
นอกจากจะมีความยาวไม่มาก เรียกได้ว่าขนาดกำลังพอดีหรือกระทัดรัดเลยด้วยซ้ำกับจำนวนแค่ 8 ตอน การเล่าเรื่องโดยรวมกระชับ ฉับไว แม้ในตอนท้าย ๆ จะมีปัญหาเดียวกับซีรีส์เกาหลีอีกหลาย ๆ เรื่องจนเปรียบเสมือนเป็นลายเซ็นของงานเค-ดรามาก็ว่าได้ เมื่อรวบรัดตัดความ ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ และปิดจบลงอย่างง่ายดาย
แต่ปมของเรื่อง และประเด็นที่นำเสนอ ก็ถือว่าเข้ายุคเข้าสมัย เป็นงานที่ “ตีแผ่” สังคมเกาหลีรวมถึงสภาพเศรษฐกิจ (หรือในอีกหลาย ๆ ประเทศก็ว่าได้) ในยุคโควิด-19 และหลังโควิด-19 ระบาด เมื่อกลายเป็นยุคเฟื่องฟูของพวเงินกู้นอกระบบ กิจกรรมใหญ่ ๆ ที่เคยเป็นศูนย์รวมผู้คน ต้องจัดกันโดยไร้ผู้ชมในงาน มีเพียงผู้คนที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ที่มีส่วนร่วมโดยตรง
ซึ่งทำให้เนื้อหาที่ถูกนำเสนอไม่ว่างเปล่า ขณะเดียวกันการสอดแทรกประเด็นทางสังคมเหล่านี้ ก็ไม่ได้ถูกใส่เข้ามาแบบปราศจากความแยบคาย หรือประหยัดความคิดสร้างสรรค์ทางศิลปะ เพราะผสมผสานไปกับความบันเทิงที่ถูกนำเสนอได้อย่างกลมกลืน
Bloodhounds เป็นซีรีส์อีกเรื่องที่มีที่มาจากเว็บตูนที่ใช้ชื่อเดียวกัน โดยเป็นฝีมือของจองชาน ที่ปล่อยออกมาให้อ่านตั้งแต่ 16 พฤษภาคม 2019 – 24 ธันวาคม 2020 ช่วงเวลาการทำงานของโควิด-19 เนื้อหาของซีรีส์ว่าด้วยชีวิตของสองนักมวยหนุ่ม ที่มาเจอกันในการแข่งขันชิงแชมป์ระดับประเทศ ซึ่งจัดขึ้นในสนามกีฬาที่ว่างเปล่าเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 คิมกันอู (อูโดฮวาน) เป็นนักมวยหนุ่มฝีมือดี ท่าทางสุขุม กับฮงอูจิน (อีซังยี) ที่แม้จะมีฝีไม้ลายมือ หากก็แตกต่างจากคิมกันอู เมื่อเป็นนักมวยสายปั่น ชอบยั่วยุคู่ต่อสู้
ด้วยฝีมือที่เยี่ยมยอด ทั้งคู่โคจรมาเจอกันในนัดชิง ซึ่งคงเดากันได้ไม่ยากว่า ใครที่จะคว้าชัยชนะไป
หากทั้งคู่ก็มีอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน ชีวิตส่วนตัวที่ต่างก็มีปัญหา ฮงอูจินเป็นพวกที่หางานทำไปเรื่อย ๆ ทั้งงานสุจริตและงานเทา ๆ ส่วนคิมกันอูก็รับงานสารพัดเพื่อเอาเงินมาช่วยเหลือแม่ ที่เป็นหนี้พวกเงินกู้นอกระบบของ คิมมยองกิล (พัคซองอูง) ที่พัวพันเกี่ยวเนื่องกับนักการเมือง รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพวกนักลงทุน ซึ่งมีเป้าหมายใหญ่ในการเปิดคาสิโนบนโรงแรมของบริษัทที่กำลังมีปัญหาเรื่องการเงิน
เพราะต่างก็เป็นอดีตนาวิกโยธินเหมือนกัน ความสัมพันธ์ของอดีตคู่ชกบนเวทีจึงดำเนินไปได้ด้วยดีอย่างรวดเร็ว ฮงอูจินพาคิมกันอูไปสมัครงานหลายต่อหลายแห่ง ผ่านบรรดาอดีตรุ่นพี่และเพื่อนที่เคยเป็นนาวิกโยธินเหมือน ๆ กัน และจบลงที่การเป็นบอดีการ์ดให้กับคิมฮยอนจู (คิมแซรน) หลานสาวของประธานชอย (ฮอจุนโฮ) ซึ่งอดีตเคยออกเงินกู้นอกระบบ แต่ปัจจุบันหันมาช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากจากพวกออกเงินกู้หน้าเลือดแทน ด้วยการให้กู้แบบไม่มีดอกเบี้ย และพยายามหาทางตัดตอนเส้นทางการเงินของพวกมัน
ทำให้คิมกันอูกับฮงอูจินเข้ามาอยู่ในโลกของพวกเงินกู้นอกระบบ โดยศัตรูตัวฉกาจที่พวกเขาและประธานชอยต้องรับมือก็คือ คิมมยองกิล ที่เคยมีความสัมพันธ์กับประธานชอยมาเมื่อครั้งอดีต
โดยรวม ๆ แล้ว พล็อตอย่างที่เห็นเรื่องราวอย่างที่เป็นของ Bloodhounds น่าจะทำให้คอหนังเค-ดรามาคุ้นเคยอยู่บ้าง เพราะมีหลาย ๆ อย่างที่ทำให้นึกถึง Taxi Driver ซีรีส์ฮิตอีกเรื่อง ที่เพิ่งปล่อยฤดูฉายที่สองออกมาก่อนหน้านี้ไม่นาน ซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าของบริษัทให้เช่าแท็กซี่ ที่ทำตัวเป็นศาลเตี้ยช่วยเหลือผู้ที่ถูกเหล่าอาชญากรเล่นงาน แต่รายละเอียดต่าง ๆ ก็มีความแตกต่างกันไม่น้อย รวมทั้งบรรยากาศของซีรีส์ Bloodhounds ซีเรียส มีความเป็นงานแอ็กชันมากกว่า ส่วนงานที่พัคซอจุนเป็นดารานำ มีอารมณ์ขัน มีโทนที่เบากว่า และฉากแอ็กชันก็ไม่ดุเดือดเท่า
หากทั้งสองเรื่องต่างก็เล่าเรื่องได้สนุก โดยคอหนังพันธุ์ซาดิสม์น่าจะถูกอกถูกใจ Bloodhounds เป็นพิเศษ กับฉากบู๊ที่ทำงาน และมีดีกรีของความรุนแรงยกระดับไปอีกขั้น แถมหลายฉากก็เติมความตื่นเต้น ความหวาดเสียว ๆ ในระหว่างชมอีกด้วย
นอกจากทำได้ดีกับการหยิบประเด็นร่วมสมัย ทันเหตุการณ์ทางสังคม แทรกเข้ามาได้อย่างกลมกลืน Bloodhounds ยังมีดีเรื่องตัวละคร ที่แต่ละรายมีเสน่ห์ มีความน่าสนใจ ตั้งแต่คิมกันอูกับฮงอูจิน สองตัวละครหลักที่ลักษณะแตกต่างกัน คนหนึ่งดูสุขุม สุภาพ เรียบร้อย อีกคนก็ดูโฉ่งฉ่าง กะล่อน แต่เมื่ออยู่ด้วยกันกลับเข้ากันเป็นปีเป็นขลุ่ย ราวหยินกับหยาง ซึ่งต้องให้เครดิตกับนักแสดงที่มารับบท อูโดฮวานกับอีซังยีที่เล่นรับ-ส่งได้เนียนตา คิมแซรนที่เล่นเป็นหลานสาวประธานชอย ก็ดูขึ้นกล้อง สวย และน่ารัก แต่พอถึงคราวต้องเป็นสาวบู๊ ก็ทำได้ไม่เคอะเขิน จนรู้สึกเสียดายที่ปัญหานอกจอ ทำให้ตัวละครของเธอไม่สามารถอยู่กับเรื่องไปได้จนจบ หากหนังก็หาทางออกให้กับตัวละครได้ดี ที่เป็นปัญหาก็คือ ตัวละครที่เข้ามารับหน้าที่แทนเธอ ซึ่งดูรวบรัดและเป็นยอดหญิงเกินวัย จนดูไม่น่าเชื่อถือ และกลายเป็นความบางเบาอีกอย่างของซีรีส์เรื่องนี้ เพิ่มเติมจากบทสรุปตอนท้าย ที่ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแผนของตัวละครฝ่ายดีไปซะหมด มีตัวช่วยที่ยื่นมือเข้ามาช่วยแบบง่าย ๆ ตัวร้ายคิมมยองกิลที่ปูมาน่ากลัว ฉลาด ก็พลาดดื้อ ๆ แต่ก็อย่างที่บอกไว้ในตอนต้น ว่าคงเป็นลายเซ็นของซีรีส์เกาหลี (?) เพราะมักลงเอยในลักษณะนี้ จนงานหลาย ๆ เรื่องที่มาดีโดยตลอดกลับจบลงแบบไม่สมกับที่ว่ามาตั้งแต่ต้นสักเท่าไหร่
ตัวอย่างที่นึกได้ทันทีในตอนนี้ก็คือ The Glory
หากในมุมสำหรับคอซีรีส์ที่ดูเพื่อความบันเทิง มันก็เป็นเรื่องสะใจดี
มาที่เรื่องของตัวละครต่อ นอกจากตัวละครหลัก บรรดาตัวละครสมทบ เช่น แก๊งมือมีดของประธานชอย, อิมบอม สมุนเอกร่างยักษ์ของคิมมยองกิล ก็มาทำให้เรื่องมีสีสัน และมีเสน่ห์มากขึ้น โดยเฉพาะฝ่ายแรก ที่ทำให้เรื่องมีมิติในเรื่องอารมณ์จากความสัมพันธ์ที่มีต่อผู้คนรอบข้าง จนความเป็นไปของพวกเขาในตอนท้าย ก็ทำให้ผู้ชม “รู้สึก” บางอย่าง ที่อาจจะทำได้ดีกว่าบรรดาตัวละครหลักด้วยซ้ำไป
และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Bloodhounds ตอบโจทย์ในเรื่องความบันเทิง เมื่อผสมกับองค์ประกอบอื่น ๆ ที่แม้จะมีบกพร่องบ้าง บิดเบี้ยวบ้าง แต่พอรวมกันแล้วก็แข็งแรงมากพอจะเป็นงานครบรส ตอบสนองอารมณ์ของผู้ชมกลุ่มใหญ่ได้สำเร็จ อย่างที่เห็น
ผู้กำกับ: คิมจูฮวาน ผู้เขียนบท: คิมจูฮวาน จากเว็บตูนเรื่อง Bloodhounds โดย จองชาน นักแสดง: อูโดฮวาน, อีซังยี, พัคซองอูง, ฮอจูนโฮ
โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ วิจารณ์-แนะนำ นิตยสารสีสัน ปีที่ 34 ฉบับที่ 6 กรกฎาคม 2566
ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่