ดูมาแล้ว Crimson Peak งดงาม อลังการ พิศวาส ฆาตกรรม งานทริบิวท์ในแบบเดล โทโร

CRIMSON PEAK: เรื่องราวแบบผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งงานแต่งการ แล้วย้ายไปใช้ชีวิตร่วมกับสามีที่แดนไกล และเจอการต้อนรับแบบเย็นชาจากคนในบ้าน ซึ่งก็เปลี่ยนกันไปตามเรื่องราว จะเป็นแม่, สาวใช้ หรือญาติโกโหติกา ทางใดทางหนึ่ง ที่ยังพยายามปกปิดความลับอะไรบางอย่าง ของตัวเอง ของฝ่ายชาย รวมไปถึงสถานที่อยู่อาศัยก็มีบรรยากาศแปลกๆ รวมไปถึงมีสิ่งลึกลับบางอย่าง

เป็นเรื่องในแบบสูตรสำเร็จที่เห็นกันมายาวนาน ซึ่ง Crimson Peak ก็ไม่ได้พยายามฉีกหนีไปตรงไหน
แล้วก็ไม่ได้วางตัวเองให้กลายเป็นหนังภูตผีปีศาจแต่อย่างใด แต่เอาเข้าจริงๆ หนังดูเป็นงานโรแมนติค พิศวาสฆาตกรรม ความสัมพันธ์ซ่อนเร้นของผู้คน ที่มีความโลภเป็นตัวตั้งซะมากกว่า

และทั้งหมดถูกห่อหุ้มเอาไว้ในบรรยากาศแบบงานกอธิค ที่เดล โทโร จัดใหญ่ มาเต็มในเรื่องของโปรดัคชัน เสื้อ ผ้า หน้าผม ฉากต่างๆ โดยเฉพาะปราสาทโบราณ ที่ราวกับเป็นตัวละครตัวหนึ่งของหนัง และเป็นสัญลักษณ์บางอย่างที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ อลังการ ที่อาจจะเคยดูสวยงาม ยิ่งใหญ่ในอดีต แต่วันนี้กลับดูผุผัง น่าพรั่นพรึง รอการซ่อมแซมครั้งใหญ่ และการเปรียบเปรยคล้ายๆ กันแบบนี้ ก็มีให้รู้สึกอีกหลายๆ ครั้ง

จากที่เริ่มต้นด้วยความเนิบเนือย หนังค่อยๆ ทำให้รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาช้าๆ โดยเฉพาะการรอเวลาว่า เรื่องราวทุกอย่างจะถูกเฉลยออกมายังไง และเมื่อไหร่ ที่เมื่อทุกอย่างเริ่มชัดเจนขึ้น Crimson Peak ก็เดินหน้าไปอย่างมีรสชาติ โดยเฉพาะในช่วง 15-20 นาทีสุดท้าย

ในเรื่องราวที่รู้ๆ กันดีอยู่ มันก็ออกมาสนุก และถึงอกถึงใจได้

แม้อาจจะรู้สึกขาดๆ อยู่บ้าง กับบรรยากาศของหนังที่ไม่หลอนได้ใจ หรือไม่ชวนให้รู้สึกหวาดๆ อย่างที่ควรจะเป็น แต่ในอีกมุมหนึ่ง นี่คือหนัง ที่รู้สึกได้ถึงอารมณ์แบบนั้นเมื่อย้อนกลับไป และกับการเล่นใหญ่ ใส่เต็มในส่วนของโปรดัคชันทั้งหลาย ที่หากสืบเนื่องไปถึงหนังอีกมากมายที่เดล โทโร มีส่วนเกี่ยวข้อง

มันก็คือการแสดงความยกย่อง ชื่นชม ในแบบเดียวกับที่เขาเคยทำกับหนังหุ่นยนต์ สัตว์ประหลาด ที่ตัวเองชื่นชอบ ที่ออกมาเป็น Pacific Rim นั่นเอง

โดย นพปฎล พลศิลป์

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านงานวิจารณ์หนัง และเพลง แบบนี้ ได้ด้วยการกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์กันไว้ก่อน ได้ที่นี่