เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีการปิดดีลระดับบิ๊กในวงการเพลงไปอีกดีล นั่นก็คือการซื้อกิจการบีทส์ อิเล็กทรอนิกส์ เจ้าของหูฟังยี่ห้อบีทส์ ซึ่งมี ดร. เดร ศิลปิน/ โปรดิวเซอร์ กับจิมมี ไอโอไวน์ โปรดิวเซอร์/ ผู้บริหารสังกัดเพลงเป็นเจ้าของ โดยบริษัทแอปเปิล ในราคาที่คาดกันว่าสูงถึงกว่า 3 พันล้านเหรียญ
หลังมีข่าวการเจรจาซื้อขายเสร็จ ทางแอปเปิลยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นใดๆ ผิดกับเดรที่ยืนยันการซื้อขายครั้งนี้ผ่านวิดีโอ คลิป ที่อัพโหลดขึ้นเฟซบุคโดยไทรีส กิ๊บสัน ดาราจากหนัง Fast & Furious ไทรีส กิบสัน ที่เล่นมุขด้วยการบอกว่า นิตยสารฟอร์บส์คงต้องอัพเดทอันดับมหาเศรษฐีกันใหม่ จากนั้นเดรก็พูดแทรกยืนยันถึงการซื้อกิจการ แล้วกิ๊บสันก็พูดขึ้น “มหาเศรษฐีพันล้านคนแรกของวงการเพลงฮิพ-ฮอพ อยู่ตรงนี้เขามาจากฝั่งตะวันตก (หมายถึงฝั่งตะวันตกของอเมริกา)”
นั่นคือผลลัพธ์แรกที่มองเห็น จากการซื้อขายกิจการหนนี้ โลกมีเศรษฐีพันล้านอีก 1 คน หรือจะเฉพาะเจาะจงลงไปอีก ก็คือวงการเพลง และเป็นศิลปินฮิพ-ฮอพคนแรกที่มีเงินทองขนาดนี้
สำหรับแอปเปิล การซื้อบีทส์ อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ใช่ซื้อเพราะหวังได้กิจการหูฟัง แม้ในร้านแอปเปิล จะจัดชั้นวางขายหูฟังของบีทส์เป็นอย่างดี แถมยังทำกำไรให้บริษัทได้ไม่น้อย แต่ที่บีทส์ อิเล็กทรอนิกส์มีมากกว่านั้นก็คือ บริการฟังเพลงสตรีมมิง ซึ่งจะทำให้แอปเปิลกุมการจัดจำหน่ายผลงานเพลงเอาไว้ในมืออย่างเหนียวแน่น รวมทั้งกลายเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการเพลงได้สบายๆ และตัดคนกลางออกจากธุรกิจเพลงของแอปเปิลได้อย่างสมบูรณ์แบบ งานนี้เป็นได้ว่า บรรดาผู้บริหารค่ายเพลงยักษ์ๆ ไม่ว่าจะเป็นโซนี, ยูนิเวอร์แซล, อีเอ็มไอ ฯลฯ อาจจะถึงกับนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว
ผลจากดีลนี้ ยังยกแอปเปิลให้กลายเป็นคู่แข่งรายสำคัญของสปอติฟายผู้ให้บริการฟังเพลงสตรีมมิงยักษ์ใหญ่ในวงการตอนนี้ทันที โดยเฉพาะการที่บริการฟังเพลงของบีทส์ ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนมกราคมนี้เอง สามารถสร้างสมาชิกได้ถึง 200,000 รายภายในเวลาแค่ 4 เดือน ถึงจะยังห่างจาก 10 ล้านรายของสปอติฟาย แต่ด้วยอัตราการเติบโตในแบบที่เห็น บวกกับสิ่งที่แอปเปิลมี แค่แอปเปิลขยับนิดเดียว ก็น่าจะไปได้ฉลุย
ยิ่งไปกว่านั้น แอปเปิลยังได้ตัวคนทำงานสำคัญๆ มาด้วย เพราะไอโอไวน์จะลาออกจากอินเตอร์สโคป มาทำหน้าที่ที่ปรึกษาให้แอปเปิลเต็มตัว ส่วนเดรก็เป็นพี่เบิ้มในวงการฮิพ-ฮอพ, แร็พ อยู่แล้ว แถมเทรนท์ เรซเนอร์ แห่งวงไนน์ อินช์ เนลส์ ที่ทำงานกับบีทส์ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟก็จะเข้ามาอยู่ในชายคาด้วย ส่งให้ภาพของแอปเปิลมีความเป็นบริษัทของศิลปินมากขึ้น ไม่ใช่พ่อค้าเพลงหน้าเลือด และคนอย่างไอโอไวน์, เดร หรือ เรซเนอร์ ที่เป็น “ขาใหญ่” ในวงการ ก็น่าจะทำให้ศิลปินท็อปๆ อย่างเลดี กาก้า หรือว่ายูทูว์ รวมไปถึง เอมิเน็ม, สนูพ ด็อกก์ เข้ามาทำงานแบบ “พิเศษ” กับแอปเปิลมากขึ้น และ “ง่าย” ขึ้น
มาถึงตอนนี้ ค่ายเพลงไม่ใช่องคาพยพสำคัญของวงการเพลงอีกต่อไปแล้ว และการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง!!!!
จากเรื่อง ว่าที่เจ้าพ่อวงการเพลงคนใหม่ และเศรษฐีพันล้านคนแรกของวงการเพลงฮิพ-ฮอพ โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 13 พฤษภาคม 2557