ดูมาแล้ว: HUNT ล่าคนปลอมคน “เรื่องของหนูหรือหนอนบ่อนไส้ ในระดับประเทศ”

เห็นเป็นหนุ่มโรแมนติกมาตั้งแต่หลายสิบปีก่อนใน ‘Il Mare’ กับจวนจีฮยอน แล้วก็กลายเป็นหนุ่มมาดแมนใน ‘Typhoon’ ประกบแจงดองกัน ต่อด้วยบทแบบจิต ๆ ใน ‘The Housemaid’ ขายฮาใน ‘The Thieves’ ที่ขึ้นจอพร้อมนักแสดงกลุ่มใหญ่ ตามด้วยตัวร้ายใน ‘Deliver Us from Evil’ ที่มีข่าวว่าไปได้ดีจนถึงขั้นจะมีหนังตอนแยกของตัวเอง

พอไปเป็นส่วนหนึ่งใน ‘Squid Game’ มาถึงตอนนี้อะไร ๆ ก็หยุดอีจองแจไม่อยู่แล้ว

และ ‘Hunt’ งานกำกับเรื่องแรกของเขา ก็แสดงให้เห็นว่า นักแสดงคนนี้มีอะไรในตัวมากจริง ๆ

เรื่องย่อของ ‘Hunt’ สรุปได้ง่าย ๆ ว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ สงสัยว่าจะมีหนอนบ่อนไส้หรือหนูจากเกาหลีเหนือ อยู่ในหน่วยสืบราชลับทั้งแผนกต่างประเทศและในประเทศ ซึ่งพัวพันกับแผนลอบสังหารประธานาธิบดี จึงให้หัวหน้าแผนกทั้งสองฝ่ายทำการสืบหา ที่ไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นสืบกันเอง

ซึ่งรายละเอียดที่พวกเขาค้นพบนั้น นำไปสู่ความจริงที่ชวนช็อคมากมาย เมื่อไม่ใช่มีแค่ฝ่ายเกาหลีเหนือเท่านั้น ที่เกี่ยวพันกับแผนการล่าสังหารประธานาธิบดี และนำไปสู่เหตุการณ์พลิกผันในตอนท้าย

โดยยังมีเรื่องราวอีกมากมายเข้ามาเกี่ยวพัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เรื่องของมุมมองทางการเมือง ที่คนซึ่งอยู่คนละขั้วต่างมองไม่เหมือนกัน ฝายหนึ่งขอเพียงชีวิตมีความสุข อยู่อย่างสงบ พี่น้องสายเลือดเดียวกันได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยไม่ต้องเจอกับภาวะสงคราม มันก็สวยงามแล้ว ขณะที่อีกฝ่ายกลับคิดถึงเรื่องของการอยู่ในโลกที่เป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่เผด็จการ ไม่อยู่ใต้อำนาจของรัฐบาลที่ทำร้ายประชาชน ซึ่งไม่มีใครที่ผิด เพราะทัศนคติหรืออุดมการณ์ที่เกิดขึ้น ถูกหล่อหลอมด้วยสภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ ซึ่งท้ายที่สุดสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้การตัดสินใจของตัวละครเปลี่ยนไปจากเดิม ในแบบที่ไม่รู้ว่า ใครกันที่เป็นหนู ใครกันที่เป็นหนอนบ่อนไส้ตัวจริง

ร้ายที่สุดก็คือ ชาติมหาอำนาจบางประเทศ ที่เคยอยู่ข้างฝั่งหนึ่ง แต่เมื่อสามารถต่อรองผลประโยชน์กับเป้าในการสังหารได้ ก็ทิ้งทุ่นอีกฝ่ายไปหน้าตาเฉย จนทำให้สถานการณ์ของทั้งคู่สลับขั้วกัน เมื่ออีกฝั่งตัดสินใจใช้วิธีรุนแรงเพื่อจัดการรวมประเทศ

ตัวเรื่องเต็มไปด้วยความซับซ้อน เมื่อตัวละครทั้งสองฝ่ายต่างวางแผนรับมือ หักเหลี่ยมเฉือนคน กันแบบทันทีทันควัน สลับกันรุก-รับไปมา ซึ่งการคลี่คลาย หรือที่มาที่ไป ส่วนใหญ่คือโปรยหว่านเอาไว้ให้ผู้ชมเก็บมาคิดต่อเอง รวมไปถึงยังมีปูมหลังเรื่องเหตุการณ์ทางการเมืองของเกาหลี การปกครองของประเทศมาเกี่ยวข้อง ที่อยู่หนึ่งประเทศนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหารมายาวนาน มีการประท้วงกันเป็นรายวัน และมีการปราบปรามอย่างรุนแรงเป็นระยะ ๆ

กับตัวละครก็ไม่ต่างกัน ความเป็นมา แบ็คกราวนด์ของพวกเขา ที่ทำให้ทำแบบนี้ ตัดสินใจอย่างนั้น ล้วนถูกวางเอาไว้ให้ผู้ชมเอาไปประกอบ ที่เก็บได้ดี มีครบ ก็จะรู้ว่าการกระทำ การตัดสินใจของพวกเขา เป็นไปอย่างมีเหตุมีผล แล้วก็ไม่หลงลืมเรื่องราวชีวิตส่วนตัว ที่หนังทำให้รู้ว่า ด้วยชีวิตที่เป็นอยู่ของแต่ละคนหน้าที่หรือภารกิจของตัวเองได้กลืนชีวิตครอบครัวของพวกเขาไปเรียบร้อย ที่สำคัญ ผู้ชมยากจะเชื่อตัวละครคนใดคนหนึ่งได้อย่างสนิทใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นฝั่งไหน ต่างก็มีแผลหรือพิรุธให้รู้สึก พอจะวางใจให้ก็มีไฟเข้ามาสุมให้ลังเล

หากที่วางใจได้แน่ ๆ ก็คือ คุณภาพการแสดง ที่ทำให้พวกเขาและเธอวางใจไม่ได้อย่างที่เห็น ตั้งแต่ผู้กำกับ-อีจองแจกกับเพื่อนซี้จังวูซุงในบทนำ ไล่ไปจนถึงบรรดานักแสดงสมทบทั้งหลาย ที่เอาตายทุกรายไป

ด้วยเรื่องราวที่มีหลากหลายประเด็น มากมายแง่มุม ความเป็นไปของตัวละครที่ไม่แน่นอน ไม่ใช่ทุกคนที่ดูหนังซ่อนเงื่อน การเมือง เรื่องนี้ได้สนุก แต่ที่ย่อมสัมผัสได้ก็คือ ความเข้มข้น จริงจัง ซึ่งองค์ประกอบทุกอย่างของหนังก็ช่วยเร้าอารมณ์ สร้างความระทึกขวัญเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น ดนตรีประกอบ มุมกล้องการตัดต่อ ที่รุกเร้า กดดัน ให้ลุ้นระทึก ที่พอรวมกับข้อมูลหนา ๆ แล้ว ‘Hunt’ คืองานที่แน่น ๆ ขึงขัง แล้วก็มีฉากแอ็กชันใหญ่ ๆ ให้ตื่นตา ตั้งแต่ฉากลอบสังหารในสหรัฐอเมริกาตอนต้นเรื่อง ฉากสุดท้ายในบ้านเราก็เมามันส์แบบงานยิ่งภูเขาเผากระท่อม ส่วนฉากชิงตัวผู้ขอลี้ภัยก็มาในสไตล์กับ ‘Heat’ ที่เข้มข้น ดุดัน หนังวางจังหวะของหนังแอ็กชันเข้ามาได้ดี จนต่อให้ไม่คลี่คลายกับหลายประเด็นของหนังก็ยังมันส์กันฉากเหล่านั้นได้ เช่นเดียวกับการเผยปมสำคัญ ๆ ทั้งหลาย ที่ทำได้ถูกจังหวะเวลา ที่บางครั้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวละครก็อดทำให้นึกถึง ‘Infernal Affairs’ ไม่ได้

ในแง่ของตัวละคร ‘Hunt’ ก็คือการยกระดับหรือฉีกตัวละครของ ‘Infernal Affairs’ ไปอีกทางหรืออีกขั้น ซับซ้อนและพลิกผันไปมาในเรื่องของการตัดสินใจ ที่ขึ้นอยู่กับนโนธรรม ทัศนคติของตัวเอง เป็นไปจากการหล่อหลอมของเหตุการณ์ ไม่ใช่จากคำบัญชาหรือว่าการป้อนข้อมูลจากใคร เมื่อรวมเข้ากับการเล่าเรื่องที่เล่นใหญ่ (แล้วเล่นได้ดี) ปมของเรื่องที่กลายเป็นงานการเมืองระดับประเทศ ‘Hunt’ คืองานที่มีที่ทางของตัวเอง มีสไตล์ไปในอีกทางได้สำเร็จ และแสดงถึงความสามารถการทำงานหลังกล้องของอีจองแจ ว่าช่ำชองขนาดไหน แม้จะเป็นงานชิ้นแรก

และความตามล่า หามาดู

นพปฎล พลศิลป์

ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่