![](https://www.sadaos.com/wp-content/uploads/2014/05/MJ-Live.jpg)
จากโฮโลแกรมของทูพัค ชาเคอร์ เมื่อปี 2012 ในงานเทศกาลดนตรีโคเชลลา ล่าสุดโฮโลแกรมทำให้ศิลปินผู้จากไปกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ในงาน The Billboard Music Awards เมื่อไมเคิล แจ็คสัน กลับมาขึ้นเวทีร้องเล่นเต้นรำ และแน่นอน มูนวอล์ค ราวกับมีชีวิตในเพลง Slave to the Rhythm งานเพลงใหม่จากอัลบั้มใหม่ของเขา Xscape
[one_half][/one_half]
โดยโฆษกของนิตยสารบิลล์บอร์ดบอกกับสื่อต่างๆ ว่า ทางผู้ดูแลทรัพย์สินของไมเคิล แจ็คสัน และ พัลส์ เอโวลูชัน ร่วมกันสร้างการแสดงที่เป็นประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ของผู้ที่ได้ชมขึ้นมาในครั้งนี้ ซึ่งใช้เวลาในการทำงานมากกว่า 1 ปี และใช้คนทำงานมากกว่าร้อยชีวิต
สำหรับไมเคิล แจ็คสันนั้น เสียชีวิตไปเมื่อปี 2009 โดยการสร้างโฮโลแกรมของศิลปินทั้งที่เสียชีวิตไปแล้ว และยังมีชีวิตอยู่ มาขึ้นเวทีแสดงสดมีขึ้นหลายครั้งแล้วก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น การแสดงของจาเนลล์ โมเน กับ เอ็ม.ไอ.เอ. เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยศิลปินทั้งคู่ที่อยู่ห่างกันถึง 3,000 ไมล์ สามารถแสดงบนเวทีร่วมกันได้, การแสดงของโอลด์ เดอร์ตี บาสตาร์ดและอีซี-อี ที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 2013 แต่ฮือฮาที่สุดก็คือ โฮโลแกรมของทูพัค ในงานโคเชลลาเมื่อปี 2012 ซึ่งเป็นผลงานของบริษัทดิจิตอล โดเมน ที่ว่ากันว่าใช้เวลาในการทำงานถึง 4 เดือน และหมดเงินไป 400,000 เหรียญ
สำหรับบริษัทดิจิตอล โดเมน ที่ถูกฟ้องล้มละลายไปในปี 2012 และโดนซื้อไปเป็นสินทรัพย์ของสตูดิโอ พยายามที่จะไม่ให้มีการใช้โฮโลแกรมของไมเคิล แจ็คสันในการแสดงครั้งนี้ โดยทางบริษัท โฮโลแกรม ยูเอสเอ และ มิวชัน ดาส โฮโลแกรมแย้งว่า การแสดงในครั้งนี้ละเมิดสิทธิบัตรของพวกเขา แต่หลังจากศาลของลาส เวกัสตัดสินว่าเทคโนโลยีโฮโลแกรมเป็นความรู้ที่เป็นสารธารณะ การแสดงจึงดำเนินต่อไปได้
สำหรับเทคโนโลยีการแสดงภาพโฮโลแกรมบนเวทีนั้น มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 โดยเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นตามชื่อนักเคมีในยุควิคตอเรียนของอังกฤษ – จอห์น เพ็พเพอร์ แต่ขณะที่ภาพ Pepper’s Ghost ของเพ็พเพอร์ไม่ได้ถูกนำไปสร้างอะไรใหม่ๆ การมาถึงของซีจีไอกลับสามารถทำให้คนดังและผู้มีชื่อเสียงต่างๆ กลับมามีชีวิตบนเวที หรือบนจอภาพยนตร์ได้อีกครั้ง