ดูมาแล้ว 11-12-13 รักกันจะตาย ที่ขาดหายคือบท กับความลงตัว

11-12-13 รักกันจะตาย: หนังสยองขวัญ 3 เรื่องที่มีเหตุการณ์หนึ่งร้อยเชื่อมเข้ามาเป็นเรื่องเดียวกัน โดยทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 11-12-13 เมษายน

เริ่มจาก 11เรื่องความรักหนุ่มสาว ที่ฝ่ายชายจะเลิกลา แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมถึงขั้นขู่ฆ่าตัวตาย แล้วก็เป็น 12 เรื่องของกลุ่มเพื่อนๆ ที่หนึ่งในกลุ่มไปปิ๊งสาวใกล้บ้าน ที่จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งมาว่า เขาเสียชีวิตแล้ว โดยหนุ่มคนที่ว่า ยังอยู่ในบ้านเดียวกับเพื่อนๆ ด้วยหน้าตาเยินๆ อีกต่างหาก ปิดท้ายด้วย 13 เรื่องของสาวสวยที่ไปเที่ยวสงกรานต์กับเพื่อนสาว ที่ฝ่ายหลังกลายเป็นศพตั้งอยู่ในศาลาวัดเรียบร้อยแล้ว

ทั้งสามเรื่องมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป 11 น่าจะตั้งใจให้เป็นหนังขายบรรยากาศ แล้วก็ช็อคคนดูอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะหักมุมแบบเซอร์ไพรส์ ส่วน 12 มาพร้อมอารมณ์ขันแบบวัยรุ่นกวนๆ และแน่นอนปิดท้ายแบบหักมุมอีกเช่นกัน 13 หนังเผยความจริงให้รู้กันตั้งแต่ต้น (หรือตั้งแต่ในตัวอย่าง) เรื่องหักมุมไม่ใช่เรื่องใหญ่ ความสนุกอยู่ที่ว่า ตัวละคร ‘คน’ ที่เดินทางไปด้วยนั้น จะรู้ความจริงเมื่อไหร่ และจะทำยังไง โดยหนังมาพร้อมอารมณ์ขันแบบเต็มสูบ

โดยความสนุก 13 น่าจะโอเคที่สุด แล้วก็เป็น 12 ขณะที่ 11 ดูขาดๆ เกินๆ เต็มไปหมด แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน หนังมีปัญหาแน่ๆ ที่บทและการเล่าเรื่อง กับเรื่องแรกบทสรุปที่หวังจะเซอร์ไพรส์ กลายเป็นสิ่งที่คนดูเดาได้ไม่ยาก ด้วยสภาพโรงพยาบาลที่ดูไม่ใช่สถานที่ปกติทั่วไป หนังพยายาม ‘รุก’ ตัวละครมากจนเกินไป จนละเลยเรื่องการสร้างความน่าพรั่นพรึง ใช้สถานที่ และการกระทำของตัวละครได้ไม่คุ้ม บทพูดของตัวละครบางตัวก็ซ้ำไปซ้ำมา จนน่ารำคาญ แม้อาจจะทำให้นึกถึง “รถมือสอง” ในหนังตระกูลแพร่ง แต่ก็ขาดพร่องกว่าเยอะ โดยเฉพาะ ‘บรรยากาศ’

ส่วน 12 หนังมีเสน่ห์ที่บทพูด และการกระทำของตัวละครที่รับ-ส่งกันใช้ได้ แต่ก็น่าจะดีกว่านี้ หากจังหวะของหนังไม่ออกมาดูหน่วงๆ ประมาณว่าเหมือน ตลกคาเฟ่ เวลายิงมุขไปแล้ว กลองตึ่งโป๊ะช้ากว่าที่ควรจะเป็น ถ้าจังหวะหนังได้ งานที่คล้ายๆ ‘คนกอง’ ของหนังตระกูลแพร่งเรื่องนี้ ก็น่าจะเข้าท่าเข้าทางกว่าที่เป็น แล้วหนังก็ดันเผยกุญแจสำคัญที่ถูกนำมาใช้หักมุมในตอนท้ายอีกต่างหาก ที่จะทำให้คนดูรู้สึก ‘เฮ้ย!’ ก็เป็นได้แค่ ‘อ๋อ กูว่าแล้ว’เท่านั้น

13 หนังดูลงตัวที่สุด เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ และถึงดูสด ใหม่ กว่าด้วยเช่นกัน มุขตลกทำงานได้ดี การวางจังหวะถือว่าเข้าท่าเข้าทางกว่า 12 หากก็ไม่ค่อยกระชับ หลายๆ ฉาก หลายๆ เหตุการณ์ดูเยิ่นเย้อไปบ้าง เลยทำให้หนังออกมาหนืดๆ อยู่หลายช่วง เช่นเดียวกับบางสถานการณ์ที่เห็นได้ชัดว่าแปะมาเพื่อสร้างอารมณ์ขัน แต่ไม่สร้างน้ำหนักให้กับเรื่องแต่อย่างใด

ในความเป็นหนังสยองขวัญ 11-12-13 รักกันจะตาย จับไม่ติดในเรื่องของอารมณ์ ตอนที่ต้องหลอนระทึก ก็ดูเฉยๆ ตอนที่ต้องลุ้นแบบหวาดๆ ผสมไปกับเสียงหัวเราะก็ทำได้แค่อย่างหลัง แถมหนังตอนที่ต้องเก็บจุดหักมุมเอาไว้ให้มิด ก็ปล่อยตัวเฉลยออกมาให้เห็นแบบคนดูคิดเดากันได้ซะอย่างนั้น ก็เลยไม่มีอะไรที่เซอร์ไพรส์ แบบ ‘ว้าวๆ’ แล้วเหตุการณ์เชื่อมเรื่อง ก็เหมือนกับการแบหน้าไพ่ให้คนในวงได้เห็น เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ความประหลาดใจของหนังขาดหายด้วยเช่นกัน ยิ่งใส่มาในทุกตอน ทุกเรื่อง ก็กลายเป็นความจำเจสำหรับคนดู

แต่หนังก็มี ไอเดียในการสร้างพล็อต วางเรื่อง แม้ไม่ถึงกับสดใหม่ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าผ่านการ ‘คิด’ มาไม่น้อย ถ้าบท และการเล่าเรื่องช่วยมากกว่านี้ 11-12-13 รักกันจะตาย ก็น่าจะเป็นหนังสยองขวัญที่ลงตัว ใช่ และได้มากกว่าที่เห็น

ควรชมหากชอบ: 4 แพร่ง, 5 แพร่ง, ตีสาม

โดย นพปฎล พลศิลป์