดูก็เกิดขึ้น
ความฝันในวัยเยาว์มันไม่ได้หายไปไหน มันแค่หลับใหลรอใครซักคนปลุกมัน
ลมที่พัดผ่านอาจจะจับต้องไม่ได้ แต่ความรู้สึกเย็นสบายเมื่อมันตีหน้าในยามร้อนรุ่มก็เกิดขึ้น
และลมมันก็ช่วยพัดเถ้าถ่านที่กำลังดับมอดให้ปะทุขึ้นอีกครั้ง
และหนังเรื่องนี้ก็คือลมที่พัดเข้ามา มาช่วยปลอบประโลมจิตใจเมื่อยามที่ความจริงมันทำร้ายจิตใจ
มาช่วยเยียวยารักษาฝันที่ขาดหาย
มาช่วยเขย่าหัวใจให้เรามองโลกในแง่ดีที่เสมือนสายเป็นแอพปรับแต่งภาพฟิลเตอร์ฟุ้งๆ
และมันคือเทพนิยายสำหรับมนุษย์วัยกลางคนให้ลองหันมามองชีวิตตัวเองอีกครั้ง
หนังพาเรากลับไปเก็บความฝันที่หล่นหาย และทำให้เราเข้าใจชีวิตมากกว่าที่เคยเป็น
แนะนำอย่างแรง แม้ว่าในชีวิตคุณไม่หลงเหลือความฝันในความทรงจำแล้วก็ตาม