
เป็นคอนเสิร์ตเซอร์ไพรส์ ที่จู่ๆ ก็มาเปิดการแสดงให้ชมในบ้านเรา สำหรับการร่วมงานกันในแบบที่น่าจะเฉพาะกิจของคีธ ดัฟฟีจาก Boyzone และไบรอัน แม็คฟาดเดน จาก Westlife สองบอยแบนด์เลือดไอริช ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงกลางถึงปลายๆ ยุค 90 ซึ่งทั้งคู่ประกาศจับมือออกทัวร์ร่วมกันไปตั้งแต่เมื่อเดือนกลางๆ ปี 2561 และบ้านเราก็เป็นที่แรกๆ ที่ดัฟฟีและแม็คฟาดเดน เลือกมาเล่น
บอยซ์ไลฟ์ ขึ้นเวทีให้แฟนๆ ของทั้งบอยโซนและเวสท์ไลฟ์ได้ชมกันเมื่อ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์ เฮาส์, เซ็นทรัล เวิร์ลด์ โดยทีนเอจ ดรีม คอร์ปอเรชัน ที่เพิ่งเอาวง Cigarettes After Sex มาให้เราได้ชมกัน เป็นผู้จัด
และไม่ใช่มีแค่การกลับมาขึ้นเวทีในบ้านเราของสองหนุ่มจากสองบอยแบนด์ให้ดู งานนี้ยังมีหนุ่มปราโมทย์ วิเลปะนะ หรือโมทย์ หมีพูห์ เจ้าของเพลงฮิต “แค่บอกว่ารักเธอ” และ “คืนที่ดาวเต็มฟ้า” กับเพื่อนๆ มาเล่นเป็นวงเปิดโชว์อีกต่างหาก ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่พลาดเอาเพลงฮิตที่สร้างชื่อให้มาร้องมาเล่นสดๆ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีไม่น้อย เมื่อดูจากปฏิกริยาของผู้ชม ที่พร้อมใจกันเปิดไฟแฟลชของโทรศัพท์รับเพลง “คืนที่ดาวเต็มฟ้า”
ไม่ต้องใช้เวลานานนักหลังจากโมทย์และเพื่อนๆ เล่นจบ คีธ ดัฟฟีและไบรอัน แม็คฟาดเดนในชุดที่ดูสบายๆ ก็ก้าวขึ้นมาบนเวทีที่เปิดโล่ง ประเดิมด้วย “When You’re Looking Like That” เพลงฮิตของเวสท์ไลฟ์ โดยมีเสียงดนตรีจากแบ็คกิงแทร็ครองรับ ขณะที่เรื่องของโปรดัคชันต่างๆ ก็มากันแบบเรียบง่าย มีจอแอลอีดีขนาดใหญ่ฉายภาพสวยๆ ประกอบการแสดง ที่สองหนุ่มเล่นมุกรับ-ส่งกันทั้งบนเวที และสนทนากับผู้ชมเป็นระยะๆ ทำให้การแสดงของพวกเขาไม่ต่างไปจากโชว์ในแบบงานแฟนมีตติ้ง ที่เน้นความเป็นกันเองระหว่างศิลปินกับผู้ชม ที่น่าจะเป็นแฟนพันธุ์แท้เกือบทั้งฮอลล์ เมื่อได้ยินเสียงร้องเพลงตามทั้ง 16 เพลงในวันนี้ ไม่มีขาดเสียง ไม่ว่าจะเป็นเพลงของบอยโซนหรือเวสท์ไลฟ์ อาทิ “You Needed Me”, “Swear It Again”, “My Love”, “Love Me for A Reason”, “Flying Without Wings”, “Words”, “Baby Can I Hold You”, “Uptown Girl”, “No Matter What”, “Father and Son” หรือว่า “Picture of You” ซึ่งบางเพลงก็เป็นงานที่วงของพวกเขาไปคัฟเวอร์มาอีกที
แต่ก็ต้องยอมรับเหมือนกันว่า ในเรื่องของเสียงร้องนั้น กับแม็คฟาดเดนยังถือว่า พอสอบผ่าน แต่กับดัฟฟี กับในทีมบอยโซน เขาก็ไม่ใช่คนที่เป็นเสียงหลัก และไม่ใช่คนที่เสียงดีของวง ไม่ว่าจะในระดับต้นๆ หรือรองๆ อยู่แล้ว ก็เลยต้องลุ้นกันหน่อย โดยเฉพาะในเพลงที่ต้องใช้เทคนิคและเสียงร้องที่ต้องมีศักยภาพมากกว่าที่เขามี
ขณะที่การขึ้นเวทีร้องเพลงกับแบ็คกิง แทร็ค ก็ทำให้อารมณ์ของแต่ละเพลงฟังแห้งๆ อยู่เหมือนกัน แต่ก็น่าจะพอทดแทนได้ด้วยการเป็นคอนเสิร์ตรวมเพลงฮิตจากวงต้นทางของทั้งคู่ รวมทั้งการมอบความใกล้ชิดให้ผู้ชม ที่ในเพลง “If I Let You Go” ทั้งสองคนลงมาร้องเพลงร่วมกับแฟนๆ ที่นั่งชมกันจนจบเพลง ซึ่งก็เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าด และสร้างความคึกคักให้กับโชว์ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะคนที่เป็นแฟนเพลงของทั้งคู่แบบเหนียวแน่น ที่น่าจะปลื้มสุดๆ เมื่อได้ฟังเพลงฮิต ได้ชิดเนื้อชิดตัวกับศิลปินคนโปรด
แต่กับคอเพลงทั่วๆ ไป อาจรู้สึกไม่อิ่มและขาดไม่น้อย ก็หวังว่าหากมีโอกาสกลับมาอีกครั้งจัดเต็มๆ กันไปเลยก็ดี หรือคิดซะว่าเป็นการอุ่นเครื่องเผื่อการออกทัวร์คอนเสิร์ตครบรอบ 25 ปีของบอยโซน จะแวะมาทักทายกับแฟนๆ ที่บ้านเรากันบ้างก็พอไหว
โดย นพปฎล พลศิลป์ เรื่อง Boyzlife ดูโอจากสองบอยแบนด์กับการแสดงในบ้านเรา คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสต์ วันที่ 11 ธันวาคม 2561
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่